เชื่อว่าหลังจากช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านพ้นไป ชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมต้องเปลี่ยนไปจากเดิมไม่มากก็น้อย นั่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำธุรกิจต้องเปลี่ยนตาม โดยจะเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ เกิดเทรนด์ การตลาดออนไลน์ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เหตุผลก็เพื่อสร้างความสอดคล้องต่อพฤติกรรมและความเคยชินใน New Normal ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้นวันนี้ Cotactic Digital Marketing Agency Bangkok จึงขออาสาพาผู้ประกอบการทุกท่านไปสำรวจ เทรนด์การตลาดออนไลน์ ที่น่าสนใจในปัจจุบันกันครับ ว่ามีอะไรบ้างที่เหมาะสมต่อการนำไปต่อยอดทางธุรกิจ ถ้าคุณพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย!
1. ซื้อง่าย จ่ายสะดวก ปิดดีลในหนึ่งคลิก!
เนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเก่าอย่างไม่เคยมีมาก่อน พวกเขานิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น ลดใช้เงินสดและหันมาชำระสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น Mobile Banking จนการทำธุรกรรมออนไลน์กลายเป็นรากฐานการใช้ชีวิตปกติของผู้คนในสังคม แม้ช่วงวิกฤติที่กำลังเผชิญจะผ่านพ้นไป แต่ก็มีแนวโน้มว่า เทรนด์การซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตและแอปพลิเคชั่นจะคงอยู่ในสังคมต่อไป จนอาจกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal ของสังคมในปัจจุบันเลยก็เป็นได้
ซึ่งช่องทางที่ผู้บริโภคนิยมใช้งานซื้อขายและทำธุรกรรมออนไลน์นั้นก็มีมากมายหลากหลาย เช่น
-
Social Commerce
การค้าขายสินค้าหรือบริการ ผ่าน Social Media โดยตรง ซึ่งกระบวนการซื้อขายทั้งหมดจะเกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, Line ฯลฯ) ตั้งแต่การหาลูกค้า การหาสินค้า การหาข้อมูลเปรียบเทียบ จนถึงปิดดีลตกลงซื้อขาย ทุกอย่างจะเกิดขึ้นผ่านแชทของลูกค้าที่ติดต่อไปยังตัวธุรกิจ โดยในปัจจุบันแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลาย ก็มีระบบการทำงานที่พร้อมรองรับกิจกรรมตรงนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้การใช้งานเกิดความลื่นไหลไม่ติดขัดทั้งตัวลูกค้าและเจ้าของธุรกิจ โดยผู้ซื้อก็สามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้เลยในไม่กี่คลิก ส่วนผู้ขายก็สามารถสร้างหน้าร้าน สร้างโฆษณาหาลูกค้าใหม่ได้ตลอดเวลา นับเป็นก้าวสำคัญของการผสมผสานเทคโนโลยีให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ของผู้คนได้เป็นอย่างดี
-
Food Delivery
อีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ นั่นก็คือการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นขนส่ง ที่แค่มีสมาร์ตโฟนก็สามารถสั่งและรับอาหารได้จากที่บ้าน ซึ่งแอปพลิเคชั่นที่เรารู้จักและคุ้นหูก็มีตั้งแต่ Lineman, Grab หรือ Foodpanda เป็นต้น โดยการสั่งซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชั่นออนไลน์ประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความที่การซื้อขายนั้นสะดวกรวดเร็วไม่ต้องอดทนรอคิวเอง อีกทั้งยังปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงออกไปเจอโรคร้ายที่กำลังแพร่ระบาด สอดคล้องกับมาตรการรักษาระยะห่างจากทางการ ก็ทำให้เทรนด์การสั่งอาหารออนไลน์มาแรงกระแสไม่มีตก
จะเห็นได้ว่าการซื้อขายของออนไลน์ทั้งหมดที่กล่าวมา มักจะมีจุดเด่นตรงที่เข้าถึงได้ง่าย มีความสะดวกรวดเร็วในทุกขั้นตอนการใช้บริการ สามารถสั่งและรับสินค้าได้เลยจากที่บ้าน สรุปคร่าว ๆ จากภาพรวมเลยก็คือ ทุกการซื้อขายบนโลกออนไลน์สามารถเสร็จสิ้นได้ในไม่กี่คลิก พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มต้องการ ความง่ายและความสะดวกรวดเร็ว เป็นที่ตั้ง ดังนั้นหากแบรนด์ไหนสามารถปรับตัวเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมตรงนี้ของผู้บริโภคได้ ก็จะสามารถหาลูกค้าใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา นับเป็นผลดีต่อการทำธุรกิจในระยะยาวเลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ Online Marketing ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน
2. จับใจผู้บริโภคด้วย Video Marketing
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครั้งที่เราเปิดโซเชียลมีเดียหรือเล่นอินเตอร์เน็ต คอนเทนต์ประเภทวิดีโอต้องมีให้เราได้เห็นอยู่ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็ตาม ซึ่งมันก็สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนมากที่ชื่นชอบการ “ดู มากกว่า อ่าน” อีกทั้งคอนเทนต์วิดีโอนั้นยังเป็นคอนเทนต์ที่ย่อยง่าย เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องอ่านหรือตีความมากมายก็เข้าใจสารได้ทันที ทำให้เนื้อหาประเภทนี้เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในปัจจุบัน
หากมองในแง่ของการทำ การตลาดออนไลน์ Video Marketing ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทั้งในแง่ของการสร้าง Brand Awareness การทำแคมเปญต่าง ๆ เพื่อบรรลุจุดประสงค์ของการทำธุรกิจ หรือการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่าง ๆ เป็นต้น
โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย คอนเทนต์ประเภทวิดีโอก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีเสมอไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาอะไรก็ตาม เห็นได้ชัดจากการถือกำเนิดของโซเชียลมีเดียน้องใหม่สุดร้อนแรงอย่าง Tiktok แพลตฟอร์มวิดีโอขนาดสั้นที่เรียกความนิยมจากผู้ใช้งานได้ไม่มีตก หรือ แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Facebook ที่สามารถใช้งาน Live Video เพื่อสร้าง Engagement ที่มากกว่าการทำวิดีโอคอนเทนต์ประเภทอื่นได้ถึง 79% เลยทีเดียว (อ้างอิงจาก financesonline) ซึ่งวิดีโอคอนเทนต์ที่อยู่บนโซเชียลมีเดียต่างก็มีประสิทธิภาพการทำงานที่มีอิมแพคมหาศาลแตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากเราเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับตัวธุรกิจได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมีเป้าหมายในการหาลูกค้าหรืออะไรก็ตาม
สรุปได้ว่าการมาถึงของ Video Marketing นั้น ได้เปลี่ยนวิถีของการสร้างคอนเทนต์ให้มีมิติการทำงานที่มากกว่าเดิม แคมเปญหรือแผนการตลาดต่าง ๆ จึงถูกขยายขอบเขตการทำงานให้กว้างและมีคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งยัง สอดคล้องต่อพฤติกรรมการเสพสื่อที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่นิยมเสพคอนเทนต์ผ่านการใช้งานสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์เป็นหลักอีกด้วย ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจแล้ว การทำ Video Marketing จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การตลาดที่น่าจับตามองจนไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย
3. โต้ตอบลูกค้าด้วย Interactive Content
จำนวนของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตพุ่งสูงขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19เมื่อปีที่ผ่านมา เหตุผลก็มาจากการที่ผู้คนไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้เหมือนเก่า จึงทำให้โลกออนไลน์กลายเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่ผู้คนจะยังสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แม้จะไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม สื่อหลายอย่างบนโลกอินเตอร์เน็ตจึงถูกปรับให้เหมาะสมต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
นั่นรวมถึง Interactive Content เนื้อหารูปแบบใหม่ที่ถูกสร้างเพื่อลดช่องว่างระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้เข้าใกล้กันมากขึ้น ทำให้การสร้างฐานลูกค้าหรือหาลูกค้าใหม่ ๆ ทำได้โดยง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยเนื้อหาของ Interactive Content ก็จะมาในรูปแบบของคอนเทนต์ที่ดูจับต้องได้ สื่อสารได้ เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่แบรนด์เปิดโอกาส ให้ลูกค้าเป็นคนเข้าหาผ่านคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ไว้ ซึ่งก็มีเนื้อหาตั้งแต่ คอนเทนต์ที่กระตุ้นให้คนอยากแสดงความคิดเห็น หรือคอนเทนต์ประเภทเปิดโหวตในลักษณะของหัวข้อคำถามต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์อาจต้องการเก็บข้อมูลความคิดเห็นจากผู้บริโภค ไปพัฒนาตัวธุรกิจหรือกลยุทธ์ด้านอื่น ๆ ในอนาคต นับเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดึงเอาประโยชน์ของสื่อสังคมออนไลน์มาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว
ตัวอย่างจาก Facebook page ของ KFC
แต่ถึงแม้ Interactive Content นั้นจะสามารถสร้างอิมแพคของการมีส่วนร่วมได้ดีกว่าคอนเทนต์ประเภทอื่น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นคอนเทนต์ที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกได้เสมอไป เพราะถ้าหากขาดการวิเคราะห์ให้รอบคอบถึงผลที่จะตามมา เนื้อหาประเภทนี้ก็อาจส่งผลกระทบในแง่ลบแก่แบรนด์หรือตัวธุรกิจได้ อันเนื่องมาจากผู้คนมักให้ความสนใจกับ Interactive Content เสมอ และมันก็มักจะมาในรูปแบบของความคิดเห็นส่วนบุคคลซึ่งไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเป็นไปในทิศทางใด นี่จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ ต้องวางกลยุทธ์ในการทำ Interactive Content ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นเอง
ตัวอย่างจาก Facebook page ของ Burger King Thailand
จากทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจในยุคหลังโควิด-19 นั้น สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกท่านควรใส่ใจเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ความยืดหยุ่น เพราะอะไรหลายอย่างในชีวิตประจำวันเรากำลังเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การทำธุรกิจหรือการทำ การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) จึงต้องพร้อมปรับตัวตามผู้บริโภคให้ทันอยู่เสมอ หากคุณไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าที่จะปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมตามยุคสมัย ธุรกิจคุณก็มีความเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง จนยากที่จะฟื้นคืนกลับมาได้อีก
หากธุรกิจคุณต้องการที่ปรึกษา ต้องการทีมงานมืออาชีพด้านการรับทำเว็บไซต์ WordPress ที่มาพร้อมกับการทำ Content และ Digital Marketing Agency มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้แก่ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line: @cotactic
ขอบคุณข้อมูลจาก
contentshifu.com, iplandigital.co.th, thegrowthmaster.com, rb.gy