Search Engine Marketing คืออะไร
SEM หรือ Search Engine Marketing คือ การทำการตลาดด้วยเครื่องมือค้นหาบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ตัวเว็บไซต์ของตัวธุรกิจไปปรากฏอยู่บนหน้าแรกของหน้าค้นหา ผ่านการใช้งาน Keyword ที่ผู้บริโภคนำมาสืบค้นข้อมูลหรือค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ ซึ่ง Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Google แพลตฟอร์มค้นหาออนไลน์ที่หลายธุรกิจทั่วโลกต่างเลือกใช้
ซึ่งวิธีการทำ SEM หรือ Search Engine Marketing ในปัจจุบันนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกันคือ
- การจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณาบน Search Engine ที่เรียกว่า Paid Search หรือ Search Advertising ที่มีรูปแบบการคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายคลิก “Pay Per Click”
- การปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้ตรงตามหลักเกณฑ์ที่ Searh Engine หรือ Google ได้กำหนดไว้ เพื่อให้ตัวเว็บถูกเลือกไปแสดงบนหน้าค้นหาเป็นอันดับต้น ๆ หรือที่เรียกว่า “SEO”
โดยทั้งสองวิธีต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันครับ
ประเภทของ Search Engine Marketing
1.PPC หรือ Pay Per Click
PPC หรือ Pay Per Click คือ การใช้เงินเพื่อซื้อโฆษณากับทาง Search Engine เพื่อทำให้เว็บไซต์ของเราไปปรากฏอยู่บน Search Result Page หรือหน้าค้นหาเป็นอันดับต้น ๆ ถือเป็นรูปแบบการทำ SEM ที่ทำได้ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก สามารถวัดผลและสร้างผลลัพธ์ได้ในทันทีที่ใช้งาน แต่วิธีนี้ก็แลกมาด้วยการมีค่าใช้จ่ายตามจำนวนคลิกที่มีคนกดเข้าเว็บไซต์ และต้องทำการประมูล Keyword สู้กับธุรกิจอื่น ซึ่งราคาจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความนิยมของตัว Keyword และคะแนนของเว็บไซต์ว่าอยู่เกณฑ์ไหน
ข้อดีของ PPC หรือ Pay Per Click
- สามารถแสดงโฆษณาหรือโปรโมทแคมเปญได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง
- เหมาะกับการทำแคมเปญระยะสั้นหรือในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง
- บริหารจัดการตัวโฆษณาได้ง่าย สามารถปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพได้ตลอดเวลา
- มีระบบจัดการโฆษณาที่ใช้งานง่ายและมาจากตัว Search Engine (Google) โดยตรง
- สามารถกำหนดวันเวลาของการแสดงผลได้ ว่าจะให้โฆษณาแสดงตลอดเวลาหรือในช่วงเวลาที่เรากำหนด
ข้อเสียของ PPC หรือ Pay Per Click
- มีค่าใช้จ่าย ตัวธุรกิจจะเสียเงินทุกครั้งเวลามีคนคลิกเข้าเว็บไซต์
- ต้องมีประสบการณ์ในการใช้งาน ของ Google Ads คือ ต้องฝึกฝนและเข้าใจการทำงาน ถึงจะสร้างแคมเปญที่มีคุณภาพได้ เพราะฉะนั้นการจ้างผู้เชี่ยวชาญรับทำ Google Ads นั้นจะดีกว่าเพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์แต่ก็สามารถสร้างแคมเปญที่มีคุณภาพได้
- ราคาของ Keyword ไม่คงที่ ผันผวนไปตามช่วงเวลา ต้องคอยติดตามและอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
2.SEO หรือ Search Engine Optimization
การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization คือ การปรับแต่งโครงสร้างภายในและเนื้อหาของตัวเว็บไซต์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ทาง Google ได้กำหนดไว้ เช่น ปรับแต่งโครงสร้างของตัวเว็บให้เป็นมิตรกับผู้ใช้, ใส่ Keyword สำคัญหรือคำที่เกี่ยวข้องลงไปในเนื้อหา, จัดเรียงหัวข้อและคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ เป็นต้น ซึ่งการปรับแต่งเหล่านี้จะทำให้ Google มองเว็บไซต์ของเราว่ามีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และจะแสดงเว็บไซต์ของเราเป็นอันดับต้น ๆ บนหน้าค้นหา โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณา Google Ads ให้สิ้นเปลือง
ข้อดีของการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization
- มีค่าใช้จ่ายน้อยหรือแทบไม่ต้องเสียเลย เพราะเป็นการปรับแต่งให้เว็บไซต์ติดอันดับเองตามธรรมชาติ ไม่ใช่การซื้อโฆษณากับทาง Google
- มีความน่าเชื่อถือ ผู้บริโภคจะให้ความสนใจและเลือกคลิกเข้าเว็บไซต์มากกว่า Ads ที่ทาง Google แสดงควบคู่
- ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าบริการในเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เพราะพวกเขาจะมองว่าธุรกิจที่อยู่ในอันดับต้น ๆ คือธุรกิจที่น่าเชื่อถือ
- แสดงผลตลอดเวลาจนกว่าจะตกอันดับเอง ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว
ข้อเสียของการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization
- ใช้เวลานานกว่าจะติดอันดับ ต้องปรับปรุงเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอและทำเป็นประจำ
- แม้จะแสดงผลได้ตลอดเวลา แต่ก็สามารถตกอันดับได้ในชั่วข้ามคืน
- มีคู่แข่งเยอะ เพราะทำได้ง่าย ทำได้ฟรี ธุรกิจไหนก็อยากทำ
- ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน ต้องมีความเข้าใจใน SEO ในระดับหนึ่งถึงจะสามารถทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้
คำแนะนำ การทำ SEM ให้มีประสิทธิภาพนั้น ควรเลือกทำทั้งสองแบบพร้อมกัน เพราะการทำ SEO จะช่วยทำให้ตัวเว็บไซต์มีคะแนนที่มากขึ้น ทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเราเป็นเว็บที่มีคุณภาพพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ในขณะเดียวกันถ้าเราซื้อโฆษณาผ่าน Google Ads ไปด้วย มันก็จะทำให้ราคาในการประมูล Keyword ถูกลงกว่าปกติ และตัว Google ก็มีโอกาสสูงที่จะแสดงเว็บไซต์เราขึ้นเป็นอันดับแรกเหนือเว็บไซต์ที่ไม่ได้ทำ SEO อีกด้วย
Search Engine Marketing สำคัญอย่างไรกับการทำธุรกิจ
1.ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค
ในยุคปัจจุบันเมื่อผู้บริโภคต้องการสืบค้นข้อมูลหรือค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ พวกเขาก็มักจะใช้ Google เป็นเครื่องมือในการค้นหาเสมอ หากธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์โฮมเป็นของตัวเอง การทำ SEM จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงธุรกิจของคุณได้มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าบริการได้มากกว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2.เป็นช่องทางสำคัญไม่แพ้ Social Media
Search Engine ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากไม่แพ้ Social Media เพราะแม้ว่าธุรกิจของคุณจะมีเพจ Facebook, Instagram, Twitter หรือ Youtube อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน การทำ SEM จะช่วยให้แผนการตลาดในโลกออนไลน์ของคุณแข็งแกร่งและมั่นคงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถต่อยอดกลยุทธ์ได้อย่างหลากหลายมากมายในอนาคต
3.เป็นเรื่องพื้นฐานที่ธุรกิจไหน ๆ ก็ทำกัน
การทำ SEM ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่หลายธุรกิจนั้นเลือกใช้ ดังนั้นหากคู่แข่งของคุณเลือกที่จะทำ SEM กันเป็นส่วนใหญ่ ธุรกิจคุณก็ควรทำเช่นเดียวกันครับถ้าไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะถ้าหากคุณไม่ทำ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้บริโภคจะพบเจอหรือรู้จักธุรกิจของคู่แข่งมากกว่าธุรกิจคุณ ซึ่งนั่นอาจทำให้ธุรกิจคุณสูญเสียโอกาสดี ๆ ที่ควรจะได้รับไปอย่างน่าเสียดาย
4.เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
การทำ SEM บนเว็บไซต์ Google ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่มีความยืดหยุ่นและเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แค่มีเว็บไซต์โฮมเพจก็สามารถเริ่มต้นทำงานได้ในทันที อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและวัดผลการทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางคุณภาพที่หลายธุรกิจเลือกใช้เป็นอันดับต้น ๆ
5.เข้ากันได้กับทุกธุรกิจ
ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเกี่ยวข้องกับอะไร ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ พึ่งเริ่มต้นหรือทำมานานแล้ว ก็มั่นใจได้เลยว่าสามารถทำ SEM ได้อย่างแน่นอน เพราะมันถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ทุกประเภท พร้อมเริ่มต้นทำงานได้ในทันที แม้จะมีงบประมาณที่ไม่เยอะก็ตาม
หากคุณต้องการที่ปรึกษาการรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก