click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

ในโลกดิจิทัลทุกวันนี้ เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการแทบทุกคนจะต้องมีเว็บไซต์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการของตัวเอง แต่เพียงแค่การมีเว็บไซต์ไม่เพียงพอในการตลาดยุคปัจจุบัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่นักการตลาดจะต้องทำความเข้าใจว่าอะไรที่ทำให้คนเข้าสู่เว็บไซต์ หรือที่เราเรียกว่า “Website Traffic” เพราะการวัด Web Traffic ไม่ได้มีประโยชน์แค่การบอกว่ามีคนเข้ามาชมเว็บไซต์ของเรามากแค่ไหน แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์ความสำเร็จหรือล้มเหลวของแคมเปญการตลาดอีกด้วย 

Traffic คือ

Traffic ในเชิงการตลาด คืออะไร?

Website Traffic คือ ตัวเลขที่แสดงจำนวนผู้เยี่ยมชมหรือผู้ใช้ที่ใช้งานเว็บไซต์หนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นหน่วยวัดพื้นฐานในการบอกเราถึงความนิยม (Popularity), จำนวนการเข้าถึง (Reach) และประสิทธิภาพ (Effectiveness) ของเว็บไซต์หรือออนไลน์แพลตฟอร์ม 

สำหรับธุรกิจ Traffic คุณภาพสูง หรือ High-Quality Traffic เป็นบันไดขั้นแรกของช่องทางการขายที่เราจะสามารถเปลี่ยนผู้เข้าชม (Visitors) ให้กลายเป็นโอกาสในการขาย (Leads) และเปลี่ยนเป็นลูกค้า (Customers) ของเราได้ การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก Web Traffic อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้สามารถปรับกลยุทธ์และสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด

Website Traffic ประเภทต่าง ๆ

แหล่งที่มาของผู้เข้าชมเว็บไซต์มาได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Search Engine, การซื้อโฆษณา, การค้นหาโดยตรง, หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่สำหรับการแบ่งประเภทเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 

 

Organic Traffic

  • Organic Traffic

Organic Traffic หมายถึง ผู้เข้าชมที่เข้าสู่เว็บไซต์ของเราจากหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (Search Engine Results Pages: SERPs) โดยไม่มีการจ่ายค่าโฆษณา Organic Traffic คือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจต้องการ เพราะการมี Organic Traffic จำนวนมาก แสดงว่าเว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่ดีของ Search Engines ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกว่าคุณภาพและเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพสูง

 

Paid Traffic

  • Paid Traffic

Paid Traffic คือ ผู้เข้าชมที่เข้าสู่เว็บไซต์ผ่านการลงทุนโฆษณา ซึ่งสามารถทำได้ผ่าน Pay-per-Click (PPC), Display Ads, หรือการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ข้อดีของ Paid Traffic คือทำให้เจ้าของเว็บไซต์ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ออกไปให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

 

Direct Traffic

  • Direct Traffic

Direct Traffic หมายถึงผู้เข้าชมที่เข้าถึงเว็บไซต์ผ่านการพิมพ์ URL โดยตรงใน Web Browser การมี Website Traffic ประเภทนี้มาก ๆ แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีของแบรนด์ที่แข็งแรง และแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ส่วนมากมักเป็นคนที่เข้าชมซ้ำจากเนื้อหาบนเว็บไซต์ หรือได้รับประสบการณ์ที่ดีจากสินค้าหรือบริการของแบรนด์

 

Referral Traffic

  • Referral Traffic

Referral Traffic หมายถึง ผู้เข้าชมเว็บไซต์ผ่านการคลิกไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) จากแหล่งอื่น ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, ฟอรัมออนไลน์ หรืออีเมล Traffic ประเภทนี้มีประโยชน์ในการบอกว่าเว็บไซต์ของเราพบได้บนเว็บไซต์อื่นมากแค่ไหน หรือมีประโยชน์แค่ไหนในการถูกบอกต่อ ซึ่งจะทำให้เราได้ผู้มุ่งหวังที่มีคุณภาพสูงในการเข้าชมเว็บไซต์ของเรามากขึ้น 

 

Social Traffic

  • Social Traffic

Social Traffic คือ ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มาจากโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม Website Traffic ประเภทนี้ มักสอดคล้องกับประสิทธิภาพของ Social Media และ Engagement ของแบรนด์ เพราะการมีกลยุทธ์การสื่อสารผ่าน Social Media ที่ดี ส่งผลให้เกิดจำนวนผู้ที่สนใจสินค้าและเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น

 

เคล็ดลับเพิ่ม Traffic ให้ เว็บไซต์

เมื่อเรารู้ประเภทของ Website Traffic และแหล่งที่มาแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อจากนั้นคือ การเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในหน้าเว็บไซต์ จากวิธีดังต่อไปนี้

  • ทำโฆษณาออนไลน์

การลงทุนกับโฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google Ads หรือโฆษณาผ่าน Social Media คือตัวช่วยที่เร็วที่สุดในการสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ แต่ต้องแน่ใจว่าแคมเปญการโฆษณาของคุณไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง ใช้ข้อความที่น่าสนใจ และพาผู้ชมไปสู่หน้า Landing Page ที่เหมาะสม

  • ทำ SEO

การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา (Search Engine Optimization: SEO) คือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้าง Organic Traffic ในระยะยาว เจ้าของเว็บไซต์สามารถทำ SEO ผ่านการใส่ Keyword ลงในถ้อยคำ และเนื้อหาที่ปรากฏบนหน้าเว็บเพื่อสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ

  • Content Marketing

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญคือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ดึงดูด น่าสนใจ และสม่ำเสมอ จะช่วยให้รักษาความน่าเชื่อถือในกลุ่มลูกค้า นอกจากจะทำให้เกิดผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มีคุณภาพแล้ว ยังทำให้เกิดการเข้าเว็บไซต์ซ้ำอีกด้วย

  • Social Media Engagement

นอกจากวิธีการทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว การรักษาความเคลื่อนไหวในช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ สร้าง Engagement กับผู้ติดตามสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการทำให้ผู้ที่สนใจเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น

 

ดังนั้นเว็บไหนที่มี Website Traffic สูง แสดงว่าเว็บไซต์นั้นมีคุณภาพ เป็นที่สนใจของผู้ใช้งาน และยังสามารถนำ Traffic นี้ ไปใช้ประโยชน์ได้ต่อ อย่างการทำ Remarketing เป็นต้น


หากคุณต้องการที่ปรึกษาการรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

——————————————————————–

บทความที่เกี่ยวข้อง

RMF Model

RFM Model คืออะไร? ทำไมการแบ่งกลุ่มลูกค้าถึงสำคัญ

Personal Branding

Personal Branding คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับธุรกิจ

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้