ในยุคปัจจุบันช่องทางการขายของไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเสมอไป จะเห็นได้ว่าหลากหลายธุรกิจที่หันมาให้บริการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เช่น ในโซเชียลมีเดียทั้ง Instragram, Facebook, X (Twitter) และอื่น ๆ และตอนนี้เว็บไซต์ E-Commerce เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ใช้ขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมรายละเอียดของสินค้าไว้ทั้งหมดและนำเสนอข้อมูลให้ลูกค้าเห็นได้ชัดทั้งตัวอักษร รูปภาพ และวิดีโอ ทั้งยังมีวิธีพัฒนาเว็บไซต์ตามหลัก SEO เพื่อให้ขึ้นอันดับแรกของ Search Engine อีกด้วย เรียกได้ว่า เว็บไซต์ E-Commerce เป็นช่องทางเข้าถึงลูกค้าโดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าโฆษณาเพิ่มเติมใด ๆ แต่กลับมีผลลัพธ์ที่ดีต่อการทำธุรกิจ
เว็บไซต์ E-Commerce คือ
E-Commerce ย่อมาจาก Electronic Commerce บัญญัติศัพท์เป็นภาษาไทยว่า ‘การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์’ หรือการทำการค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ แต่ปัจจุบันเป็นอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและผู้คนเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา เว็บไซต์ E-Commerce จึงเป็นเว็บไซต์ที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการแบบออนไลน์ บนเว็บไซต์สามารถแสดงทั้งข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ เสียงและรายละเอียดอื่น ๆ ของสินค้า เช่น ราคา จำนวนคงเหลือ เป็นต้น เว็บไซต์ E-Commerce เปิดให้ผู้คนซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง จากที่ไหนก็ตามที่มีอินเทอร์เน็ต เป็นการลดต้นทุนการเปิดหน้าร้านไปได้ไม่น้อย
เว็บไซต์ E-Commerce ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง
เว็บไซต์ E-Commerce เป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าและบริการออนไลน์ แต่ไม่ใช่ว่าเว็บไซต์ทุกรูปแบบจะประสบความสำเร็จ แล้วเว็บไซต์แบบไหนที่จะสามารถครองใจผู้ใช้ได้อยู่หมัด เรารวบรวม 8 ลักษณะเว็บไซต์ E-Commerce ที่ดีควรมีไว้ให้แล้ว
1. User-Friendly
เว็บไซต์ E-Commerce ที่ดีนอกจากมีดีไซน์ที่สวยงามน่ามองแล้ว ยังต้องมีลักษณะ User-Friendly ซึ่งก็คือการใช้งานง่ายนั่นเอง เมื่อลูกค้ากดเข้าเว็บไซต์แล้วควรหาสินค้าหรือค้นหาข้อมูลได้ง่าย เห็นชัด โดยเว็บไซต์ควรจัดหมวดหมู่ของสินค้าให้ชัดเจน มีปุ่ม Call-To-Action เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าจะทำอะไรต่อไป เช่น กดสินค้าลงตะกร้า, ติดต่อผู้ขาย เป็นต้น
2. รองรับการทำ SEO
SEO (Search Engine Optimization) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำเว็บไซต์ เพราะการมีคอนเทนต์ที่ทำตามหลัก SEO จะทำให้ Google รู้ว่าเว็บไซต์เราเกี่ยวกับอะไรและถูกจัดอันดับให้อยู่หน้าแรกของ Search Engine เป็นการโปรโมตเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องพึ่งการจ่ายค่าโฆษณา
3. ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย
ขั้นตอนการชำระควรทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และหลากหลาย มีหลายช่องทางให้ลูกค้าเลือกว่าจะชำระแบบไหนได้บ้าง เช่น ผ่าน Credit Card, Debit Card, Payment Gateway Bank, PayPal, Omise และอื่น ๆ ที่สำคัญต้องมีระบบที่ปลอดภัย ลูกค้าจะได้มั่นใจว่าข้อมูลทางการเงินไม่มีทางรั่วไหลหรือถูกสวมรอยในการทำธุรกรรมใด ๆ
4. ภาพประกอบเว็บไซต์คมชัด
ภาพประกอบที่ใช้ควรคมชัด ภาพไม่แตก มีหลายมุม และเป็นภาพที่บริษัทถ่ายเอง เพื่อเป็นข้อมูลให้ลูกค้าประกอบการตัดสินใจผ่านภาพสินค้า โดยภาพที่คมชัดส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะทำให้เห็นรายละเอียดได้ชัด แต่ข้อควรระวังคือภาพไม่ควรมีขนาดไฟล์ใหญ่เกินไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้เว็บไซต์ใช้เวลาโหลดนาน จนอาจทำให้ลูกค้าหันไปใช้เว็บไซต์อื่นได้
5. Live Chat
Live Chat เป็นระบบตอบกลับอัตโนมัติ ใช้เพื่อตอบคำถามที่ลูกค้ามักสงสัยโดยไม่จำเป็นต้องรอเจ้าหน้าที่ตอบแต่เป็นการตอบของ Chatbot ที่เราตั้งระบบไว้แล้ว แต่หากเป็นคำถามนอกเหนือที่ตั้งไว้ก็สามารถรอแชทกับเจ้าหน้าที่ได้ การมี Live Chat ช่วยส่งเสริมธุรกิจเพราะการตอบคำถามลูกค้าอย่างทันท่วงทีมีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่มากขึ้น
6. รีวิวจากลูกค้า
เว็บไซต์ E-Commerce ที่ดีควรมีพื้นที่รีวิวสินค้าจากลูกค้า การมีรีวิวช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจได้ รีวิวจากลูกค้าคนก่อน ๆ มีอิทธิพลต่อการซื้อของผู้ใช้งาน หากรีวิวส่วนมากไปในทางบวกก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น
7. Shopping Cart
Shopping Cart คือระบบตะกร้าสินค้า เป็นระบบที่คอยเก็บข้อมูลของสินค้าที่ลูกค้ากดซื้อไว้ เช่น รหัสสินค้า ราคา ประเภทและจำนวนสินค้า เป็นข้อมูลที่บันทึกไว้ในขณะที่รอลูกค้าเลือกสินค้าอื่นอยู่ โดยลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนสินค้าในตะกร้าได้ตลอดจนกว่าจะกดยืนยันการชำระสินค้า ระบบตะกร้าสินค้าจึงเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าตลอดการใช้งาน
8. ระบบ Search และ Filter
สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าหลายประเภทควรมีระบบ Search และ Filter เพื่อให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้ตามประเภทของสินค้า รวมทั้งมี Filter หรือระบบกรอง เช่น ประเภท ราคา สี ขนาด สินค้าออกใหม่ ฯลฯ เพื่อช่วยลูกค้าให้หาสินค้าที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ เป็นการลดเวลาไม่ต้องไล่หาสินค้าทีละอย่าง
วิธีทำ SEO ให้เว็บไซต์ E-Commerce
การทำ SEO ในเว็บไซต์ E-Commerce เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างมาก เพราะหากทำตามหลัก SEO อย่างถูกต้องแล้ว จะช่วยให้ Algorithm วิเคราะห์เว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้นว่าเว็บไซต์เราทำเกี่ยวกับอะไร ทั้งยังเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานด้วย ผลักดันให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปสู่หน้าแรกของ Search Engine ได้ โดยวิธีทำ SEO ทำได้ดังนี้
1. การเลือกใช้ Keyword
การค้นหา Keyword หลักที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา อาจเลือก Keyword จาก Google Keyword Planner, Google Trends และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยศึกษาว่า Keyword ไหนกำลังเป็นที่นิยมที่ผู้คนค้นหาเยอะและตรงกับคอนเทนต์ของเรา จะช่วยให้มีโอกาสขึ้นหน้าแรกของ Google Search
2. ความเร็วของเว็บไซต์
ความเร็วของเว็บไซต์หรือ PageSpeed เป็นการแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะตัวหนังสือ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ การแสดงผลที่รวดเร็วส่งผลต่อการจัดอันดับในหน้าการค้นหา และสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้งานได้ เพราะหากหน้าเว็บใช้เวลานานลูกค้าก็อาจเปลี่ยนใจไปเข้าเว็บไซต์อื่นแทนและอาจหลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์เราได้
3. การทำ Backlink
การมี Backlink คือการที่เว็บไซต์อื่นที่คล้ายคลึงกับธุรกิจเราทำการลิงก์มายังเว็บไซต์เรา ส่วนมากเป็นการอ้างอิง แสดงถึงความเชี่ยวชาญและรู้ลึกรู้จริงของเว็บไซต์ของเรา หากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพลิงก์มาหาเรา Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์เรามีคุณภาพและเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์นั่นเอง
4. การปรับแต่ง URL
URL ทั่วไปมักยาวและมีตัวเลขและอักขระพิเศษปะปนกัน แต่ URL ที่ดีควรสั้นกระชับ และสื่อถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ได้ เช่น เว็บไซต์ขายสินค้าก็ควรมีชื่อเว็บไซต์ หมวดหมู่ ประเภทสินค้า โดยมีคำประมาณ 3-5 คำ บ่งบอกผู้ที่เข้ามาอ่านว่าเกี่ยวกับอะไร
ตัวอย่างเว็บไซต์ E-Commerce ในไทย
ตัวอย่างเว็บไซต์ E-Commerce ในไทยที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ เราได้ยก 4 เว็บไซต์ธุรกิจขายของออนไลน์ ดังนี้
1. Lazada
เว็บไซต์ E-Commerce ที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกเว็บไซต์หนึ่งคือ Lazada แหล่งรวมสินค้าออนไลน์ เป็นสื่อกลางของผู้ซื้อและผู้ขาย ในปี 2023 มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 15 ล้านคนต่อเดือน มี Keyword ติดอันดับประมาณ 3 ล้าน Keywords นับเป็นเว็บไซต์ที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้งานอย่างมาก
2. Shopee
Shopee เป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เป็นที่นิยมแห่งหนึ่งของไทย โดยเป็นพื้นที่ Online Shopping ที่รวดเร็วและปลอดภัย ในปี 2023 มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 17 ล้านคนต่อเดือน และ Shopee ทำเว็บไซต์ตามหลัก SEO ทำให้มี Keyword ติดอันดับเกือบ 4 ล้าน Keywords เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่โดดเด่นมากทีเดียว
3. Central Online
Central Online เป็นเว็บไซต์ที่เหมือนนำห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมาไว้ในคอมพิวเตอร์ เป็นช่องทางออนไลน์ให้ซื้อของ ในปี 2023 มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 2.5 ล้านคนต่อเดือน มี Keyword ติดอันดับประมาณ 8 แสน Keywords
4. Advice
Advice เป็นเว็บไซต์ E-Commerce ที่ขายสินค้าและอุปกรณ์ IT หลาหลายชนิด โดยในปี 2023 มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 1 ล้านคนต่อเดือน มี Keyword ติดอันดับประมาณ 2.5 แสน Keywords
สรุป
เว็บไซต์ E-Commerce เป็นช่องทางที่จะขยายฐานลูกค้าให้รู้จักกับสินค้าและบริการของเราผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์ที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปิดหน้าร้าน หากพัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีระบบอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซื้อง่ายจ่ายคล่อง พร้อมทั้งทำ SEO ประกอบไปด้วย จากหลาย ๆ ปัจจัยจะทำให้เว็บไซต์ E-Commerce เป็นที่รู้จักในวงกว้างและก้าวขึ้นไปสู่หน้าแรกของ Google Search ได้ไม่ยาก
สนใจปรึกษา Cotactic
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่อยากมีเว็บไซต์ E-Commerce หรือมีแล้วแต่ประสิทธิภาพยังไม่ดีเท่าที่ควร ลองให้ Cotactic Media บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 8 ปี คอยเป็นผู้ช่วยคุณออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านเว็บไซต์ไปจนถึงการตลาดออนไลน์ ช่วยคุณต่อสู้กับคู่แข่งในแบบฉบับของคุณ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้แบรนด์คุณเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ติดต่อขอรับคำปรึกษาทำเว็บไซต์ WordPress กับ Cotactic ได้ก่อนตัดสินใจรับบริการ เพียงกรอกข้อมูลเพื่อให้เรารับทราบโจทย์ของคุณ คลิกที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 065 095 9544
Phone: 065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
Sources:
- What Is an Ecommerce Website? A Complete Guide for 2024 https://www.semrush.com/blog/ecommerce-website/?kw=&cmp=AA_SRCH_DSA_Blog_EN&label=dsa_pagefeed&Network=g&Device=c&utm_content=676513944840&kwid=dsa-2185834087336&cmpid=18361936995&agpid=162954370508&BU=Core&extid=129224854782&adpos=&gad_source=1&gclid=Cj0KCQjw0ruyBhDuARIsANSZ3wphxtRuv0-61ohwxnictap940HpF5BcT8IhFU5kf8AZ6fpTC-S3uu8aAo0CEALw_wcB
- What is ecommerce? https://sell.amazon.com/learn/what-is-ecommerce#:~:text=An%20ecommerce%20website%20is%20an,register%20of%20a%20physical%20shop.
- E-commerce Website https://mailchimp.com/marketing-glossary/ecommerce-website/
- What is an eCommerce website and why do you need one https://www.wix.com/blog/what-is-an-ecommerce-website?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_campaign=16242175905^134377093918^search%20-%20dsa&experiment_id=^^582523585395^&gad_source=1&gclid=Cj0KCQjw0ruyBhDuARIsANSZ3woc_Yv7aB71eJZZ0VpzUQus4AqX7GbZP2oF8_degQrNUEMpYcdaNCMaAvEwEALw_wcB
- What Is E-commerce? Definition, Types, History, and Examples https://elementor.com/blog/what-is-e-commerce/