click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

หลายครั้งในการจัดแคมเปญการตลาดเพื่อประสิทธิภาพ ในการเข้ารับชมเว็บไซต์ของร้านค้าบนออนไลน์ กระตุ้นความน่าสนใจแก่กลุ่มเป้าหมาย แต่แคมเปญไหนล่ะ? ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งหลายธุรกิจจะเลือกใช้วิธีการวัดผลการตลาดออนไลน์ โดย Google Analytics หรือ ตัววัดผลการตลาดออนไลน์อื่นๆ แต่เครื่องมือวัดผลของนักการตลาดออนไลน์ ที่เก็บทุกรายละเอียดของข้อมูลที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ คือ UTM เครื่องมือทางตลาดที่ตอบโจทย์ สำหรับนักการตลาดออนไลน์เป็นอย่างดี เพียงสร้างตัวแปร กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงเว็บไซต์ UTM คือ สิ่งที่รวบรวมทุกข้อมูลที่นักการตลาดต้องการมาไว้ให้ในที่เดียว

 

UTM คืออะไร ?

UTM หรือ Parameters ซึ่งย่อมาจาก Urchin Tracking Module เป็นเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์  ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล มเพื่อรายงาน การเข้าถึงของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของธุรกิจที่มาจากแต่ละช่องทาง 

หน้าตาของ UTM  จะเป็นตัวข้อความที่ไม่คุ้นตาอยู่ตามหลัง URL ที่กลุ่มเป้าหมายคลิกเพื่อเข้าเว็บไซต์ ซึ่งนั่นคือโค้ด UTM ที่นักการตลาดออนไลน์ใส่ตามหลัง URL โดยโค้ดจะแบ่งเป็นหัวข้อแต่ละตัว ตามที่นักการตลาดออนไลน์ต้องการทราบช่องทาง การเข้าถึงเว็บไซต์ที่กลุ่มเป้าหมายใช้ช่องทางเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ 

บริการรับทำเว็บไซต์ WordPress

 

ประโยชน์ของการทำ UTM 

การเก็บข้อมูลด้านการตลาดออนไลน์ที่ได้มาจาก Google Analytics ซึ่ง UTM จะทำหน้าที่รวมข้อมูลการเข้าถึงเฉพาะด้านที่มีเนื้อหาละเอียดมากกว่าเดิม 

  • ระบุ Traffic และที่มาได้ชัดเจน

UTM สามารถระบุช่องทางการเข้าถึงเว็บไซต์ของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการคลิกจากเว็บไซต์ การค้นหาจาก Google การโฆษณาบน Facebook หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ 

  • รู้พฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาหน้าเว็บไซต์

UTM สามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ละเอียดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคลิกลิงก์ไหนบ้าง ใช้เวลาอยู่บนหน้าเว็บไซต์นานขนาดไหน หรือมีการกดซื้อสินค้าบนหน้าเว็บหรือไม่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์และแคมเปญการตลาด

  • จัดสรรงบประมาณได้ถูกต้อง

UTM จะแสดงผลการเข้าถึงเว็บไซต์ ตามช่องทางการโปรโมทของแต่ละแคมเปญ ธุรกิจสามารถประเมินการลงทุน เทียบผลลัพธ์ที่ได้กลับมาว่าคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าผลลัพธ์ไม่ได้ควรย้ายการลงทุนไปที่ช่องทางไหน ถ้าผลัพธ์ดีควรเพิ่มงบการลงทุนเท่าไหร่ 

 

องค์ประกอบของ UTM มีอะไรบ้าง ?

หากสังเกต URL ของเว็บไซต์ โดยปกติจะมีลักษณะแบบนี้ www.cotactic.com
UTM คือ ตัวแปรตามท้ายของ URL

ตัวอย่างเช่น www.cotactic.com?utm_source=googlr&utm_medium=organic&utm_campaign=blog

จะเห็นได้ว่าจะมีข้อความที่ไม่คุ้นตาต่อท้าย URL ซึงจะมีความยาวมากกว่าปกติ โดย UTM นั้นจะไม่เป็นปัญหาต่อผู้คลิกเข้าชมเว็บไซต์แต่อย่างใด โดย UTM จะแบ่งได้ 5 ตัวแปร คือ

  • UTM_source

UTM_source

แหล่งช่องทางที่ผู้เข้าชม เข้ามาในเว็บไซต์ เช่น Facebook , Instagram , แพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่นักการตลาดนำลิงก์ไปวางเพื่อโปรโมทเว็บไซต์ 

  • UTM_medium

UTM_medium

ช่องทางการคลิกของผู้รับชมเว็บไซต์ การคลิกผ่านเว็บไซต์ที่นำไปฝากลงโฆษณา , คลิกผ่านลิงก์, คลิกผ่านช่องทางการตลาดอื่น ๆ 

  • UTM_campaign

UTM_campaign

ชื่อแคมเปญการตลาดที่นำลิงก์เว็บไซต์วาง เพื่อกระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์ของธุรกิจ หรือ จะเป็นชื่อโปรโมชั่นที่ธุรกิจมีขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น

  • UTM_term

UTM_term

Keyword ที่ธุรกิจลงทุนสำหรับการค้นหาเว็บไซต์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบ ประสิทธิภาพว่าควรลงทุนในครั้งต่อไปหรือไม่

  • UTM_content

UTM_content

สิ่งที่นอกเหนือจากการทำโฆษณา คือเนื้อหาที่สร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดความสนใจและนำลิงก์วางเพื่อเป็นช่องทางให้แก่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อติดตามรับชม เนื้อหาของธุรกิจในครั้งถัดไป

 

ขั้นตอนการทำ UTM

ขั้นตอนการสร้าง UTM นั้นไม่ยากเกินความสามารถอย่างแน่นอน ยิ่งหากรู้จักกับตัวแปรแต่ละตัวของ UTM แล้วนั้น เพียงแค่นำหัวข้อที่ต้องการจะรวบรวมข้อมูล ใส่ตามตัวแปรที่เป็นหัวข้อเดียวกัน การสร้าง UTM จะสมบูรณ์ได้เพียงไม่กี่นาที

  • เตรียม URL ที่ต้องการติด UTM

ส่วนแรกจะเป็นชื่อ URL ของเว็บไซต์ธุรกิจ เช่น http://www.cotactic.com แล้วตามด้วยเครื่องหมาย (?) โดยข้อมูลที่อยู่หลังจากเครื่องหมาย (?) จะเป็นข้อมูลในส่วนของ UTM parameter หน้าตาจะเป็นลักษณะนี้  http://www.cotactic.com?utm

  • ระบุ utm_source

ระบุรายละเอียดของ Website Traffic ได้แก่ utm_source

http://www.cotactic.com?utm_source=google

  • ระบุ utm_medium

http://www.cotactic.com?utm_source=google&utm_medium=organic จะสังเกตได้ว่า utm_medium จะต่อท้าย utm_soure 

  • ระบุ utm_campaign

http://www.cotactic.com?utm_source=google&utm_medium=organi&utm_campaign=blog 

  • ระบุ utm_term

http://www.cotactic.com?utm_source=google&utm_medium=organi&utm_campaign=blog&utm_term=marketing

  • ระบุ utm_content 

http://www.cotactic.com?utm_source=google&utm_medium=organi&utm_campaign=blog&utm_term=marketing&utm_content=what_is_utm

หน้าตาของ UTM parameter เมื่อรวมกันทั้งหมดจะมีลักษณะตามนี้และสามารถนำไปใช้งานตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ต้องการ

จะสังเกตได้ว่า UTM แต่ละค่าจะเชื่อมกันด้วยเครื่องหมาย (&) เมื่อกำหนดแต่ละค่าของ UTM ได้แล้วสามารถนำลิงก์ที่ได้ไปแปะไว้ที่ต้นทางตามที่ต้องการ และรอให้ผู้ใช้งานกดเข้ามาจาก URL นั้น ๆ เป็นอันเสร็จสิ้นหลังจากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ UTM ไปแล้ว จะรู้ได้เลยว่าการสร้างโค้ดนั้นไม่ยากเลย หากเข้าใจความหมายของตัวแปรและใส่หัวข้อของแต่ละตัวได้ถูกต้อง 

 

ขอบคุณสำหรับแหล่งอ้างอิงข้อมูล

https://predictive.co.th 

https://contentshifu.com/blog

https://www.makewebeasy.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

Personal Branding

Personal Branding คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับธุรกิจ

ทำไม Evergreen Content ถึงดีต่อเว็บไซต์

ทำไม Evergreen Content ถึงดีต่อเว็บไซต์

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้