เชื่อไหมว่า Influencer Marketing นั้นมีหลักการทำงานมากกว่าที่เจ้าของธุรกิจหลายท่านคิด ทั้งประเภทที่แตกต่างออกไปของ Influencer ทั้งองค์ประกอบการทำงานต่าง ๆ ในแง่มุมที่คาดไม่ถึง ซึ่งจะมีอะไรสำคัญบ้างนั้น วันนี้ทาง Cotactic Digital Marketing Agency บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress และการตลาดออนไลน์ ขออาสาพาทุกท่านไปเจาะลึกเรื่องนี้พร้อม ๆ กันครับ
Influencer คืออะไร?
Influencer คือ ผู้ที่มีผู้ติดตามและให้ความสนใจจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต ซึ่ง บุคคลเหล่านี้จะสามารถสร้างแรงจูงใจ สร้างอิทธิพลต่อความคิดของผู้คนจำนวนมากได้ผ่านคอนเทนต์ที่พวกเขาสร้าง โดยเนื้อหาเหล่านั้นจะมีความน่าสนใจเป็นพิเศษทั้งในแง่ของการให้ความบันเทิง ความรู้ หรือชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันไป จนสามารถทำให้ผู้คนรู้สึกเข้าถึงและอยากติดตามบุคคลนั้น ๆ
Influencer นั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า Influence ที่แปลว่า มีอิทธิพล สิ่งชักจูง อำนาจชักจูง เป็นคำที่ใช้เรียกบุคคลที่มีอิทธิพลทางสังคมบนโลกออนไลน์
ตัวของอินฟลูเอนเซอร์นั้นมีมากมายหลายประเภท ตั้งแต่ผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงจากสื่อหลัก จนไปถึงบุคคลทั่วไปที่มีความคิดสร้างสรรค์พอจะสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ต่อความชอบของผู้คน เช่น Blogger กูรู เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค นักวิชาการ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นต้น ซึ่ง มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ใครสักคนจะกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ บุคคลเหล่านั้นจะต้องมีความสามารถและประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับแก่คนหมู่มาก นั่นจึงทำให้พวกเขาสามารถสร้างอิทธิพลต่อความคิด ทัศนคติ และการตัดสินใจของผู้คนที่ติดตามได้ แม้จะเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
คุณสมบัติของ Influencer
- บุคคลที่มีความสามารถในการโน้มน้าวต่อการตัดสินใจของผู้อื่น อันเนื่องมาจากตำแหน่งทางสังคม ความรู้ ระดับการศึกษา อาชีพ เป็นต้น
- บุคคลที่มีกลุ่มผู้ติดตามผ่านความสนใจด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ อาจมีส่วนร่วมระหว่างผู้ติดตามและอินฟลูเอนเซอร์จากกลุ่มสังคมที่มีความชอบเรื่องเดียวหรือใกล้เคียงกัน
ประเภทของ Influencer
สำหรับการแบ่งประเภท Influencer เพื่อทำ Online Marketing นั้นมีเกณฑ์สำคัญหลายอย่างที่นำมาชี้วัดเพื่อแบ่งระดับพวกเขาออกเป็นหมวดหมู่ แต่อันดับแรกสุดที่มักหยิบยกมาพูดถึงเลยก็คือ จำนวนผู้ติดตาม ซึ่งก็มีข้อดีคือ เราจะสามารถกำหนดขนาดของผู้รับสารได้ง่ายและเฉพาะเจาะจงตามกลุ่มเป้าหมายที่คนวางกลยุทธ์ต้องการ ซึ่งแต่ละประเภทก็สร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งคุณภาพของเนื้อหา ความน่าเชื่อถือ และเรทราคา โดยจะมีกี่ประเภทบ้างนั้นมาดูกันครับ
1. Nano Influencer
จำนวนผู้ติดตาม: 1,000-10,000 คน
อินฟลูเอนเซอร์ประเภทนี้คือคนที่มีกลุ่มผู้ติดตามน้อยที่สุดจากทั้งหมด แต่ก็มีข้อดีที่ประเภทอื่นเทียบไม่ได้ คือเรทราคาที่ไม่แพงมากและกลุ่มคอมมูนิตี้ของกลุ่มผู้ติดตามที่เล็กแต่อบอุ่น อินฟลูเอนเซอร์ประเภทนี้ส่วนมากจะมีความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดตามเป็นพิเศษ พวกเขาจะรู้จักกลุ่มผู้ติดตามเป็นอย่างดี ซึ่งทีมการตลาดอาจเลือกใช้กลยุทธ์ที่ให้นาโนอิลฟลูเอนเซอร์หลาย ๆ คนทำคอนเทนต์พร้อม ๆ กันในทีเดียว เป็นการกระตุ้นให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูเป็นจริงและจับต้องได้ง่ายมากกว่า
2. Micro Influencer
จำนวนผู้ติดตาม: 10,000-50,000 คน
อินฟลูเอนเซอร์ระดับนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะคนกลุ่มนี้เป็นครีเอเตอร์ที่ผลิตเนื้อหาค่อนข้างเฉพาะทาง สามารถเข้ากับแบรนด์ได้ง่ายเพราะยังไม่มีตัวตนที่ชัดเจน จัดเป็นกลุ่มที่คล้ายคลึงกับนาโนอินฟลูเอนเซอร์ แต่ก็เข้าถึงผู้คนได้มากกว่า ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดได้ง่ายและยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง
3. Mid Tier Influencer
จำนวนผู้ติดตาม: 50,000-500,000 คน
อินฟลูเอนเซอร์ระดับกลางที่หลายแบรนด์ต้องการ เพราะสามารถสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ (Brand Awareness) ได้ดี ส่วนมากแล้วอินฟลูเอนเซอร์ระดับนี้จะทำคอนเทนต์เป็นอาชีพหลัก มีความเป็นมืออาชีพทำให้มั่นใจในเรื่องของเนื้อหาที่จะสื่อสารออกไปได้ เป็นกลุ่มที่มีความสมดุลทั้งในเรื่องของเรทราคาที่ไม่แพงเกินไป มีผู้ติดตามที่เยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับเยอะมากจนรู้สึกจับต้องไม่ได้
4. Macro Influencer
จำนวนผู้ติดตาม: 500,000-1,000,000 คน
เป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับค่อนข้างใหญ่ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความเป็นมืออาชีพสูงเนื่องจากเนื้อหาหลักที่พวกเขาทำจะค่อนข้างเฉพาะเจาะจงในด้านใดด้านหนึ่ง เหมาะกับการสร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์และวางแผนการตลาดเพื่อหาลูกค้าใหม่ เพราะสามารถเข้าถึงพร้อมเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง ซึ่งหากมีงบประมาณที่มากพอ ตัวมาโครอินฟลูเอ็นเซอร์อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดก็เป็นได้
5. Mega Influencer
จำนวนผู้ติดตาม: มากกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป
อาชีพส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้มักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อย่าง ดารา นักร้อง นักแสดง นักกีฬา แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดจากทั้งหมด คนกลุ่มนี้เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง อยากให้คนเข้าถึงจำนวนมาก ๆ ไม่เน้นเจาะจงกลุ่มเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งเป็นพิเศษ คนกลุ่มนี้สามารถขับเคลื่อนสังคมหรือเทรนด์ต่าง ๆ ได้ในทุกกิจกรรมที่เขาทำ ฉะนั้นเมื่อเขาทำอะไร ย่อมต้องมีคนจับตามองแน่นอน ข้อควรระวังคือต้องวางแผนกลยุทธ์ให้ดีและรัดกุม เพราะการทำการตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์ระดับนี้อาจสร้างความแท้จริงหรือจับต้องได้ไม่มากพอ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่เล็กกว่านั่นเอง
ประโยชน์ของ Influencer
1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือหาลูกค้าได้ง่ายกว่า
ด้วยความที่อินฟลูเอนเซอร์นั้นมีทัศนคติและความคิดเห็นใกล้เคียงกับกลุ่มผู้ติดตาม นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่า ทำให้การสื่อสาร การโฆษณาประชาสัมพันธ์ดูน่าเชื่อถือ สามารถสร้างแรงกระตุ้นในการอยากซื้ออยากใช้ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายมากกว่าที่แบรนด์จะสามารถทำได้เองเสียอีก นั่นจึงทำให้อินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นอีกหนึ่งแผนการตลาดสำหรับการหาลูกค้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพ
2. สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์ได้เป็นอย่างดี
หากเทียบกับคนที่มีชื่อเสียงจากสื่อกระแสหลักแล้ว อินฟลูเอนเซอร์บนอินเตอร์เน็ตมีแนวโน้มสร้างความรู้สึกจับต้องได้แก่สินค้าหรือบริการมากกว่า เพราะผู้ติดตามส่วนมากนั้นตามพวกเขาจากทัศนคติ ผลงานเนื้อหาและชีวิตประจำวัน กลุ่มเป้าหมายจะไม่รู้สึกยัดเยียด จะไม่รู้สึกเหมือนถูกโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งถ้าเกิดมีกลยุทธ์การทำงานที่ดีและมีอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสม ก็จะเปิดโอกาสให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
3. วัดและประเมินผลได้ง่าย
ด้วยความที่ผลงานหรือคอนเทนต์ที่อินฟลูเอนเซอร์ผลิตขึ้นอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ การวัดและประเมินผลเบื้องต้นจึงทำได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น ยอดการเข้าถึง ยอดการมีส่วนร่วม ความคิดเห็น ยอดแชร์ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวประเมินเบื้องต้นได้เป็นอย่างดีว่ากลยุทธ์ที่ทำอยู่มีทิศทางเป็นเช่นไร การปรับแก้ไขจึงเป็นเรื่องง่าย สามารถจัดการได้ทันทีหรือเก็บข้อมูลเพื่อใช้กับแคมเปญต่อ ๆ ไปก็ทำได้
Influencer Marketing
เป็นเรื่องจริงที่ในปัจจุบันนี้ ธุรกิจไหน ๆ ก็สามารถหาลูกค้าใหม่จาก Influencer Marketing ได้ทั้งนั้น แต่มันก็ไม่ได้ง่ายถึงขนาดที่คิดว่าจะทำก็เริ่มทำได้เลย การทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์นั้น ต้องมีแผนการกลยุทธ์ที่ชัดเจน ต้องเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายทางธุรกิจของแบรนด์ตัวเอง แถมยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เราต้องวิเคราะห์ตีโจทย์ให้แตก ถึงจะสามารถดึงเอาประโยชน์ของการทำการตลาดประเภทนี้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยจะมีปัจจัยสำคัญอะไรบ้างนั้นเรารวบรวมไว้ให้ดังนี้ครับ
1. รู้จักกลุ่มเป้าหมายและแพลตฟอร์ม
นอกจากตัวอินฟลูเอนเซอร์แล้ว กลุ่มเป้าหมายของอินฟลูเอนเซอร์เองก็เป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องศึกษา อันที่จริงมันควรจะเป็นอย่างแรกด้วยซ้ำที่เราจะต้องรู้ก่อนให้ได้ ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร มีไลฟ์สไตล์ความสนใจแบบไหน มีพฤติกรรมอย่างไร เพราะถ้าหากคุณรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี คุณก็จะรู้ว่าต้องเลือกอินฟลูเอนเซอร์แบบใด คอนเทนต์ต้องออกมาประมาณไหนถึงจะเหมาะสม เป็นต้น
ลำดับถัดมาคือแพลตฟอร์ม ในยุคนี้มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอยู่เยอะเต็มไปหมด การที่จะพาแบรนด์ไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์มเลยก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากทุกอย่างยังอยู่ในขั้นต้น การเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งอาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะมันจะทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงแบรนด์คุณกับตัวอินฟลูเอนเซอร์ได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถสร้างจุดเชื่อมโยงที่น่าสนใจระหว่างคอนเทนต์กับเพจหรือช่องทางของคุณที่อยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้กลยุทธ์ประสบความสำเร็จ
2. เลือก Influencer ให้เหมาะสมกับตัวธุรกิจ
การเลือกอินฟลูเอนเซอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด เพราะหากเราได้อินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่เหมาะสมมา นั่นอาจทำให้เราเสียโอกาสและทรัพยากรที่มีค่าไปได้ การที่จะเลือกอินฟลูเอนเซอร์มีเทคนิคเบื้องต้นง่าย ๆ คือ
- หากธุรกิจคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือกลาง ก็ควรใช้อินฟลูเอนเซอร์ระดับ Macro หรือ Mega ไปเลย เพราะการใช้ระดับเล็ก ๆ ในตอนต้นอาจไม่ได้ผลอะไรมากนัก แต่ถ้าใช้คนดังที่มีคนติดตามมากก็จะถือว่าเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี แถมยังสร้างอิมแพคเป็นวงกว้างได้ง่าย
- หากธุรกิจคุณเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มีสินค้าหรือบริการที่เป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง ก็ควรใช้อินฟลูเอนเซอร์ระดับ Nano, Micro หรือ Mid-Tier เพราะมันจะเป็นการวางภาพลักษณ์ให้ตัวแบรนด์ดูจับต้องได้ เป็นการปูรากฐานให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
เมื่อทราบแล้วว่าอินฟลูเอนเซอร์ประเภทไหนเหมาะสมกับตัวธุรกิจ ลำดับถัดไปก็คือการเลือกสรรตัวบุคคลว่าอินฟลูเอนเซอร์คนไหนจะสามารถเข้ากับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยอาจจะคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ติดตาม คอนเทนต์ที่สร้าง ชื่อเสียงและทัศนคติ ซึ่งการหาอินฟลูเอนเซอร์ในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด เพราะในปัจจุบันก็ได้มีทั้งแบบการติดต่อเข้าไปที่ตัวบุคคลโดยตรงหรือติดต่อผ่านเอเจนซี่ แถมยังมีอินฟลูเอนเซอร์มากมายให้เลือกสรร
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ จุดยืนของ Influencer จะส่งผลกระทบต่อแบรนด์ด้วยเสมอทั้งในแง่ของทัศนคติ ความเห็นทางการเมือง นิสัยการวางตัว ฉะนั้นการทำข้อตกลงที่ดีและรัดกุมก็จะช่วยในเรื่องนี้ได้ ควรมีการพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายก่อนเริ่มงาน ว่าแบรนด์มีข้อจำกัดอะไร อินฟลูเอนเซอร์จะทำเนื้อหาแบบไหน อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อให้การทำงานในอนาคตราบรื่นและเกิดปัญหาน้อยที่สุด
3. กำหนดเนื้อหาที่เหมาะสม
ในปัจจุบันนี้เป็นยุคสมัยแห่งการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปไกล จนเอื้ออำนวยให้ทุกคนสามารถสร้างหรือผลิตผลงานต่าง ๆ ได้ตามใจนึก บนโลกอินเตอร์เน็ตมีคอนเทนต์มากมายให้ผู้ใช้งานได้เลือกเยอะจนเสพเท่าไหร่ก็ไม่หมด กลยุทธ์ Influencer Marketing จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะยิ่งคุณมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ คอนเทนต์หรือข้อความที่คุณส่งก็จะโดดเด่นและมีคนเห็นมากขึ้นเท่านั้น
ฉะนั้นเนื้อหาหรือข้อความที่อินฟลูเอนเซอร์ปล่อยออกมาจึงเป็นอะไรที่ทรงพลัง ยิ่งเป็นอินฟลูระดับสูงก็ยิ่งกระจายการรับรู้ได้มากเท่านั้น คุณสามารถหาลูกค้าใหม่ได้ทั่วทุกมุมโลก หากชื่อเสียงของอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นโด่งดังไปถึง คอนเทนต์ที่ถูกผลิตจึงต้องมีคุณภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ ต้องถูกคิดมาอย่างดีเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรูปแบบของคอนเทนต์นั้นก็ไม่ได้ตายตัวแต่อย่างใด ยิ่งเป็นอะไรที่สดใหม่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
การทำ Influencer Marketing ในปัจจุบันเป็นการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ที่สร้างอิมแพคอย่างมากต่อสังคมและผู้บริโภค เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แบรนด์จะสามารถหาลูกค้าหรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างที่สื่อยุคเก่าไม่สามารถทำได้ ดังนั้นแล้วการที่ผู้ประกอบการจะหันมาปรับตัวลองใช้วิธีนี้จึงเป็นเรื่องที่สมควรอย่างที่สุด แต่ถึงกระนั้นการศึกษาหาข้อมูลถึงวิธีการที่ถูกต้องก็เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะกลยุทธ์การตลาดออนไลน์นั้นมีพื้นฐานที่เริ่มต้นจากความเข้าใจ ต่อให้โมเดลการทำงานจะดูดีทันสมัยมากแค่ไหน แต่หากไร้ซึ่งวิธีการที่ถูกต้อง ขาดซึ่งความเข้าใจอย่างถ่องแท้ มันก็ไม่อาจให้ผลลัพธ์ดังที่หวังได้ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจคุณสูญเสียทรัพยากรอันมีค่าไปอย่างไม่จำเป็น
ดังนั้นหากคุณต้องการผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทำ Online Marketing มาช่วยเหลือจัดการปัญหาพร้อมวางรากฐานให้แก่ตัวธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้ บริษัทให้บริการเกี่ยวกับ Digital Marketing Agency ที่ทุกธุรกิจไว้วางใจ
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://bit.ly/cotactic
ขอบคุณข้อมูลจาก