ธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์เป็นหน้าตาของแบรนด์บนโลกออนไลน์ หากสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ แสดงตัวตนของแบรนด์ และนำเสนอข้อแตกต่างที่โดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นได้ ก็จะสามารถสร้างแรงดึงดูดทางธุรกิจให้ผู้คนที่ใช่เข้ามาศึกษาผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ
ในบทความนี้ Cotactic จะมาแนะนำหลักการออกแบบเว็บไซต์ให้ปังตั้งแต่ครั้งแรก โดยเรารวบรวมหลายศาสตร์จำเป็นที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าในอนาคตได้รู้จักคุณดีขึ้น ทั้งในเชิงข้อมูลและอารมณ์ความรู้สึกที่สื่อสารผ่านเว็บไซต์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์
สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนสร้างเว็บไซต์ธุรกิจ
เจ้าของธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นสร้างแบรนด์ออนไลน์จะต้องเตรียมตัวตั้งต้นหลักคิดให้ถูกต้อง ก่อนจะไปถึงขั้นตอนออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ตรงตามภาพที่มีอยู่ในใจ
1. ตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์การใช้งานเว็บไซต์
ก่อนออกแบบเว็บไซต์ คุณจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายและตั้งจุดประสงค์ของการใช้งานภายในเว็บไซต์ให้ชัดเจน สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจ และเป้าหมายการสื่อสารแบรนด์ เพื่อนำมาวางหลักการประกอบการตัดสินใจเลือกระบบหลังบ้าน และหน้าตาเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
2. เลือกรูปแบบที่ตอบโจทย์ในราคาที่เหมาะสม
เว็บไซต์ประกอบด้วยหลายประเภท อาจแบ่งได้ตามลักษณะความซับซ้อนของการใช้งาน ตัวอย่างเช่น

2.1 Amateur Website หรือ Web Template เว็บไซต์สำเร็จรูป
- ราคาเริ่มต้น: 280 บาท ต่อเดือน
- ความโดดเด่น: สร้างเว็บไซต์ผ่านแพลตฟอร์มช่วยสร้างเว็บไซต์ออนไลน์อัตโนมัติ ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ด้วยตนเองอย่างง่าย โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เพียงเลือกเทมเพลตหน้าตาสำเร็จรูป แล้วปรับแต่งสัดส่วนการแสดงผล เปลี่ยนสีและฟอนต์ในเบื้องต้นเอง
- เหมาะสำหรับ: Solopreneur ที่ขายความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เน้นสร้าง Personal Branding สื่อสารเรื่องเดิม
- ข้อจำกัด: ในแพ็กเกจเริ่มต้นมักให้บริการไม่เกิน 3-5 หน้า เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์และบริการไม่กี่ประเภท
2.2 Landing Page เว็บไซต์ลงทะเบียน
- ราคาเริ่มต้น: 9,000 บาท โดยมากจะมีบวกค่าบริการกลยุทธ์และแผนการตลาดออนไลน์เพิ่มเติม
- ความโดดเด่น: เว็บไซต์หน้าเดียวไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับหน้าเว็บไซต์หลัก เน้นสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจให้คลิกปุ่ม Call to Action มีวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ชัดเจน เน้นสร้าง Conversion เพื่อสนับสนุนแคมเปญการตลาดเฉพาะกิจหรือเฉพาะโครงการ เช่น สมัครรับ e-book สรุปความรู้ฟรี, นัดหมายเข้าเยี่ยมชมสถานที่จริง, หรือขอรับบริการให้คำปรึกษาฟรี เป็นต้น เพื่อแลกกับการกรอกแบบฟอร์มขอข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า พร้อมคำอนุญาตให้นักขายหรือนักการตลาดติดต่อกลับไปเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ลูกค้าให้ความสนใจในช่องทางที่สะดวก
- เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ต้องให้คำปรึกษาและให้ Sales ปิดการขาย เช่น SAAS, อสังหาริมทรัพย์, ประกันภัย, โรงแรม, และธุรกิจ B2B
- ข้อจำกัด: ต้องออกแบบใหม่เมื่อเปลี่ยนโครงการ ไม่ควรเปลี่ยนเนื้อหาและรูปแบบโดยใช้ URL เดิม มักต้องสร้างโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลอื่นและ Google Ads อาจจะต้องมีงบประมาณสำหรับแข่งขัน Bid ราคาคำค้นหา เพื่อพามายังหน้าเว็บไซต์ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญรับทำ SEO ขั้นสูงคอยดูแลให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรกของ Google
2.3 Corporate Website เว็บไซต์องค์กร
- ราคาเริ่มต้น: 15,000 บาท
- ความโดดเด่น: วางโครงสร้างเว็บไซต์ได้ซับซ้อน แบ่งเนื้อหาหลายหน้า นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการได้หลากหลาย หรือแยกการสื่อสารกับผู้บริโภค คู่ค้า นักลงทุน และผู้สนใจร่วมงาน โดยมากจะมีหน้า Blog คอยให้ความรู้ดึงดูดลูกค้าที่สนใจ และสื่อสารข่าวสารภายในองค์กร
- เหมาะสำหรับ: ทุกประเภท มักเป็นองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ ต้องการความน่าเชื่อถือสูง
- ข้อจำกัด: โดยมากมักขาดผู้ผลิตเนื้อหามืออาชีพ ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะทางให้น่าสนใจ ง่ายต่อความเข้าใจของบุคคลทั่วไป ขาดความเข้าใจการสื่อสารองค์กรผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย และขาดความรู้เชิงเทคนิค SEO
2.4 E-commerce Website เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์
- ราคาเริ่มต้น: 30,000 – 100,000 บาท
- ความโดดเด่น: นอกจากหน้าเว็บไซต์หลักเพื่อการสื่อสารแบรนด์แล้ว ยังติดตั้งระบบตะกร้าสินค้าเพื่อเปิดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการออนไลน์ ซึ่งมีข้อดีคือแบรนด์จะจัดเก็บข้อมูลลูกค้าเชิงลึกมาวิเคราะห์ได้ละเอียดกว่าใช้บริการแพลตฟอร์ม E-Marketplace
- เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ B2C ค้าปลีกที่ต้องการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศโดยไม่ต้องเปิดสาขา
- ข้อจำกัด: สื่อสารกับลูกค้าผ่าน Email เป็นหลัก เพื่อแจ้งการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนจนกว่าจะจัดส่งถึงบ้าน อาจต้องอบรมการใช้งานแก่ผู้ดูแลระบบหลังบ้าน เนื่องจากเว็บไซต์มีความเฉพาะตัว เพื่อให้คุ้มค่าแก่การลงทุนควรติดตามการซื้อขายได้แบบ Multi-channel เพื่อไม่ให้พลาดลูกค้าคนสำคัญในทุกช่องทาง ง่ายต่อการบริหารจัดการ Stock สินค้าในคลัง อีกทั้งควรเพิ่มระบบการให้บริการหลังการขาย และคอยสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมารีวิวผลิตภัณฑ์และบริการบนเว็บไซต์แบรนด์
2.5 Loyalty Web Application เว็บไซต์เฉพาะสมาชิก
- ราคาเริ่มต้น: 100,000 – 500,000 บาทต่อเดือน
- ความโดดเด่น: มีฟังก์ชันซับซ้อน มีหลายหมวดหมู่สามารถแสดงผลได้ทั้งรูปแบบ Web Application และ Tablet & Mobile Application รองรับการเชื่อมต่อ API จากภายนอกเข้ามาใช้งานในระบบแบบไร้รอยต่อ เช่น Customer Relationship Managment (CRM) หรือ Customer Data Platform (CDP) และ Marketing Automation เพื่อใช้จัดเก็บข้อมูล จัดการระบบสมาชิก จัดส่งข่าวสารแบรนด์ และแคมเปญส่งเสริมการตลาดโดยอัตโนมัติ
- เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ Retail, FMCG, และ Financial ที่มักต้องการกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Loyalty Program
- ข้อจำกัด: นักการตลาดจะต้องเข้าใจ Loyalty Mechanic หลักการคิดคำนวณการสะสมแต้มจากยอดใช้จ่าย และความคุ้มค่าต่อแคมเปญการตลาดที่นำมาสร้างโปรโมชันกระตุ้นยอดขายแบบ Up-Selling และ Cross-Selling รวมไปถึงกฎเกณฑ์การแลกแต้มเป็นของสมนาคุณ
ปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคาค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์ ยังรวมไปถึงที่ตั้ง Web Hosting, ชื่อ-สกุล Domain Name, พื้นที่ความจุและเทคโนโลยีการจัดเก็บ, ความยากง่ายของรูปแบบการแสดงผล, งานออกแบบ Web Design, และฟังก์ชันความซับซ้อนของการใช้งานและการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มภายนอก
3. กำหนดภาพลักษณ์และสร้างความแตกต่าง
เว็บไซต์องค์กรหรือเว็บไซต์แบรนด์เปรียบเสมือนเป็นภาพสะท้อนของแบรนด์บนโลกออนไลน์ หากเลือกใช้เทคโนโลยีการแสดงผลเว็บไซต์ที่ทันสมัย สร้างความแตกต่างผ่าน Brand Strategy และ Content Strategy ที่แข็งแรง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ไปในทิศทางเดียวกันทั้งบนเว็บไซต์และในทุกช่องทางสื่อสาร จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ที่ต้องการภาพลักษณ์ที่มั่นคง เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ ยิ่งผลิตภัณฑ์และบริการอยู่ในระดับพรีเมียม มีความหรูหรา และมีตลาด Niche Market มากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องลงทุนใน Branding มากเท่านั้น
10 หลักการออกแบบเว็บไซต์
การออกแบบเว็บไซต์จำเป็นต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในหลายมิติ ตามแต่วัตถุประสงค์การใช้งานหลัก ถึงสามารถสร้างภาพจำและความประทับใจหลังจากที่ลูกค้าของคุณเข้าชมเว็บไซต์ ซึ่ง Cotactic ได้รวบรวม 10 องค์ประกอบสำคัญ ที่เราพอจะสรุปออกมาให้คุณเข้าใจภาพกว้าง ๆ ของหลักการออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจที่ดี ดังต่อไปนี้

1. Branding คำนึงถึงภาพลักษณ์แบรนด์
แบรนด์ที่มี Branding ที่แข็งแรงจะสร้างภาพจำถึงแบรนด์โดยสะท้อนผ่าน UX/UI และเนื้อหาที่ปรากฎบนเว็บไซต์
2. User Experience (UX) คำนึงถึงผู้ใช้งาน
การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตาความสวยงาม แต่จะต้องคำนึงลึกไปถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ตลอดเส้นทางการใช้งานภายในเว็บไซต์ ซึ่งเกี่ยวข้องตั้งแต่การออกแบบลำดับการจัดวางเนื้อหาแต่ละ Section, การแบ่ง Element สัดส่วนของหน้าเว็บ, การแสดงโครงสร้างเว็บไซต์ผ่านเมนู navigation ได้เข้าใจง่าย, การเว้นพื้นที่ว่างและจุดแสดงภาพได้ถูกจังหวะ รวมถึงการเลือกใช้สัญลักษณ์และข้อความที่สื่อความหมายได้ชัดเจน
3. User Interface (UI) คำนึงถึงความสวยงามและสมดุล
ออกแบบแต่ละองค์ประกอบภาพกราฟิกและข้อความบนหน้าเว็บไซต์ ให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความสม่ำเสมอ เป็นสัดส่วน ไม่สร้างความสับสนวุ่นวาย หรือซับซ้อนเข้าใจยาก ค่อย ๆ ปรากฎประเด็นน่าสนใจ บอกเล่าทีละเรื่องราว ไม่มีองค์ประกอบไหนที่พยายามแย่งความสนใจกันเองในจุดเดียวกัน
- Favicon: ภาพไอคอนขนาดเล็กที่แสดงให้เห็น Logo ของแบรนด์ทั้งบนเว็บไซต์และการแสดงผลบน Tab ของ Web Browser
- Navigation Menus: รูปแบบของเมนูและการแสดงผลรายการตัวเลือกที่นำทางไปยังแต่ละหน้าเนื้อหาหลักบนเว็บไซต์
- Color: สีที่เลือกใช้ตรงกับ CI ของแบรนด์ และอาจสื่อสารในแต่ละจุดที่ต้องการกระตุ้นความสนใจให้ผู้คนคลิกปุ่ม ที่แสดงถึงความสดใหม่ หรือเร่งด่วนอย่างการเปลี่ยนสีที่คำว่า New Arival หรือ Sale เพื่อดึงดูดความสนใจผู้คน
- Typography: กำหนดรูปแบบ Font ตามวัตถุประสงค์ เช่น หัวข้อต้องเน้นคำและมีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าข้อความธรรมดา เพื่อให้คนลากสายตาผ่านมาสะดุด อ่านแบบ Skimming ให้รู้โครงสร้างเนื้อหาคร่าว ๆ ได้ ต่างจากข้อความขนาดยาวที่ต้องเลือกฟอนต์ภาษาไทยมีหัวเพื่อเหมาะแก่การอ่านได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ต้องเพ่งมองให้ปวดตา
- Imagery: ภาพที่เลือกใช้เผยแพร่บนเว็บไซต์จะต้องส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นภาพบุคคลหรือภาพวาดดิจิทัลที่ผลิตขึ้นใหม่หรือใช้ภาพจาก Photo Stock ต้องกำหนดสไตล์ภาพที่มีองค์ประกอบ แสงเงา โทนสี ให้สอดคล้องกัน เพื่อตอกย้ำในทุก ๆ การนำเสนอกลิ่นอายของแบรนด์
- Layout: การจัดวางองค์ประกอบการแสดงผลภาพและข้อความแต่ละหน้าของเว็บไซต์
- Whitespace: การเว้นพื้นที่ว่างเพื่อเพิ่มโฟกัสให้ถูกจุดในหนึ่งหน้าการแสดงผล
- Forms: ออกแบบส่วนที่แสดงผลการกรอกข้อมูลลงทะเบียน
- Buttons: ปุ่มดำเนินการใดใดที่กระตุ้นให้ไปสู่การตัดสินใจซื้อ หรือร่วมกิจกรรมบนเว็บไซต์
4. Responsive Design คำนึงถึงการแสดงผล
ในทุกระบบการแสดงผลผ่านคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างขนาดหน้าจอ ทั้ง Desktop, Taplet, และ Mobile จำเป็นต้องคำนึงถึงประสบการณ์การรับชมภาพและข้อความ รวมทั้งเส้นทางการคลิกไปยังแต่ละหน้าเว็บไซต์ที่ปรับสัดส่วนได้อัตโนมัติตามแต่ขนาดหน้าจอ

5. Content Strategy คำนึงถึงกลยุทธ์ด้านเนื้อหา
สื่อสารเนื้อหาแบรนด์ผ่านแต่ละ Content Pillar เพื่อให้การสื่อสารแบรนด์ผ่านเว็บไซต์ครอบคลุมหัวใจสำคัญที่แบรนด์ยึดถือ
6. Sitemap โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีต่อ SEO
โครงสร้างเว็บไซต์มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ HTML Sitemap และ XML Sitemap ซึ่งนักออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์จะต้องเข้าใจโครงสร้างเนื้อหาแต่ละรูปแบบ พูดคุยกับนักสื่อสารการตลาดผู้วาง Content Strategy และนักกลยุทธ์ SEO ก่อนวาง Sitemap
7. Call To Action (CTA)
ไม่ลืมจัดเรียงการนำเสนอ แสดงปุ่ม CTA คั่นในทุก ๆ Section เสนอขาย กระจายไปในหลายจุด เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ตอบรับข้อเสนอพิเศษ เช่น การติดตามรับจดหมายข่าวจากเว็บไซต์สื่อออนไลน์ ในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ เป็นต้น
8. API คำนึงถึงระบบการเชื่อมต่อภายนอก
โดยมากเว็บไซต์แบรนด์มักจะเชื่อมต่อกับ Social Media ของแบรนด์ในหลากหลายแพลตฟอร์มเพื่อแชร์การสื่อสารไปยังสื่อภายนอก หรือจะเชื่อมต่อเครื่องมือดิจิทัล MarTech Tools ในระบบหลังบ้านที่ช่วยในการแสดงผลบนเว็บไซต์ตามแต่ข้อมูลสมาชิกรายบุคคลที่เรียนรู้ผ่านการใช้งานระบบ ซึ่งจะคัดสรรตามหลัก Personalized Marketing เพื่อเพิ่มโอกาสขายผลิตภัณฑ์และบริการที่ลูกค้ามีแนวโน้มจะให้ความสนใจ
9. Page Speed คำนึงถึงความเร็วการโหลดหน้าเว็บ
ตรวจสอบผลการดาวน์โหลดแต่ละหน้าเว็บไซต์ไม่ให้เชื่องช้า หรือโหลดเนื้อหาหนักเกินไป เพราะพฤติกรรมของผู้คนบนโลกออนไลน์นั้นพร้อมจะผละความสนใจไปหาสิ่งอื่นที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจกว่า
10. Cyber Security คำนึงถึงความปลอดภัย
เว็บไซต์ธุรกิจที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย มักปรากฎไอคอนรูปกุญแจบนเว็บบราวเซอร์ ที่หน้าโดเมนจะแสดงตัวอักษร HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure) บ่งบอกว่าเว็บไซต์นั้น ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จากแฮ็กเกอร์ และหากเว็บไซต์มีระบบสมาชิก Cyber Security จะยิ่งรัดกุมมากขึ้น เพราะผู้ใช้สามารถตั้งรหัสผ่านก่อนเข้าใช้บัญชีส่วนตัวและอาจเพิ่มระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) หรือตรวจสอบลายนิ้วมือผ่านปุ่มสแกนบน Smart Phone หากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันนั้นต้องขออนุญาตเข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Mobile Bankng หรือบัตรเครดิต
Cotactic หวังว่าจะช่วยเจ้าของธุรกิจ เปิดที่ตั้งแบรนด์บนโลกออนไลน์เป็นของตนเองได้อย่างถูกหลัก ครอบคลุมศาสตร์ความรู้ทุกแขนงที่คุณต้องใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกรูปแบบความซับซ้อนของงานออกแบบเว็บไซต์ ให้ตอบโจทย์การใช้งาน เหมาะสมกับงบประมาณ และสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์คุณผ่านงานดีไซน์ จนสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ค้นพบเว็บไซต์คุณ
สนใจปรึกษา Cotactic
Digital Marketing Agency ประสบการณ์กว่า 8 ปี ที่พร้อมจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมวางแผนงานการตลาดดิจิทัลให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ปลดล็อกศักยภาพแบรนด์ของคุณอย่างเข้าใจวัตถุประสงค์เบื้องลึก ช่วยคุณบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจขึ้นไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัลและกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ใช่ พร้อมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จะคอยสนับสนุนงานสื่อสารการตลาดออนไลน์ ให้คุณประหยัดเวลาและทรัพยากรภายในของคุณ เพิ่มผลลัพธ์ที่คุ้มค่าต่อทุกการลงทุนในโฆษณาออนไลน์
ติดต่อขอรับคำปรึกษาฟรีจาก COTACTIC ได้ก่อนตัดสินใจรับบริการ เพียงกรอกข้อมูลเพื่อให้เรารู้โจทย์ที่ท้าทายของคุณในเบื้องต้น คลิกที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 065 095 9544
Sources:
- Learn Web Design For Beginners – Full Course (2024) https://youtu.be/j6Ule7GXaRs
- How to Plan a New Website (Step-by-Step Guide!) https://youtu.be/KuzySg7_Q7Y
- How to Design A Beautiful Homepage That Ranks on Google – The Non-Designer’s Guide https://youtu.be/D7GLEoN8yvA
- The Perfect Website Checklist: 7 Must Haves https://youtu.be/p5LIqg-oNbs
- The 5 Design Principles (But in Web Design) https://youtu.be/A8bsrYqn0NQ
- KEY Web Design Principles: Navigation, Hierarchy & Color https://youtu.be/GJN7TemsZtY
- 3 Psychology Principles Every Web Designer Must know https://youtu.be/fqDTN24HQqg
- The 7 laws of good Web Design https://youtu.be/trCfAGpef5w