ต้องการที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญในการรับทำเว็บไซต์ WordPress คลิกที่นี่
การจะสร้างเว็บไซต์ WordPress ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราจำเป็นต้องมีปลั๊กอิน (Plugin) หรือส่วนเสริมที่จะช่วยปรับปรุงและตกแต่งเว็บไซต์ให้พร้อมใช้งานมากยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบันมี WordPress Plugin ให้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก มือใหม่หัดสร้างเว็บหลายคนก็อาจไม่รู้ว่าควรเลือกใช้ปลั๊กอินตัวไหนดี จะโหลดมาทดลองใช้ทั้งหมดก็เสียเวลา และเสี่ยงที่เว็บไซต์ของเราจะเกิดความผิดพลาดจากปลั๊กอินที่ไม่มีคุณภาพ ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวม 10 WordPress Plugin ถูกและดี (และบางตัวก็ฟรี!) ที่ควรมีติดเว็บไซต์เอาไว้มาฝากทุกคนกัน
WordPress Plugin คืออะไร?
WordPress Plugin คือส่วนเสริมของ WordPress ในรูปแบบสคริปต์ ซึ่งช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้เว็บไซต์มีความยืดหยุ่นและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- WordPress Plugin ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วใน WordPress ให้ดียิ่งขึ้น จำพวกปลั๊กอินสำหรับจัดการหน้าเว็บไซต์เช่น Elementor และ Duplicator หรือปลั๊กอินสำหรับการแชร์เว็บไซต์ไปยังโซเชียลมีเดีย เช่น Social Warfare เป็นต้น
- WordPress Plugin ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับเว็บไซต์ อาทิ ปลั๊กอินสำหรับการทำ E-commerce อย่าง Woocommerce หรือปลั๊กอินด้านความปลอดภัยอย่าง iThemes Security เป็นต้น
WordPress Plugin ดีอย่างไร?
WordPress Plugin มีหลากหลายข้อดีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้พัฒนาเว็บไซต์และเจ้าของธุรกิจ อาทิ
1. ช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณการทำเว็บไซต์
ในปัจจุบันมี WordPress Plugin ให้เลือกใช้งานมากกว่า 60,000 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่การปรับแต่งเล็กน้อยไปจนถึงการเปลี่ยนเว็บไซต์ให้รองรับกับระบบต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเพิ่มหรือปรับแต่งฟังก์ชันที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเองหรือจ้างนักพัฒนาเว็บไซต์
2. ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ
WordPress Plugin สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ตั้งแต่การตั้งค่าพื้นฐาน เช่น เปิด-ปิด ไปจนถึงการปรับแต่งรายละเอียด เช่น ตัวอักษร สี และขนาด โดยยังคงรักษา WordPress Theme ของเว็บไซต์ไว้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดและถอนการติดตั้งได้ง่ายโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์อีกด้วย
3. มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
WordPress Plugin ส่วนใหญ่มาจากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มีการอัปเดตและปรับปรุงสม่ำเสมอ จึงปลอดภัยและดีต่อการใช้งานในระยะยาว โดยมีให้เลือกทั้งแบบฟรีสำหรับใช้งานพื้นฐาน และแบบชำระเงินสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ
เคล็ด(ไม่)ลับ เลือก WordPress Plugin ให้ได้ของดี มีคุณภาพ
การเลือก WordPress Plugin นั้น นอกจากความสามารถและฟีเจอร์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาด้วย ดังนี้
Ratings (ความคิดเห็นของผู้ใช้งาน)
จำนวนดาวหรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณาก่อนติดตั้ง WordPress Plugin เพราะหากปลั๊กอินได้รับคะแนนน้อยหรือมีคำวิจารณ์ในแง่ลบจำนวนมาก ก็แสดงว่า Plugin นั้น ๆ อาจใช้งานได้ไม่ดีหรือไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
Last updated (วันที่อัปเดตล่าสุด)
ควรตรวจสอบความถี่ในการอัปเดตปลั๊กอิน โดยดูจากวันที่อัปเดตล่าสุด หากปลั๊กอินไม่มีการอัปเดตเลยหรือทิ้งช่วงในการอัปเดตนานเกินไป เมื่อติดตั้งอาจทำให้เกิดปัญหากับเว็บไซต์ได้
Active installations (จำนวนผู้ใช้ที่ติดตั้งและเปิดใช้งาน)
จำนวนผู้ใช้ที่ติดตั้งและเปิดใช้งาน WordPress Plugin เป็นตัวชี้วัดความนิยมและน่าเชื่อถือของปลั๊กอิน เพราะปลั๊กอินที่มีคนใช้งานจริงจำนวนมาก มักจะได้รับการอัปเดตบ่อยและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ปลั๊กอินมีความเสถียรและปลอดภัย
Support (การให้ความช่วยเหลือจากผู้พัฒนา)
เราสามารถแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นของ WordPress Plugin ที่เราใช้งานผ่าน Support Forum ได้ เพื่อตรวจสอบว่าปลั๊กอินตัวนี้มีปัญหาบ่อยแค่ไหน และมีการแก้ไขปัญหาจากผู้พัฒนามากน้อยเพียงใด ยิ่งปลั๊กอินตัวนั้นมีปัญหาน้อย และได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ยิ่งแสดงถึงความใส่ใจของผู้พัฒนาในการพัฒนาปลั๊กอินในระยะยาว
นอกจากปัจจัยหลักแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น
- ความเข้ากันได้ของปลั๊กอินกับรุ่น WordPress ที่คุณใช้งาน
- ค่าใช้จ่ายของ WordPress Plugin ว่าเป็นแบบฟรีหรือเสียเงิน เป็นต้น
10 WordPress Plugin แนะนำที่ควรมีติดเว็บไซต์
1. Yoast SEO
WordPress Plugin ยอดนิยมสำหรับสาย SEO ที่ช่วยแนะนำและปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลัก SEO โดยเมื่อสร้างหน้าเพจหรือเขียนบทความบน WordPress แล้ว Yoast SEO จะวิเคราะห์และแสดงสัญลักษณ์สีเขียว ส้ม และแดง เพื่อระบุส่วนที่ต้องปรับปรุงหรือแก้ไข
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 5 ล้าน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียม ราคา 99 USD/ปี
2. Akismet
Akismet เป็นปลั๊กอินพื้นฐานที่ติดตั้งมาพร้อมกับ WordPress ซึ่งจะช่วยในการกรองและตรวจจับคอมเมนต์สแปมหรือคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสม มีจุดเด่นคือมีความแม่นยำสูง ใช้งานง่าย ไม่หน่วงเว็บไซต์ รองรับได้ถึง 73 ภาษา ลดการทำงานที่ไม่จำเป็นของแอดมิน และทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 5 ล้าน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและมีค่าบริการสำหรับเชิงพาณิชย์ (เริ่มต้น 3,275.40 – 16,415.40 บาท/ปี)
3. WP Rocket
อีกหนึ่ง WordPress Plugin ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การบีบอัดเว็บไซต์ การโหลดรูปภาพ การลดโค้ด HTML และการเพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูล ส่งผลให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลด Bounce Rate ของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วย User Interface ที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีความรู้เฉพาะทาง
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 1.5 ล้าน+
- ค่าบริการ: เริ่มต้นที่ 59 – 299 USD/ปี
4. Imagify
ปลั๊กอินลดขนาดรูปภาพบนเว็บไซต์ รองรับไฟล์หลากหลายนามสกุลทั้ง WebP, PDF, GIF, JPG และ PNG ใช้งานง่าย ช่วยให้บีบอัดรูปภาพได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพ ลดเวลาโหลดหน้าเว็บ เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ใช้งานและการทำ SEO อีกทั้งยังมีแพ็กเกจแบบฟรีให้เลือกใช้งาน (บีบอัดได้สูงสุด 200 ภาพ/เดือน)
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 8 แสน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียม เริ่มต้นที่ 4.99 – 9.99 USD/เดือน
5. Redirection
เว็บไซต์ที่จำเป็นต้องเปลี่ยน URL สามารถใช้บริการ WordPress Plugin อย่าง Redirection เพื่อย้าย URL และทำ Redirect 301 โดยระบุ URL ต้นทางและ URL ปลายทางที่ต้องการแก้ไข แล้วกดยืนยัน ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาลิงก์เสียได้แล้ว ยังช่วยรักษาอันดับ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 2 ล้าน+
- ค่าบริการ: ฟรี
6. Elementor
หนึ่งในปลั๊กอินตระกูล Page Builder ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ ปรับแต่ง Layout และองค์ประกอบอื่น ๆ ในหน้าเว็บได้ง่าย ๆ เพียงลากและวางเท่านั้น ตัวปลั๊กอินยังมีหลากหลาย Widget หรือองค์ประกอบสำเร็จรูปให้เลือกทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเองให้ยุ่งยาก
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 5 ล้าน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและแพ็กเกจ Elementor Pro เริ่มต้น 59 USD/ปี
7. TablePress
TablePress เป็น WordPress Plugin คุณภาพสูงที่ได้รับการรีวิวด้วยคะแนนเต็ม 5 ดาวจากผู้ใช้จำนวนมาก ช่วยให้คุณสามารถสร้างและจัดการตารางที่ซับซ้อนบนหน้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย รองรับการใส่ข้อมูลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ ลิงก์ หรือสูตรคณิตศาสตร์
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 8 แสน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียม เริ่มต้นที่ 79 – 189 USD/ปี
8. iThemes Security
ปลั๊กอินความปลอดภัย WordPress ตัวนี้จะช่วยป้องกันเว็บไซต์ของคุณจาก Hackers, Bots และ Malware โดยบล็อกการเข้าถึงจากที่อยู่ IP และ Users ที่ไม่รู้จัก อีกทั้งยังช่วยปกป้องเว็บไซต์จากการถูก Brute Force หรือการคาดเดารหัสผ่าน รวมถึงฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การสำรองข้อมูล การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน การแบนผู้ใช้งาน เป็นต้น
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 9 แสน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียม เริ่มต้นที่ 99 – 299 USD/ปี
9. Duplicator
Duplicator เป็นปลั๊กอินสำหรับคัดลอกหรือย้ายหน้าเว็บไซต์จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการย้ายข้อมูลด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังสามารถสำรองข้อมูลบนเว็บไซต์เพื่อป้องกันในกรณีที่ Server เกิดมีปัญหา หรือมีการอัปเดตธีม/ปลั๊กอินแล้วเกิดข้อผิดพลาดขึ้นจนไม่สามารถเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ได้
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 1 ล้าน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียม เริ่มต้นที่ 49.50 – 299.50 USD/ปี
10. WooCommerce
WordPress Plugin ที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและร้านค้าต่าง ๆ ควรต้องมี ด้วยฟีเจอร์สำหรับร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ระบบซื้อ-ขาย การจัดการคลังสินค้า ระบบชำระเงิน ไปจนถึงการสร้างโฆษณาเพื่อโปรโมทร้านค้าของเรา ที่สำคัญคือใช้งานง่ายและฟรี เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ร้านค้าด้วยตัวเอง
- จำนวนผู้ติดตั้ง: 5 ล้าน+
- ค่าบริการ: มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียม เริ่มต้นที่ 39 – 70 USD/เดือน
ควรติดตั้ง WordPress Plugin กี่ตัวบนเว็บไซต์?
การติดตั้ง WordPress Plugin มากเกินความจำเป็นอาจทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลง หรือเกิดข้อผิดพลาดได้ ในขณะที่การติดตั้งปลั๊กอินน้อยเกินไปอาจทำให้เว็บไซต์ขาดประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรพิจารณาความต้องการใช้งานของเว็บไซต์เป็นหลัก และตรวจสอบความปลอดภัยของปลั๊กอินก่อนการติดตั้ง
สรุป
WordPress Plugin ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ที่ต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น และนอกจาก 10 ปลั๊กอินที่เราแนะนำในบทความนี้แล้ว WordPress ยังมีปลั๊กอินอื่น ๆ อีกกว่า 60,000 ตัว ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลและระมัดระวังก่อนเลือกใช้งานทุกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและผลกระทบต่อเว็บไซต์ภายหลัง
หากคุณต้องการบริษัทรับทำเว็บไซต์ หรือที่ปรึกษาด้าน Website Service มาช่วยวางแผนและจัดการเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้!