ต้องการที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญในการรับทำเว็บไซต์ WordPress คลิกที่นี่
เชื่อว่าหลาย ๆ ธุรกิจต้องเคยเจอปัญหาเวลาที่มีการปรับปรุง แก้ไข หรือจำเป็นต้องย้ายเว็บไซต์ แต่เว็บเก่าของเรานั้นดันติดอันดับ SEO ไปแล้ว จะทิ้งไปเลยก็เสียดาย แต่จะไม่ย้ายก็ไม่ได้อีก Redirect 301 จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัทรับทำ SEO หลายแห่งนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาที่กล่าวไปข้างต้น แล้ว Redirect 301 นั้นคืออะไร สำคัญกับการทำ SEO มากน้อยแค่ไหน และมีวิธีการทำงานอย่างไร บทความนี้มีคำตอบครับ
Redirect 301 คืออะไร
Redirect 301 นั้นคือการเปลี่ยนเส้นทางจาก URL เดิมที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว ไปยัง URL ใหม่ที่เราต้องการแบบถาวร ยกตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ A ต้องการเปลี่ยน URL จาก blogs.abc.com เป็น abc.com/blogs/ การทำ Redirect 301 จะช่วยดึงผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บไซต์ปัจจุบัน (abc.com/blogs/) ได้ แม้เราจะกดลิงก์หรือกรอก URL เว็บไซต์เดิม (blogs.abc.com) ก็ตาม
ประโยชน์หรือข้อดีของการทำ Redirect 301
-
ช่วยรักษาอันดับ SEO
แม้ว่า Redirect 301 อาจไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มอันดับ SEO โดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่บริษัทรับทำ SEO หลายแห่งนำมาใช้ โดยเฉพาะกับเว็บไซต์ที่ติดอันดับ SEO สูง ๆ แต่วันดีคืนดีมีเหตุจำเป็นให้ต้องแก้ไขชื่อ URL ใหม่ การทำ Redirect 301 จะทำให้ Google มองว่า URL ใหม่ก็คือเว็บไซต์เดิมที่มีตัวตน เคยติดอันดับมาก่อนนะ เราจึงไม่ต้องมาเสียเวลาเริ่มทำ SEO ใหม่อีกรอบ และยังสามารถเก็บข้อมูลทุกอย่างทั้งอันดับ SEO, Backlink หรือ PageRank ได้เหมือนเว็บเดิมอีกด้วย
-
ช่วยลดปัญหาลิงก์เสีย และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
เวลาที่เรามีการเปลี่ยนหรือแก้ไข URL ลิงก์เก่าที่เคยใช้งานได้ก็จะกลายเป็น “ลิงก์เสีย” ซึ่งถ้าหากเราไม่ยอมแก้ไขก็จะทำให้เกิด User Experience ในแง่ลบ ทำให้เว็บไซต์ดูไม่น่าเชื่อถือ หรือซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็อาจทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจไม่เข้าเว็บเราอีกเลย ส่งผลต่อทั้ง Traffic ที่ลดลงรวมถึงการจัดอันดับ SEO ที่ยากขึ้น การทำ Redirect 301 จึงมีข้อดีในการช่วยรักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ทั้งในสายตาของผู้ใช้งานและ Google Bot ที่เข้ามาเก็บข้อมูล
-
ช่วยลด Duplicate Content
การมีคอนเทนต์ซ้ำ ๆ กันบนเว็บไซต์เดียว จะทำให้อัลกอริทึมของ Google มองว่าเว็บไซต์นั้นมีคอนเทนต์ที่ไร้คุณภาพ และผลที่ตามมาก็คืออันดับ SEO ที่ลดลงหรืออาจจะถูกซ่อนผลจากการค้นหาไปเลย ดังนั้น หากเราเพียงแค่อยากนำคอนเทนต์เดิมมาใส่ใน URL ใหม่ก็ควรใช้วิธีทำ Redirect 301 มาใช้แทนการโพสต์คอนเทนต์เดิมซ้ำในหน้าเว็บใหม่จะดีกว่า
ข้อควรรู้ก่อนการทำ Redirect 301
-
เนื้อหาในเว็บไซต์ต้นทางและปลายทางควรมีความสอดคล้องกัน
นักทำ SEO สายเทาหลายคนอาจใช้ช่องโหว่จากการทำ Redirect 301 โดยแอบดึงคนจากเว็บไซต์ A ที่มีอันดับ SEO ดีไปยังเว็บไซต์ B ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือบางครั้งเวลาที่เราย้ายเว็บไซต์ใหม่ ๆ แล้วไม่รู้จะให้ Redirect ไปหน้าเว็บไหน ก็เอาทุกอย่างไปลงที่หน้า Home อย่างเดียว ซึ่งไปควรทำอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากอัลกอริทึมของ Google จับได้ว่าเว็บไซต์ต้นทางและปลายทางไม่มีเนื้อหาที่สอดคล้องกันก็จะถูกลดการมองเห็นและอันดับของเว็บไซต์ลง
-
ระวังไม่ให้เกิด Redirect Chain และ Redirect Loop
อธิบายง่าย ๆ Redirect Chain คือการเปลี่ยนเส้นทางจากเว็บไซต์ A ไปเว็บไซต์ B และจากเว็บไซต์ B ไปเว็บไซต์ C ต่อกันเป็นลูกโซ่ แทนที่จะเปลี่ยนเส้นทางจากเว็บไซต์ A ไปเว็บไซต์ C โดยตรง ส่วน Redirect Loop คือการที่เราทำการเปลี่ยนเส้นทางจากเว็บไซต์ A ไปเว็บไซต์ B แต่โค้ดหรือระบบอาจมีการผิดพลาดจนทำให้มีการเปลี่ยนเส้นทางจากเว็บไซต์ B ไปเว็บไซต์ A อีกครั้งเป็นลูปซ้ำ ๆ และทั้งสองอย่างนี้มีผลเสียกับการทำ SEO อย่างมาก เพราะ Google Bots จะไม่สามารถเข้าไปเก็บข้อมูลในหน้าเว็บที่ถูกต้องได้
-
ควรมีการประชาสัมพันธ์การย้ายเว็บไซต์ในช่องทางต่าง ๆ
ข้อนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามก่อนที่เราจะทำ Redirect 301 เพื่อบอกให้ฐานลูกค้าหรือ Traffic เดิมรู้ว่าเป็นการเปลี่ยนเส้นทางจากเว็บเดิมจริง ๆ ไม่ใช่ Spam แต่อย่างใด โดยอาจสร้าง Landing Page ชั่วคราว หรือประชาสัมพันธ์ในช่องทาง Social Media เพื่อลดการเข้าใจผิดและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์
วิธีการทำ Redirect 301
แม้ว่าแต่ละเว็บไซต์จะมีรูปแบบหรือผู้ให้บริการ Web Hosting ที่แตกต่างกัน แต่การทำ Redirect 301 จะมีขั้นตอนและวิธีที่คล้ายคลึงกันอยู่ โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. การทำ Redirect 301 สำหรับเว็บไซต์ทั่วไป
เพียงค้นหาไฟล์ .htaccess ในโฟลเดอร์ Public_html ของผู้ให้บริการ Web Hosting ที่ใช้อยู่ หรือถ้าไม่มีก็สามารถสร้างไฟล์ .htaccess ขึ้นมาได้เอง และเขียนคำสั่งลงไปในไฟล์ โดยทั่วไปแล้ว โค้ดหลัก ๆ ที่นิยมใช้งานจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ตัว ดังนี้
-
Redirect 301 จาก URL เก่าไปยัง URL ใหม่ในโดเมนเนมเดิม
Redirect 301 /(ชื่อURLเก่า) http://www.(ชื่อโดเมนเนม).com/(ชื่อURLใหม่)
-
Redirect 301 จากโดเมนเนมเดิม ไปยังโดเมนเนมใหม่
RewriteEngine On
RewriteCond %{HTTP_HOST} ^(?:www\.)(ชื่อโดเมนเนมเดิม)\.com$ [NC]
RewriteRule ^ http://(ชื่อโดเมนเนมใหม่).com%{REQUEST_URI} [L,R=301]
-
Redirect 301 จากเว็บไซต์เดิมทั้งหมดทุกหน้า ไปยังหน้าเว็บไซต์ใหม่
Options +FollowSymLinks
RewriteEngine on
RewriteRule (.*) https://(ชื่อโดเมนเนมใหม่).com/$1 [R=301,L]
2. การทำ Redirect 301 สำหรับเว็บไซต์ WordPress
สำหรับใน WordPress นั้นจะมีวิธีที่หลากหลายกว่า ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้งาน โดยจะเลือกแก้ไขโค้ดภายในไฟล์ .htaccess ตามวิธีที่กล่าวไปข้างต้น หรือจะติดตั้ง Plugins อย่าง Redirection หรือ 301 Redirects ก็ได้เช่นกัน โดยวิธีการใช้งานก็ไม่ยาก เพียงแค่เรากรอกข้อมูล URL เก่าลงในช่อง Redirect From/Source URL และ URL ใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนในช่อง Redirect To/Target URL เมื่อตั้งค่าเสร็จก็กดยืนยัน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
และเมื่อทำเสร็จ เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมแจ้งเปลี่ยนที่อยู่เว็บไซต์ใหม่ที่ Google Search Console เพื่อให้ Google รับทราบและสามารถบรรจุเว็บไซต์ใหม่ของเราลงในฐานข้อมูลได้นั่นเอง
บทสรุปของเทคนิคนี้
การทำ Redirect 301 ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการปรับปรุง แก้ไขหรือเคลื่อนย้ายข้อมูลต่าง ๆ แบบไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับ SEO โดยก่อนที่จะ ทำทุกครั้งควรปรึกษานักการตลาด SEO หรือใช้บริการรับทำ SEO จากบริษัทที่มีความรู้ ความชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและปัญหาตามมาภายหลัง
——————————————————————–
หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก