Business to Consumer หรือธุรกิจประเภท B2C ในปัจจุบัน ต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภค และเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด บทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับธุรกิจ B2C กันมากขึ้น พร้อมทั้งแนะนำกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะกับธุรกิจนี้
B2C คืออะไร?
B2C หรือ Business to Consumer คือ ธุรกิจที่มีการขายสินค้าหรือบริการโดยเป็นการทำธุรกิจระหว่างธุรกิจไปหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งการทำธุรกิจในรูปแบบนี้จะเป็นธุรกิจที่ไม่มีการผ่านคนกลาง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็ว เหมาะกับการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าทั่วไปและมีความเฉพาะเจาะจงเปลี่ยนไปตามตลาดผู้บริโภค
ธุรกิจแบบ B2C จะมีการโฆษณาและโปรโมชั่นเป็นสิ่งดึงดูดในการตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการ ดังนั้้นธุรกิจแบบ B2C จึงเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอารมณ์ของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าหรือบริการเป็นหลัก
รูปแบบในการทำธุรกิจแบบ B2C
รูปแบบการทำธุรกิจแบบ B2C จะมีลักษณะที่มีการสร้างคอนเทนต์บนสื่อ Social Media ช่องทางต่าง ๆ เพื่อช่วยในเรื่องของการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มีการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ตัวอย่างรูปแบบธุรกิจแบบ B2C
- ธุรกิจบริการช่องทาง Online เช่น การฟังเพลงออนไลน์ การดูหนังออนไลน์ เป็นต้น
- ธุรกิจที่มีการขายสินค้าออนไลน์ โดยมีการจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรงผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น
- ร้านอาหารหรือร้านกาแฟ
- ร้านค้าสะดวกซื้อหรือร้านขายของชำ
- การให้บริการที่พักในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮสเทล เป็นต้น
กลยุทธ์การตลาด B2C ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์การตลาดที่จะช่วยให้ธุรกิจแบบ B2C ที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชัดเจนเรื่องราคา
ธุรกิจแบบ B2C ควรมีการกำหนดราคาของสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน ถือว่าเป็นสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจการซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้า เพราะลูกค้าจะตัดสินใจในระยะเวลาสั้นและซื้อสินค้าหรือบริการตามความต้องการเท่านั้น
Content ดีมีคุณภาพ
การสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับสิทธิพิเศษกว่าปกติ จะทำให้ลูกค้าอยากที่จะติดตามแบรนด์อยู่เป็นประจำและกลายมาเป็นลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์
ตัวอย่างไอเดียการทำคอนเทนต์ในธุรกิจแบบ B2C
- การเขียนบทความ อาจเป็นบทความแนวให้ความรู้เกี่ยวกับแบรนด์แก่ลูกค้าอยู่เป็นประจำ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการทำคอนเทนต์ เพราะจะทำให้ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และความไว้วางใจของลูกค้าที่มีให้กับแบรนด์
- การทำวิดีโอ มักจะอยู่ในรูปของการทำแคมเปญทางการตลาด ดังนั้นคอนเทนต์ในวิดีโอจึงต้องมีความน่าสนใจหรือดึงดูดลูกค้าหรือสามารถให้ลูกค้ามีส่วนร่วมที่ดีได้ในระยะเวลาสั้น
Promotion และ ส่วนลด
ธุรกิจแบบ B2C อาจมีการทำการตลาดด้วยการทำส่วนลดราคาสินค้าหรือบริการหรือการทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า กระตุ้นความสนใจ และตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการได้เร็วขึ้น
ทำ Ecommerce
ธุรกิจแบบ B2C เป็นธุรกิจที่เหมาะกับการทำ Ecommerce เพราะเป็นช่องทางการซื้อสินค้าหรือบริการ ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น ซึ่งวิธีการนี้ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้นและเพิ่มยอดขายทางธุรกิจ
Ecommerce มีประโยชน์อย่างไรต่อ B2C
ประโยชน์ของ Ecommerce ในการไปใช้ต่อยอดในธุรกิจแบบ B2C เพื่อโอกาสทางธุรกิจและการรับรู้แบรนด์ให้มีดียิ่งขึ้น มีดังนี้
สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
Ecommerce ช่วยให้ธุรกิจแบบ B2C เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นเพราะเป็นการซื้อขายสินค้าหรือบริการได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และถือว่าเป็นการค้าขายแบบไร้พรมแดนเพราะสามารถซื้อขายสินค้าหรือบริการได้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ช่วยลดต้นทุน
Ecommerce ช่วยให้ธุรกิจแบบ B2C ลดต้นทุนเพราะประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายหน้าร้านค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานขาย หรือประหยัดค่าเดินทาง
Customer Data
Ecommerce สามารถนำข้อมูลของลูกค้าหรือ Customer Data มาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดด้วยการสร้างคอนเทนต์ขายสินค้าหรือบริการ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้กับแบรนด์ นอกจากนี้ข้อมูลลูกค้าจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะสามารถนำข้อมูลของลูกค้ามาปรับแผนการตลาดหรือแผนธุรกิจเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าหรือเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้
ตัวอย่างประเภทของข้อมูลลูกค้า
- ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ Email address เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
- ข้อมูลของการมีส่วนร่วมของลูกค้า เช่น ความถี่ในการสั่งซื้อสินค้า การเข้าถึงของลูกค้า พฤติกรรมของลูกค้า เป็นต้น
- ข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น ความพึงพอใจของลูกค้า ความชอบของลูกค้าที่มีต่อสินค้า เป็นต้น
การบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้า
Ecommerce สามารถใช้การบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้าหรือ Customer Experience Management เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความรู้สึกที่ดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์
ตัวอย่างรูปแบบการบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้า
- การให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการตามที่ลูกค้าต้องการ
- บริการหลังการขายที่ดีและความเต็มใจในการช่วยเหลือของพนักงานที่มีต่อลูกค้า
- สินค้าหรือบริการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
ดังนั้นการบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้าจึงเน้นในเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึกของลูกค้าหรือความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ
โดยสรุปแล้ว B2C เป็นการทำธุรกิจที่มีการขายสินค้าหรือบริการของแบรนด์ไปหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งวิธีการทำธุรกิจในรูปแบบนี้จะใช้ระยะเวลาสั้นและรวดเร็ว ดังนั้นแบรนด์ควรใช้กลยุทธ์การตลาด เช่น การทำโปรโมชั่น การทำส่วนลดสินค้าหรือบริการเพื่อดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ เป็นต้น
หากคุณต้องการที่ปรึกษาการรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
My Cloud FULFILLMENT, tbs Marketing. thaiwinner, FORETODAY, A.R. Accounting Consultant, BIG DATA THAILAND, PACKHAI, GreedisGoods