SEO คือ การปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับแรก ๆ ในหน้าผลการค้นหาของ Google สำหรับคนทำ SEO นั้นคงเคยได้ยินคำว่าการ ทำ SEO สายขาว สายเทา และสายดำ กันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าแต่ละสายนั้น ส่งผลดีหรือส่งผลเสียต่อเว็บไซต์อย่างไร หรือควรหลีกเลี่ยงการทำแบบไหนที่จะส่งผลดีหรือไม่ดี ในบทความนี้ได้เตรียมคำตอบไว้ให้แล้ว
SEO สายขาว (White Hat SEO)
การ ทำ SEO สายขาว เป็นการทำเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามกฎ หรือตามหลักของ Google Guideline ที่เน้นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ปรับแต่งเนื้อหาให้สดใหม่ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อให้ได้อันดับที่ดี
ทำแบบไหนถึงน่าเชื่อถือสำหรับ Google
- ทำ Backlink กับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ หรือเป็นเว็บไซต์ที่มีค่า DA (เป็นการวัดค่าคะแนนของ Moz) /DR (เป็นการวัดค่าคะแนนของ Ahrefs) สูง ซึ่งเป็นตัววัดว่าเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือไหม และควรเป็นเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์
- ออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างสะดวก หรือที่เรียกกันว่า Mobile Friendly
- ทำ Sitemap เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์มีหน้าเพจอะไรบ้าง และง่ายต่อการเข้ามาเก็บข้อมูล
- ปรับแต่ง On-Page สร้างเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ สะดวกต่อผู้ใช้งาน
- นำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
SEO สายเทา (Gray Hat SEO)
การทำ SEO สายเทา คือการรวมเทคนิคทั้งการทำ SEO สายขาว กับ SEO สายดำ เพื่อเพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ในหน้า SERP (Search Engine Result Page) โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องมือบางส่วน ซึ่งเสี่ยงกว่าการทำ SEO สายขาว แต่ไม่เท่ากับ SEO สายดำ
ซึ่งการทำ SEO สายเทานั้นยังเป็นการทำตามกฎของ Search Engine อยู่ แต่อาศัยช่องโหว่ในการเพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ ยกตัวอย่าง เช่น การใช้โดเมนที่หมดอายุ การสร้างเนื้อหาที่ซ้ำกัน หรือที่เรียกกันว่า Duplicate Content รวมทั้งการซื้อรีวิวในเชิงบวก เป็นต้น
SEO สายดำ (Black Hat SEO)
เป็นการทำ SEO ที่ผิดหลักเกณฑ์ของ Google เป็นการใช้ช่องโหว่ของ Search Engine เพื่อเพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ในหน้า SERP การทำผิดกฏมีสิทธิ์สูงมากที่เว็บไซต์จะโดนลงโทษ หรือโดนแบนจาก Google ซึ่งการทำ SEO สายดำจะเน้นไปที่การเข้ามาเก็บข้อมูลของ Google แต่หน้าเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเห็น ใช้งานยาก ไม่ตอบโจทย์ ทำให้ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งานลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาวแน่นอน
การทำผิดกฎนั้น มีสิทธิ์ที่จะโดนลงโทษ ซึ่งการลงโทษของ Google นั้นก็ไล่เรียงกันไปตามความผิด ถ้าทำผิดเว็บไซต์คุณอาจจะโดนตัดคะแนน อันดับตก หรือถ้าร้ายแรงที่สุดเว็บไซต์คุณอาจจะโดนแบนจาก Google
สิ่งที่ทำแล้วส่งผลเสียต่อเว็บไซต์
1.Keyword Stuffing
การใส่ keyword ซ้ำ ๆ กันในบทความมากเกินไป อาจจะส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ เพราะ Google จะมองว่าเว็บไซต์คุณเป็นเว็บสแปม แล้วอาจจะถูกแบนเลยก็เป็นได้
2.Cloaking
คือ การทำให้ Google bot เห็นสิ่งที่อยู่ในหน้าเพจแตกต่างกับ users ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์คุณทำ code บอก Google bot ว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับการ์ตูน แต่ข้อมูลที่ users เห็นในหน้าเว็บเป็นเว็บไซต์ 18+
3.สร้าง backlink จำนวนมาก
เป็นการสร้างลิงก์ที่สนใจแต่ปริมาณ แต่ไม่ได้สนใจคุณภาพ ซึ่งยืนยันได้เลยว่าถ้าคุณสนใจแค่ปริมาณ backlink แบบนี้ ส่งผลเสียต่อเว็บไซต์มากกว่าผลดีแน่นอน
4.การซ่อน Text
ซ่อนตัวหนังสือหรือซ่อนคำคีย์เวิร์ด โดยใช้พื้นหลังสีขาว ผู้ใช้งานจะมองไม่เห็น แต่ Google bot เห็นและมา Index หน้านี้ไป
จะเห็นได้ว่าการทำ SEO แต่ละเทคนิค มีความแตกต่างกันมาก ซึ่งบอกได้เลยว่า การ ทำ SEO สายขาว นั้นดีที่สุด และได้ประสิทธิภาพ เพราะเป็นการทำเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ นอกจากจะได้อันดับที่ดีแล้ว ยังสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีต่อผู้ใช้งานอีก ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อให้ได้อันดับที่ดี แต่ตรงกันข้ามกับการทำ SEO สายเทา และสายดำ ที่ใช้เวลาไม่นานในการเพิ่มอันดับ แต่เว็บไซต์ของคุณก็มีสิทธิ์ที่จะถูกลงโทษจากการทำผิดกฎ ซึ่งไม่คุ้มกันแน่นอน หากคุณอยากให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาในระยะยาว และไม่ถูกลงโทษจาก Google สามารถหาบริษัทรับทำ SEO หรือบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress มาช่วยดูแล ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้
——————————————————————–
หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก: