click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

“คริปโตเคอร์เรนซี่” คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ค่อนข้างจะมาแรงแซงทางโค้งมากที่สุดในตอนนี้ นักลงทุนหลายรายหากเผชิญกับความเสี่ยงสูงได้ต่างก็หยอดเม็ดเงินของตัวเองมาลงทุนด้านนี้ ปั้นกำไรกลับไปได้เป็นกอบเป็นกำ อาทิ Elon Musk เป็นต้น ด้วยคุณสมบัติที่พิเศษของคริปโตฯ ที่ทำให้ใคร ๆ ต่างรู้สึกมั่นใจกับการเทรดรูปแบบนี้มาก ถึงขั้นที่ว่าคริปโตฯ สามารถนำมาใช้จ่ายซื้อของได้ในชีวิตจริงกันเลยทีเดียว

ด้วยความสามารถในการนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้นี่แหละ ที่นักธุรกิจหรือบริษัทต่าง ๆ อาจต้องหันมาจับกระแสนี้กันมากขึ้น อีกทั้งหากเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินแบบใหม่ไปด้วยแล้วล่ะก็ จะสามารถหาลูกค้าใหม่ที่เป็นสายเทรดมากขึ้น น่าสนใจใช่ไหมครับ? งั้นเราลองทำความเข้าใจคริปโตฯ กันคร่าว ๆ ก่อน


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


 

คริปโตเคอร์เรนซี่ (Cryptocurrency) คืออะไร?

ในเนื้อหาต่อไปนี้ผมจะไม่เจาะลึกถึงประวัติที่มามากนัก แต่จะบอกเล่าโดยสังเขปให้เข้าใจง่ายขึ้น คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกเข้ารหัสไว้ด้วยระบบ “Blockchain” ภายใต้ ระบบการกระจายศูนย์ (Decentralization)

นี่เป็นการอธิบายความหมายของคริปโตแบบสั้น ๆ และจะเห็นได้ว่าเพียงแค่ 3 บรรทัดก็มีคำศัพท์น่าสนใจโผล่มาถึง 3 คำ ดังนั้นผมจะอธิบายคำศัพท์เหล่านี้เอาไว้ตรงนี้ครับ

 

1. สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset)

คือสินทรัพย์ที่ไม่สามารถจับต้องได้ อยู่ในรูปแบบโค้ดคอมพิวเตอร์ มีคุณค่าในตัวเองเทียบเท่าเงินจริง ซึ่งประเทศไทยก็ได้นิยามสินทรัพย์ที่ไม่มีจริงแต่มีคุณค่านี้ว่า “สินทรัพย์ดิจิทัล” ตาม พ.ร.ก. และกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. เพราะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนชนิดหนึ่ง ที่มีตลาดทุนเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งผู้ประกอบสินทรัพย์ดิจิทัลก็จะแยกย่อยได้อีก 2 แบบ คือ

1.1 Exchange คือศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ Bitkub, Binance เป็นต้น

1.2 Digital Asset Broker นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

 

2. Decentralization

คำนี้มาจากคอนเซปต์ในปัจจุบันที่ไม่ว่าจะทำธุรกรรมอะไร “ธนาคาร” มักเป็นตัวกลางด่านหน้าอยู่เสมอ ทั้งเปิดบัญชีรับเงินเดือน ซื้อสลากออมทรัพย์ ซื้อ-ขายกองทุนก็จะมีธนาคารเข้ามาเป็นตัวกลาง ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่แฝงมากับรายจ่ายจำนวนมากมาย อีกทั้งธนาคารจัดอยู่ในประเภทบริษัท ซึ่งหมายความว่ามีสิทธิ์ที่จะ “ล้มละลาย” ได้ ดังนั้นระบบการกระจายศูนย์จึงเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ คือไม่ต้องมีตัวกลางตั้งแต่ต้น ทั้งต้นน้ำ ปลายน้ำสามารถคุยกันได้แบบตัวต่อตัว การธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง และค่าธรรมเนียมหรือค่า Gas Fee ยังต่ำมากอีกด้วย

 

3. Blockchain

หลักการทำงานและความสามารถของระบบนี้จะล้อไปกับคำว่า Decentralization เกิดจากคำศัพท์ 2 คำ คือ Block ที่อธิบายว่าแต่ละหน่วยมีความเป็นศูนย์กลางในตัวเอง และเชื่อมต่อเข้าหากันเหมือน Chain (โซ่) หมายความว่าแทนที่จะมีตัวกลางมาควบคุมและรับรองการทำธุรกรรม ผู้ใช้งานในแต่ละ Block จะกลายเป็นผู้ตรวจสอบ ควบคุม และรับรองการโอน / เทรด ที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ 3 อย่าง

3.1 ตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นย้อนหลังได้ เพราะไม่สามารถลบ หรือคัดลอกธุรกรรมที่เกิดขึ้นไปแล้วได้

3.2 ความโปร่งใสสูง เนื่องจากไม่มีตัวกลางแล้ว ทุกคนคือหน่วยที่มีสิทธิเท่ากัน สามารถตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

3.3 ทำธุรกรรมได้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ ไม่มีตัวกลางควบคุม จึงถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิม

 

หากผู้ประกอบการรายใดรู้สึกลังเลอยู่ไม่แน่ใจว่าการเปิดให้ใช้เงินคริปโตฯ เป็นสื่อกลางการซื้อ-ขาย และจะสามารถหาลูกค้าใหม่เพิ่มได้อย่างไร ลองมาดู Case Study ที่เคยมีแบรนด์เริ่มทำไว้แล้วกันครับ

เมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา แสนสิริ เริ่มเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล อนุญาตให้ใช้คริปโตซื้อบ้าน ผ่อนคอนโด จ่ายค่าส่วนกลางได้ทุกโครงการ โดยใช้ 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin, ETH, USDC และ USDT ผ่านทาง Bitazza ซึ่งทางแสนสิริก็นับว่าเป็นอีกก้าวของการเติบโตในการสร้างรายได้ให้เข้ากับยุคดิจิทัล ผ่านการซื้ออสังหาฯ ผ่านการใช้คริปโตฯ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจกับคริปโตฯ มากเป็นพิเศษ เพราะมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดด ทุกคนเข้าถึงได้ และบัญชีซื้อ-ขายคริปโตฯ ในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 1.16 ล้านบัญชีภายในวันที่ 31 พ.ค.

ซึ่งการใช้จ่ายผ่านคริปโตฯ ที่แสนสิรินำมาจัดทำเป็นโปรเจกต์ใหม่นี้จะเปิดรับทุก Wallet ยืนยันเรตคำสั่งได้ภายใน 5 นาที นับเป็นหนึ่งในเครืออสังหาฯ รายแรก ๆ ในประเทศไทยที่เปิดรับให้ชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย

crypto payment

ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/market/2123602

เท่านี้ยังไม่พอ เพราะล่าสุดบัตรเครดิต Mastercard จับมือกับ Bitkub, Amber Group และ CoinJar ออสเตรเลียเตรียมออกบัตรชำระเงินผ่านคริปโตฯ ให้ใช้งานได้จริงเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ผู้ใช้งานบัตรเครดิต เดบิต หรือพรีเพดของ Mastercard สามารถแปลงสกุลเงินคริปโตให้เป็นสกุลเงิน Fiat ได้แล้ว สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ Mastercard

crypto mastercard

พอเข้าใจหรือยังครับ ตอนนี้เทรนด์โลกกำลังเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ผู้ประกอบการที่มีความต้องการหาลูกค้าใหม่ ๆ อาจลองใช้การชำระเงินผ่านคริปโตเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความสะดวกสบายของผู้ขายให้มากขึ้นก็ได้ครับ


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


ข้อดีของคริปโตเคอร์เรนซี่

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าคริปโตฯ จะรันอยู่บนระบบ Blockchain นั่นหมายความว่า

1. มีความปลอดภัยสูง

เพราะการจะโอนหากันแต่ละครั้งต้องใช้ 2FA Authenticator เพื่อยืนยันความตัวตนของคุณอีกทีหนึ่งก่อนโอน

2. ค่าธรรมเนียมต่ำมาก

เมื่อเทียบกับเงินจริง (เงิน Fiat) ที่มีค่าธรรมเนียมการโอนสูงมากเพราะต้องทำผ่านธนาคารในทุก ๆ ครั้ง ซึ่งคริปโตฯ ไม่ต้องเสียเงินส่วนนี้ให้ตัวกลาง แต่จะเสียแค่ค่าธรรมเนียมเครือข่าย Blockchain เท่านั้น

3. ทำธุรกรรมได้เร็วกว่า ง่ายกว่า

เนื่องจากตอนนี้บิตคอยน์ได้มีการสร้างเหรียญทางเลือก (Altcoin) ที่แยกตัวออกมาจากเหรียญ Bitcoin ออกมาอีกทีหนึ่ง นั่นก็คือ Litecoin, Bitcoin Cash และ Bitcoin SV ที่มีคุณสมบัติทำงานได้เร็วกว่า ค่าธรรมเนียมถูกกว่า และเบากว่า ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ Altcoin ใช้งานได้ง่ายกว่าเหมาะสำหรับใช้จ่ายแทนเงิน Fiat หรือ Bitcoin ได้

 

Cryptocurrency Payment Gateway คืออะไร?

ตอนนี้เราหันหัวเรือกลับเข้าสู่พระเอกของเรื่องกันบ้าง เรารู้คอนเซปต์พอสังเขปของคริปโตฯ ไปบ้างแล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะทำความเข้าใจระบบนี้กัน

กล่าวง่าย ๆ เลยคือการอนุญาตให้ภาคธุรกิจยอมรับการชำระเงินจากลูกค้าผ่านเหรียญคริปโตฯ ในรูปแบบ Peer-to-Peer ซึ่งหากผู้ค้าขายสินค้า / บริการที่หน้าร้าน ลูกค้าสามารถสแกน QR Code จ่ายเป็นเหรียญคริปโตฯ เข้า Wallet คุณได้โดยตรงเลย เหมือนกับการใช้จ่ายผ่าน PromptPay หรือคนละครึ่ง เพียงแต่ทั้งลูกค้าและผู้ค้าต้องถือเหรียญเดียวกันกับที่จะนำมาชำระ อย่างเช่นหากทั้งสองถือเหรียญ Bitcoin ทั้งคู่ก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มีก็โอนหากันไม่ได้ เพราะ Blockchain ของแต่ละเหรียญทำงานกันคนละระบบกัน

 

ตัวอย่างการใช้ Cryptocurrency Payment Gateway

หากคุณและลูกค้าใช้ Exchange ตัวเดียวกันแล้ว ก็สามารถเปิด Wallet Address ของกระเป๋าเงินสำหรับชำระได้เลย ในกรณีนี้ผมขอยกตัวอย่างเป็นการใช้แอป Bitkub ในการจ่ายสินค้าด้วยคริปโตฯ ซึ่งตัวระบบทางฝั่งผู้รับเหรียญจะขึ้นเป็นโค้ดรหัสของ Wallet มาให้หรือให้เลือกชำระผ่านการสแกน QR Code ได้ ส่วนผู้โอนจะต้องทำการยืนยัน 2FA Authenticator ก่อนจึงจะเข้าไปสแกนหรือวางโค้ดทางฝั่งของผู้รับ กำหนดจำนวนเหรียญที่ต้องการจะจ่าย กรอกรหัส Authentication อีกครั้งนึงแล้วดำเนินการถอนได้เลย ทีนี้เหรียญก็จะไปขึ้นอยู่บน Wallet ของผู้รับในเวลาไม่กี่นาที 

Bitkub crypto payment

ทั้งนี้ค่า Gas Fee ในการเทรดจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเหรียญที่ใช้ ยกตัวอย่าง Bitcoin ค่า Gas จะอยู่ที่ 0.0005 BTC และ Litecoin ค่า Gas จะอยู่ที่ 0.001 LTH เป็นต้น

อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์ Bitkub แนะนำว่าเหรียญที่ควรใช้ในการเทรดควรเป็นเหรียญประเภท Stable Coin หรือเป็นเหรียญที่คนรู้จักเป็นวงกว้างและนิยมเทรดมากที่สุดจะปลอดภัยกว่า อาทิ BTC, ETH, XRP, BNB เป็นต้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนสูงมาก เพราะไม่มีใครมาควบคุม ฉะนั้นจึงต้องมีการเทียบจำนวนเหรียญที่ต้องจ่ายโดยเทียบกับมูลค่าสินค้า / บริการในชีวิตจริงเสียก่อน ตัวอย่างเช่น

ลูกชิ้นไม้ละ 10 บาท ซื้อ 100 ไม้

เหรียญที่จะจ่าย (X) มีมูลค่า 100 บาท

เท่ากับลูกค้าต้องจ่ายด้วยเหรียญ X 1 เหรียญเข้า Wallet ผู้ขาย บวกค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ส่วนผู้ขายก็นำไปแปลงเป็นเงินบาทผ่านการเทรดตามหน้ากระดานเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

หากนักธุรกิจรายใดต้องการเปรียบเทียบพร้อมกับแปลงค่าเงินไปพร้อม ๆ กัน ทาง Cotactic เอเจนซี่รับทำเว็บไซต์ WordPress และทำการตลาดออนไลน์ ขอแนะนำเว็บไซต์ที่จะช่วยเป็นตัวกลาง Crypto Payment Gateway ที่มีบริการคำนวณเงินบาทไว้ให้ดังนี้


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


 

Binance

Bitcoin

Omise

Bitpay

เพียงเท่านี้ก็พอเข้าใจแล้วล่ะครับว่าการชำระเงินผ่านคริปโตฯ เป็นอะไรที่ทำได้ง่าย สะดวกสบาย และอาจมีข้อดีตรงที่สามารถดึงดูดและค้นหาลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มาใหม่และหลาย ๆ ภาคส่วนต่างให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีชนิดนี้ คริปโตฯ ก็ยังคงเป็นผลผลิตจากผลิตภัณฑ์การลงทุนอยู่ดี ย่อมมีความเสี่ยงสูง ค่าเงินผันผวนได้ตลอดเวลา เพราะไม่มีตัวกลาง ฉะนั้นแล้วผมอยากกล่าวเหมือนที่โฆษณาการลงทุนชอบกล่าวไว้เสมอ ๆ ว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน” 

 

——————————————————————–

 

ร่วมงานกับทีม Cotactic Digital Marketing Agency หนึ่งใน บริษัทโฆษณาออนไลน์ ชั้นนำของเมืองไทย ที่จะช่วยให้คุณตอบโจทย์การ หาลูกค้าใหม่ ให้คุณได้ตามเป้าหมายแบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness หรือ Lead Generation ก็ทำได้หมด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญกับทีม Cotactic เพื่อให้เราเป็น Collaborative Marketing Partner ทำงานเป็นทีมร่วมกันกับคุณ

 

——————————————————————–

 

ติดต่อ

โทร.065-095-9544

Inbox: https://m.me/cotactic

Line@: https://line.me/R/ti/p/@cotactic

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล

https://www.influencive.com/what-is-a-crypto-payment-gateway/ 

https://www.bitkub.com/blog/crypto-payment-for-merchants-b70e9666adf9 

https://web.facebook.com/NyhanAndTheGang/posts/1597803560598357 

https://www.thairath.co.th/business/market/2123602 

บทความที่เกี่ยวข้อง

RMF Model

RFM Model คืออะไร? ทำไมการแบ่งกลุ่มลูกค้าถึงสำคัญ

Personal Branding

Personal Branding คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับธุรกิจ

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้