click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

หนึ่งในแนวทางที่จะประสบความสำเร็จของนักธุรกิจคือการมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีโดยใช้ โปรแกรมตัดต่อภาพ และกล้าออกนอกกรอบ กล้าประยุกต์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและช่วยให้คุณตามหาลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ดังนั้นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่น่าจดใจได้ดีนอกจากการทำ Copywriting แล้ว งานตัดต่อกราฟิกและวิดีโอก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก สร้างความน่าจดจำของคอนเทนต์ได้ดียิ่งขึ้น

ฉะนั้นหากนักธุรกิจท่านไหนอยากแนะนำโปรแกรมตัดต่อให้พนักงานลองนำไปฝึกพัฒนาฝีมือตัวเอง  ในบทความนี้ผมขอรวมลิสต์โปรแกรมตัดต่อภาพและวิดีโอที่แม้เป็นมือใหม่ก็ทำได้ และที่สำคัญใช้งานได้ฟรี!


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


 

รวมโปรแกรมตัดต่อภาพ-วิดิโอ ที่ใช้งานง่ายเหมาะกับทุกธุรกิจ

  • Canva

เว็บไซต์ตัวนี้หลาย ๆ ท่านคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะใช้งานง่ายมาก และเป็นที่รู้จักในกลุ่ม Content Creators สามารถออกแบบได้หลากหลายทั้งหน้าปกรายงาน พรีเซนเทชัน นามบัตร รูปภาพโพส์ใน Facebook, Instagram และภาพ Infographic ประกอบกับแถมดีไซน์มาให้ภายในเว็บไซต์นับร้อยดีไซน์ สามารถเลือกดาวน์โหลดสื่อได้หลายแบบตั้งแต่ .PNG ไปจนถึง MP4 และ GIF  ใช้งานได้ฟรีทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ แต่หากต้องการคอนเทนต์ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น แชร์กับทีมได้และมีพื้นที่จัดเก็บไม่จำกัด ต้องเสียเป็นแบบ Pro รายเดือนอยู่ที่ 154.16$ / เดือน หรือ 5,024 บาท ใช้งานได้ 5 คนในบัญชีเดียว 

โปรแกรมนี้แม้ไม่เคยจับงานตัดต่อมาก่อนก็เรียนรู้ได้ไม่ยากเลยครับ ออกแบบเสร็จเมื่อไหร่ ก็หาลูกค้าใหม่ได้ในทันที

ไปยัง Canva

Canva

 

  • Figma

เวลาได้รับบรีฟหัวข้อที่ใช้ในการหาลูกค้าใหม่ บางครั้งก็ต้องมีการใช้โปรแกรมตัดต่อภาพในการวาดกราฟิกขึ้นมาเอง สำหรับธุรกิจไหนที่เน้นงานออกแบบเป็นจุดขายแล้ว โปรแกรมตัวนี้ผมแนะนำครับ

ผมเพิ่งทดลองใช้งาน Figma ได้ไม่กี่เดือนครับ แรก ๆ อาจจะใช้งานยากกว่า Canva เล็กน้อย แต่เมื่อเริ่มถนัดแล้ว จะกลายเป็นเครื่องมือทำเงินได้ดีทีเดียวครับ Figma สามารถทำงานพร้อมกันได้หลายคนด้วยระบบ Cloud ผ่าน Web Browser แก้ไขงานได้หลายตัวตนในเวลาเดียวกัน การใช้งานดูง่ายไม่ซับซ้อน พร้อมโหมดคอมเมนต์แนะนำเพื่อนในแต่ละไฟล์ได้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Prototype สำหรับออกแบบ UX / UI อีกด้วย คอยควบคุม ออกแบบและดู Preview จำลองแอปพลิเคชันของเราก่อนวางจำหน่ายได้ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาการเรียนรู้ไม่นาน ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ดีมากสำหรับมือใหม่ครับ มีให้ดาวน์โหลดทั้งแบบ Mac และ Window หรือจะเปิดบนเว็บไซต์ก็ได้ครับ ส่วนเรื่องราคามีตั้งแต่แบบฟรี แบบเสียเงิน Professional และเสียเงินที่เป็นระดับองค์กร มีตั้งแต่ 12$ (391 บาท) / คน / เดือน จนถึง 45$ (1467 บาท) / คน / เดือนครับ

ไปยัง Figma

Figma

 

  • Infogr.am

โปรแกรมตัวนี้เหมาะกับแผนกที่ต้องขลุกอยู่กับตัวเลขอย่างบัญชีหรือการตลาดที่สามารถนำมานำเสนอให้ลูกค้าฟังได้ เข้าใจง่าย ไม่ต้องขยายความให้มาก Infogr.am จะตอบโจทย์ได้มากกว่า ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ อย่างเช่นเปรียบเทียบกราฟหาลูกค้าใหม่กับฐานลูกค้าเก่า เป็นต้น

เพราะให้ความสำคัญกับการทำกราฟิกเชิงกราฟและตัวเลข สามารถนำข้อมูลเชิงคณิตศาสตร์ให้อยู่ในรูปแบบ “Interactive” อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ มี Template ให้เลือกน้อยมากหลักสิบกว่าตัวเท่านั้น และไม่สามารถโหลดงานออกมาได้เป็นไฟล์ ทำได้เพียงแค่แชร์อย่างเดียว หากต้องการโหลดต้องเสียค่าบริการแบบ Pro 19 – 25$ / เดือน หรือราว 619 – 815 บาท

ไปยัง Infogr.am

Infogr.am

 

  • Piktochart

ได้กลิ่นอายความเป็น Canva มาแต่ไกล เพราะจากการที่ผมลองเข้าไปแตะ ๆ สัมผัสดู ยอมรับเลยว่าใช้งานค่อนข้างง่ายจริงครับ จะเป็นมือใหม่หรือระดับเชี่ยวชาญแล้วก็มาลองใช้ดูได้ มีให้เลือกทั้งแบบทำ อินโฟกราฟิก รายงาน ใบปลิว พรีเซนเทชันได้เหมือนกับ Canva แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่รูปแบบไฟล์ดาวน์โหลดมีแค่ .PNG เท่านั้น และคุณภาพรูปที่ได้จะไม่สูงมากเท่า Figma แถมจำกัดจำนวนการดาวน์โหลดอยู่ที่ 2 ครั้งเท่านั้น ฉะนั้นหากอยากได้รายละเอียดที่สูงขึ้น หรือต้องการซื้อจำนวนดาวน์โหลดเพิ่มต้องเปลี่ยนมาใช้แบบ Pro ครับ ราคาอยู่ที่ 24 – 29$ / เดือน (782 – 945 บาท) แต่ถ้าลงทะเบียนเป็นอาจารย์ นักเรียน หรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจะเหลืออยู่ที่ 4$ หรือ 130 บาท / เดือนครับ

ไปยัง Piktochart

Piktochart

 

  • Easelly

โปรแกรมนี้มาแนวเดียวกับ Canva และ Piktochart ครับ สามารถสร้างอินโฟกราฟิกได้ฟรีและมีให้เลือกเทมเพลตได้มากที่สุดด้วย ใช้งานได้ทั้ง Mac และ Window เน้นหนักไปที่การสร้างอินโฟกราฟิก แผนภูมิเป็นพิเศษ แต่น่าเสียดายที่ Icons กับ Animation อื่น ๆ มีให้เลือกแบบฟรีน้อยมาก และดาวน์โหลดได้เฉพาะ Low Quality เท่านั้นสำหรับการใช้งานฟรี ราคาแบบ Pro จะอยู่ที่ 2 – 5$ / เดือน หรือเพียงแค่ 65 – 162 บาท / เดือนเท่านั้น ถือว่าถูกมากในบรรดาโปรแกรมตัดต่อกราฟิกทั้งหมด หากธุรกิจของคุณต้องการค้นหาลูกค้าใหม่ ลองมาใช้โปรแกรมตัวนี้ก็นับว่าดีไปอีกแบบ

ไปยัง Easelly

Easelly


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


 

รวมโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

  • CapCut

เหมาะกับสายคอนเทนต์ลงคลิปใน TikTok หรือ Instagram Reels เพราะเป็นโปรแกรมตัดต่อลงสื่อโซเชียลอยู่แล้ว สามารถเรียกยอด View หรือ Engagement ได้มาก ใช้ตัดต่องานในการมองหาลูกค้าใหม่บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ดี เพิ่มฐานลูกค้าให้ธุรกิจของคุณก็ได้ 

รองรับการใช้งานได้ทั้งบน  Android และ iOS  เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งลองหัดใช้งานครั้งแรก พร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย ใช้งานง่าย ปรับความเร็ววิดีโอ ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์เยอะ หากใช้ร่วมกับฉากเขียวสามารถลบพื้นหลังได้ มีเพลงประกอบแถมมาให้เลือก รองรับความละเอียด 4K และที่สำคัญไม่มีลายน้ำ ใช้งานได้ฟรี

ดาวน์โหลด CapCut Google Play, App Store

CapCut

 

  • Videoleap

ฟีเจอร์ การใช้งาน และการนำไปใช้คล้ายคลึงกับ CapCut ตัดต่อคลิปไปลงใน TikTok ได้ง่าย เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กันเลย รองรับได้ทั้ง Android และ iOS และฟีเจอร์ช่วยให้นักตัดต่อมือใหม่ใช้งานได้ง่าย ไม่สะดุดทั้งการแต่งภาพ ปรับเสียง เพิ่มซาวนด์ประกอบลงไป ปรับความเร็วคลิป ใส่ฟิลเตอร์ เลเยอร์ และเอฟเฟกต์ หากถ่ายคลิปร่วมกับฉากเขียวก็สามารถนำมาตัดต่อผ่านโปรแกรมนี้ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ระบบ Google Play จะยังไม่มีฟีเจอร์เยอะเท่า App Store เนื่องจากเพิ่งนำมาลงระบบเมื่อไม่นานมานี้นั่นเอง ต้องรอประกาศอัปเดตอีกทีในอนาคต

VideoLeap สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี แต่หากต้องการใช้ฟีเจอร์เต็ม ต้องซื้อเป็นแพ็กเกจ Premiumมีแบบรายเดือน 250 บาท / เดือน และรายปี 1,125 บาท / ปี หรือซื้อขาดอยู่ที่ 2,125 บาท สามารถซื้อผ่านแอปได้โดยตรง

ดาวน์โหลด Videoleap Google Play, App Store

Videoleap

 

  • Quik – GoPro Video Editor

สายคอนเทนต์ตระเวนชิม ตระเวนเที่ยวน่าสนใจโปรแกรมนี้ไม่มากก็น้อย เพราะให้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวผ่านกล้อง GoPro ที่ติดไปกับเราทุกที่ และฟังก์ชันที่ดีมาก ๆ เพิ่มรูปภาพได้ถึง 200 รูปและคลิปวิดีโอ โปรแกรมจะวิเคราะห์ประมวลผลคลิปของคุณและเลือกช่วงเวลาให้เองอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับใบหน้าและสีเพื่อจัดองค์ประกอบภาพให้ดูดีมากขึ้น (สามารถปรับให้คุณเลือกเองได้) ปรับเปลี่ยนตัวอักษร ฟิลเตอร์ กราฟิก ได้หลายแบบ คอลเลกชันเพลงฟรีกว่า 80 เพลง สามารถนำเข้าเพลงจาก iCloud Drive, Google Drive ฯลฯ สามารถบันทึกวิดีโอได้ละเอียดสูงถึง 1080p และแชร์คลิปลงสื่อโซเชียลได้ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Facebook เป็นต้น ใช้งานได้ฟรีในระบบ Android และ iOS

Quik – GoPro มีให้ดาวน์โหลดและใช้งานขั้นพื้นฐานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานโหมด Pro เสียรายเดือนเพียง 1.99$ หรือราว 65 บาท / เดือนเท่านั้น

ดาวน์โหลด Quik – GoPro Edition Google Play, App Store

Quik

 

  • Vegas Pro

โปรแกรมต่อไปนี้จะใช้งานยากขึ้นไปอีกเหมาะกับนักตัดต่อมืออาชีพแต่รับรองว่าเพียงแค่มีโปรแกรมตัวนี้ตัวเดียวก็สามารถรังสรรค์ผลงาน Production ระดับโลกได้สบาย ๆ ช่วยคุณไม่ต้องลงแรงตามหาลูกค้าให้เสียเงินและทรัพยากรไปมากมายเลยด้วย และยังได้ผลงานที่มีความละเอียดสูงมากแน่นอน มือใหม่ก็หัดลองใช้ได้นะ สามารถนำไปตัดต่อหนังสั้นหรืองานโปรดักชันโฆษณาได้ รองรับไฟล์ได้หลายประเภทตั้งแต่ SD, HD, 2K, 4K และ 8K  ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ได้แก่ Motion Tracking, World-class Video Stabilization (โหมดปรับภาพสั่นให้นิ่ง) 

โปรแกรมเหมาะสำหรับงานโปรดักชันที่ต้องการความประณีตสูงต้องซื้อมาใช้งาน แต่สามารถโหลดมาทดลองใช้ฟรีแบบ Free Trial ได้ก่อน 30 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มคิดเงินที่ 23.99$ / คน / เดือน หรือประมาณ 782 บาท ใช้งานได้แค่ระบบ Window เท่านั้น

ดาวน์โหลด Vegas Pro Free Trial

Vegas pro

ที่มา : vegascreativesoftware.com


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


 

  • Adobe Premiere Pro

เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางสำหรับโปรแกรมตัวนี้ เหมาะสำหรับตัดต่อวิดีโอที่เป็นระดับโปรดักชันพอ ๆ กับ Vegas และยังเป็นที่นิยม ใช้งานกันแพร่หลาย Premiere Pro สามารถรองรับการตัดต่อได้ตั้งแต่ความละเอียดต่ำจนถึงสูง ไฟล์เล็กไปจนถึงไฟล์ขนาดใหญ่ได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำของคอมฯ คุณด้วย) รองรับไฟล์ที่ความละเอียด 4K, 5K และ 6K และจุดโดดเด่นไม่เหมือนใครคือสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมตระกูล Adobe ตัวอื่น ๆ ได้ เช่น Illustrate, Photoshop เป็นต้น รองรับระบบ Window และ Mac

ดาวน์โหลด Adobe Premiere Pro

Premiere pro

 

ทั้งหมดนี้คือโปรแกรมและแอปพลิเคชันสำหรับการตัดต่อวิดีโอและกราฟิกที่สามารถดาวน์โหลดกันไปใช้ได้ฟรี สำหรับสายคอนเทนต์หรือสายการตลาดออนไลน์ ที่แม้เป็นมือใหม่ก็สามารถหัดทดลองใช้ได้ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์คุณ สร้างยอด Brand Awareness, Engagement และค้นหาลูกค้าใหม่ที่ใช่สำหรับแบรนด์คุณ

 

——————————————————————–

 

ร่วมงานกับทีม Cotactic Media หนึ่งใน เอเจนซี่ รับทำเว็บไซต์ WordPress ชั้นนำของเมืองไทย ที่จะช่วยให้คุณตอบโจทย์การหาลูกค้าใหม่ให้คุณได้ตามเป้าหมายแบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness หรือ Lead Generation ก็ทำได้หมด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญกับทีม Cotactic เพื่อให้เราเป็น Collaborative Marketing Partner ทำงานเป็นทีมร่วมกันกับคุณ

 

——————————————————————–

 

ติดต่อ

โทร.065-095-9544

Inbox: https://m.me/cotactic

Line@: https://line.me/R/ti/p/@cotactic

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา

https://specphone.com/web/10-app-video-edit-android-ios/303021#KineMaster-Video-Editor

https://notebookspec.com/web/534464-10-video-editor-programs

https://life.wongnai.com/wongnai-ux-moved-to-figma-fb636a797ef7

บทความที่เกี่ยวข้อง

RMF Model

RFM Model คืออะไร? ทำไมการแบ่งกลุ่มลูกค้าถึงสำคัญ

Personal Branding

Personal Branding คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับธุรกิจ

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้