หากพูดถึงการทำ Digital Marketing หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทุกคนต้องรู้จักเลยคือ การตลาดแบบ “Real Time Marketing” หรือการตลาดแบบ “โหนกระแส” เป็นการตลาดที่อาศัยกระแสสังคมในขณะนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยนำมาสร้างสรรค์ Content ให้เข้ากับแบรนด์ธุรกิจและนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Youtube
การทำ Real Time Marketing แตกต่างจากการทำ Digital Marketing แบบเดิม ๆ ซึ่งมีขั้นตอนและระยะเวลาที่มากกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการทำ Real Time Marketing จะมีขั้นตอนที่น้อยกว่า แต่ก็มีทริคหลายอย่างที่ควรรู้ เพื่อให้ Content ที่ออกสู่โลกออนไลน์มีความสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ผู้ติดตามเกิดความรู้สึกอยากแชร์ต่อและอยากมีส่วนร่วมกับธุรกิจของคุณ วันนี้ Cotactic บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress จึงมี 5 เทคนิคสำคัญในการทำ Real Time Marketing มาแชร์ให้เจ้าของธุรกิจได้นำไปปรับใช้กับการทำ Digital Marketing ในรูปแบบของตนเองกัน!
1.จะโหนกระแสต้อง อาศัยความ “ไว” เป็นหลัก
จุดเด่นของการทำ Digital Marketing แบบ Real Time คือต้องอาศัยความไวเป็นหลัก หากคุณอยากจะใช้กลยุทธ์นี้แล้วล่ะก็ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีไหวพริบ ตีความให้ถูกจุด และพาแบรนด์เข้าไปอยู่ในกระแสได้ไวกว่าธุรกิจอื่นโดยการคิด Content เจ๋ง ๆ ให้ได้เดี๋ยวนั้น เพราะ Real Time Marketing เป็นกระแสที่มาไวไปไวมาก มีอายุ Content สั้น หากคุณตามไม่ทันรถไฟขบวนดังกล่าว ก็อาจพลาดโอกาสที่จะทำให้แบรนด์ของคุณถูกแชร์ต่อไปให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มอื่น ๆ ได้มองเห็นในวงกว้าง นอกจากจะต้องใช้ความไวในการสร้าง Content แล้ว สิ่งที่นำเสนอออกไปจะต้องมีเนื้อหาที่กระชับ ย่อยง่าย เข้าใจได้ในทันทีที่เห็น ว่าแบรนด์กำลังสื่อถึงอะไร แล้วคอนเทนต์เหล่านั้นเกี่ยวข้องกับแบรนด์ยังไงอีกด้วย ยกตัวอย่างกระแสของ “ช้างทะลุบ้าน” ที่เจ้าของบ้านหลังหนึ่งโดนช้างป่าพังกำแพงบ้าน ทะลุหัวโผล่เข้ามาในห้องครัว เหตุเพราะช้างได้กลิ่นอาหาร และต้องการหาของกิน จนกลายเป็นข่าวดังในช่วงหนึ่ง ทำให้สารพัดแบรนด์อาหารแห่กันมาครีเอทคอนเทนต์ เกาะกระแสเพื่อโปรโมทแบรนด์ตัวเองกันรัว ๆ
2. เกาะกระแสได้ แต่ต้อง “สอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์”
การทำ Real Time Marketing อย่างสร้างสรรค์ไม่ได้หมายความว่า คุณจะสามารถไปเกาะกระแสทุกสังคมได้ โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์และจุดยืนของแบรนด์ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูดีอยู่แล้วดูแย่ลงได้ ยกตัวอย่างกรณีศึกษา จากการ Live พูดคุยกับผู้ติดตาม ของอดีตพระมหาไพรวัลย์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีคนเข้ามาชมมากถึง 2 แสนคน รวมไปถึงแบรนด์ธุรกิจชื่อดังหลายแบรนด์ที่หลั่งไหลเข้ามาคอมเมนต์ ฝากร้าน ฝากเพจ โดยไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ชาวโซเชียลกำลังรับชมแต่อย่างใด บางแบรนด์มีการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม และผิดกาลเทศะอีกด้วย ทำให้ชาวโซเชียลมีกระแสตีกลับว่าแบรนด์เหล่านั้นควรคิดให้รอบด้านมากขึ้น ก่อนจะทำการตลาดแบบโหนกระแส
3. ตามกระแสจาก “เทศกาล”
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าในทุกเทศกาลสำคัญ แบรนด์ต่าง ๆ มักมีแคมเปญมาให้ลูกค้ามีส่วนร่วมเสมอ ซึ่งการทำ Real Time Marketing ตามกระแสเทศกาลดูจะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย เพราะสามารถคิดแคมเปญไว้ได้ก่อนล่วงหน้า อีกทั้งยังช่วยลดความผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดกระแสตีกลับเชิงลบ ยกตัวอย่างแบรนด์ที่มักปล่อย Content รับกับกระแสเทศกาลอยู่เสมออย่าง Durex ที่ความ Creative ในเรื่องของการทำ Digital Marketing ขึ้นชื่อว่าไม่เป็นสองรองใคร ปล่อย Content ออกมาเมื่อไหร่เป็นต้องเรียกเสียงฮือฮาจากชาวโซเชียลเสมอ เพราะสามารถทำสื่อออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ และยังสอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์ อย่างภาพแรกคือการทำ Real Time Marketing โดยอิงจากกระแสเทศกาลลอยกระทง ส่วนภาพที่สองก็เป็น Content ที่ถูกปล่อยผ่านแฟนเพจ Durex ในวันเด็กที่ผ่านมา เห็นแล้วต้องขอชื่นชมเลยจริง ๆ ว่าคิดได้ยังไงกันเนี่ย!
อีกหนึ่งไอเดียที่สามารถสร้าง Real Time Marketing แบบโหนกระแสได้ดีไม่แพ้การตามกระแสจากเทศกาลเลยก็คือ การโหนกระแสจาก “หนัง หรือ ละคร” ที่กำลังมาแรงในช่วงเวลานั้น อย่าง Tops Thailand ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มีการทำคอนเทนต์ขายมะม่วงน้ำปลาหวานโดยอิงกระแสจากละครช่อง 3 เรื่อง บุพเพสันนิวาส ที่คนไทยเคยติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งทำให้ช่วงนั้นมะม่วงน้ำปลาหวานเนี่ยขายดีสุด ๆ
4. โหนกระแสให้ถูกบริบทสังคม
บริบทสสังคม (Social Context) เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงถึงสภาพแวดล้อม ศาสนา วัฒนธรรม หรือสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ สิ่งที่ไม่ผิดในสถานที่หนึ่ง อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในอีกสถานที่ ยกตัวอย่างการทำ Digital Marketing ในต่างประเทศ ที่แบรนด์ต่าง ๆ จะแข่งขันกันอย่างตรงไปตรงมาออกสื่อได้ อย่างคู่กรณีระหว่างโค้ก กับ แป๊ปซี่ ที่มักจะมีการทำหนังโฆษณาและสื่อ Digital Marketing ออกมาเสียดสีกันไปมาอยู่เสมอ หรือสงครามอาหาร Fast Food ระหว่าง Burger King กับ Mc ที่แข่งขันกันแบบ Real Time จากการนำสื่อโฆษณาของคู่แข่งมาต่อยอด จะเรียกว่าเป็นการตลาดแบบจิกกัดคู่แข่งก็ว่าได้ แต่นั่นถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆ สำหรับการทำ Marketing ในบ้านเขา เพราะกฎหมายของต่างประเทศไม่ได้ถือว่าเป็นความผิด และคนส่วนใหญ่ก็มองว่า เป็นสีสันในการแข่งขันทางธุรกิจที่สนุกสนานและเรียก Engagement จากชาวโซเชียลได้ดี
ถ้าเป็นในบ้านเรา การทำแบบนี้อาจเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก อาจโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือเกิดดราม่า หนัก ๆ ขึ้นมาก็ได้ ดังนั้นชาว Digital Marketing ควรศึกษาบริบทของสังคมให้ดี อย่ามองข้ามเลยเชียว
5. ระวังประเด็นละเอียดอ่อน
เพราะมนุษย์มีความแตกต่างและหลากหลาย การทำคอนเทนต์แบบ Real Time Marketing อาจทำให้เราไม่ทันได้คำนึงถึงประเด็นที่ละเอียดอ่อน อย่างเช่น เพศ, เชื้อชาติ, ศาสนา, ประเด็นทางการเมือง, ความเชื่อ การนำเสนอที่ใช้ความไวเป็นหลักนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะไปกระทบกับประเด็นละเอียดอ่อนต่าง ๆ ได้ อย่างประเด็นดราม่าร้อนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่แบรนด์ “Potato Corner” ทำ Content ออกมาในลักษณะที่ล้อเลียนประเด็นทางการเมืองในขณะที่ผู้คนกำลังเรียกร้องประชาธิปไตย ทำให้มีการติดแท็กเพื่อเลิกสนับสนุนแบรนด์ Potato Corner ซึ่งภายหลังทางแบรนด์ก็ได้ออกมาชี้แจงและขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยอดขายก็ลดลงไปมากอยู่ดีเพราะฐานลูกค้าเดิมเลิกสนับสนุน ฉะนั้นการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Real Time Marketing จึงต้องระวังเรื่องของผลกระทบให้ดี คล้ายกันกับการศึกษาเรื่องบริบทสังคม เพราะถึงแม้ผลลัพธ์ของมันจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแบรนด์โดยตรง แต่อย่าลืมว่าเรื่องบางเรื่องก็อาจไปกระทบกับความรู้สึกของคนที่เป็นผู้เสียหายได้
สรุป
ข้อดีของการทำการตลาดดิจิทัลในรูปแบบของ Real Time Marketing หรือการโหนกระแสนี้ จะทำให้เจ้าของธุรกิจดึงดูดกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ ๆ เข้ามาและจับจุดกลุ่มเป้าหมายได้ไวขึ้น ว่าแบรนด์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบใด กลุ่มคนช่วงอายุประมาณใดที่ให้ความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมใน Real Time Content ของคุณมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะส่งผลดี ต่อการวางกลยุทธ์และต่อยอด พัฒนาภาพลักษณ์ ให้กับแบรนด์ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในทุก ๆ กลยุทธ์ของการทำ Digital Marketing แน่นอนว่าอาจทำให้เกิดกระแสตีกลับได้ทั้งทางบวกและทางลบ สำคัญกว่าการทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็น Viral ก็คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลังให้ได้ เพราะแบรนด์ไม่ปัง ยังดีกว่าทำแบรนด์พังไม่เป็นท่าจากการใช้ Real Time Marketing แบบโหนกระแสแต่ไม่คิดหน้าคิดหลัง เจ้าของธุรกิจสามารถเรียนรู้ได้จากกรณีศึกษาของแบรนด์ต่าง ๆ ที่เคยเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ เพื่อนำบทเรียนเหล่านั้นมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ เพราะในฐานะที่เป็นคนในแวดวง Digital Marketing แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของการนำเสนอสื่อคือการมีความรับผิดชอบต่อสังคมนั่นเอง