เมื่อพูดถึง Metaverse สิ่งแรกที่คนส่วนมากมักจินตนาการขึ้นมาคือการเล่นเกม หรือการลงทุนของเหรียญ Cryptocurrency ในเกมโลกเสมือน อย่างบทความก่อน ๆ เราก็ได้แชร์ถึงการลงทุนใน Metaverse Coins ซึ่งกล่าวถึงการลงทุนในเกมเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้ว “เกม” เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Metaverse เท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดของจักรวาลโลกเสมือน เพราะแก่นที่แท้จริงของ Metaverse คือ การพยายามเคลื่อนย้ายทุกสิ่งจากโลกจริงเข้าไปอยู่ใน โลกเสมือนต่างหาก โดยองค์ประกอบของ Metaverse นั้นมีอยู่ 3 สิ่งหลัก ๆ ที่จะทำให้โลกในจินตนาการเกิดขึ้นได้จริง นั่นคือ VR (Virtual Reality), AR(Augmented Reality) และ Internet
ควรลงทุนกับอะไรใน Metaverse?
-
Metaverse กับ อุตสาหกรรมเทคโนโลยี
อย่างที่ทุกคนทราบว่า Metaverse เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อเชื่อมโลกที่มีรอยต่อเข้าหากันมากขึ้น นอกจากเทคโนโลยี Metaverse แล้ว มนุษย์เราก็เคยพัฒนาเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ ขึ้นมาแล้วมากมาย เช่น เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเมื่อปี 1950 อย่าง AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและแก้ปัญหาการทำงานที่ซ้ำซ้อนของมนุษย์ โดยปัจจุบัน AI มีระดับขั้นของความฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างดีเยี่ยม ดีกว่าระบบการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์เสียอีก ดังนั้นโลกที่ AI จะฉลาดกว่ามนุษย์จึงอาจขึ้นเร็วกว่าที่คิดหลังจากที่มี Metaverse เข้ามาเกี่ยวข้อง การลงทุนในด้านเทคโนโลยีของ Metaverse จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงนั่นเอง
-
Metaverse กับ อุตสาหกรรมสื่อ
ทุกวันนี้อุตสาหกรรมสื่อถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ขยับเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น หลายคนอาจรู้สึกว่าการจะเข้าถึงสื่อหรือศิลปินที่ชื่นชอบ สิ่งสำคัญคือการได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะโลกออนไลน์ไม่สามารถให้ความรู้สึกที่เหมือนจริงได้มากพอ ทั้งเสียง การสัมผัส และบรรยากาศ แต่เมื่อสถานการณ์ไม่เอื้อให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น อุตสาหกรรมสื่อและวงการบันเทิงทั้งหลายจึงต้องหันมาพึ่งพาเทคโนโลยี เพื่อให้อุตสาหกรรมสื่อยังดำเนินต่อไปได้ ซึ่งหลังจากมี Metaverse เข้ามาก็ดูเหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เคยเป็นอุปสรรคอาจไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ลองนึกภาพว่าในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การจัดอีเว้นท์ Fan Meeting, การจัดคอนเสิร์ตแบบ Metaverse กลายเป็นเรื่องที่ทำได้จริงขึ้นมา คุณจะสร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาลได้จากสิ่งเหล่านี้ เพราะศิลปินสามารถจัดคอนเสิร์ตแบบ Metaverse ได้พร้อมกันหลายประเทศทั่วโลก ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเดินทาง ภาษา การแย่งกันจับจองที่นั่ง เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตแบบ Metaverse จะไม่มีรอยต่อของอุปสรรคใด ๆ มาขั้นกลางเลยล่ะ
จะว่าไปเมื่อพูดถึงการจัดคอนเสิร์ตแบบ Metaverse ในปัจจุบันก็เริ่มมีอุตสาหกรรมสื่อที่กำลังปรับตัวให้เป็นไปในทิศทางดังกล่าวบ้างแล้ว อย่างเช่น บอยแบนด์เกาหลีวง BTS ที่มีการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงบน Minecraft ออกแบบโดย Noxcrew ซึ่งมีการสร้างคาแรกเตอร์ของแต่ละคนเป็นบล็อคเหลี่ยม ๆ โดยแฟนคลับสามารถเข้าชมคอนเสิร์ตในรูปแบบของ Minecraft ได้ผ่านช่องทาง Youtube นอกจากนั้นยังเคยมีการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบที่คล้ายกันมาแล้วใน Fortnite เช่นเดียวกับศิลปินระดับโลกอย่าง Marshmello และ Ariana Grande แม้จะยังไม่ได้รับประสบการณ์เทียบเท่าคอนเสิร์ตจริงที่สามารถสัมผัสได้ถึง รูป รส กลิ่น เสียง แต่การพัฒนาของเทคโนโลยี Metaverse ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ทุกสิ่งที่กล่าวมาเป็นไปได้ไม่ยากนัก
BTS จัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงบน Minecraft เป็นการปรับตัวของอุตสาหกรรมสื่อที่กำลังมุ่งสู่โลก Metaverse
สำหรับประเทศไทยเองก็มีธุรกิจในอุตสาหกรรมสื่อที่กำลังปรับตัวเข้าสู่โลก Metaverse ด้วยเช่นกัน อย่าง “Popcoin” สินทรัพย์ดิจิทัลจากบริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) หรือ RS ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมสื่อบันเทิง และ Digital Marketing โดย Popcoin คือเหรียญดิจิทัลน้องใหม่ ที่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการเข้าถึงคอนเทนต์และสื่อบันเทิงได้ โดยผู้บริโภคสามารถมีปฏิสัมพันธ์และมีประสบการณ์ร่วมกับคอนเทนต์ต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของการรับชม การเข้าร่วมกิจกรรม การซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ หรือเหล่า Content Creator ก็สามารถใช้ Popcoin เป็นเครื่องมือการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน เพราะเป็นเครื่องมือที่วัดผลได้ และเป็นช่องทางสำหรับการสร้างธุรกิจใหม่ ทั้งนี้ผู้บริหารมีแนวคิดสำหรับการตลาดในยุคปัจจุบันว่า “หากยังคิดแบบเดิม ทำธุรกิจแบบเดิม ธุรกิจจะอยู่ในภาวะที่ยากลำบากและเกิดอุปสรรคมากมาย หากไม่รู้จักปรับตัวและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจอาจไม่สามารถอยู่รอดในยุคปัจจุบัน ที่โลกอนาคตได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้ว”
“Popcoin” โทเคนดิจิทัลในสังกัด RS Group ที่มา: RSGROUPOFFICIAL
เว็บไซต์ https://www.popcoin.co
-
Metaverse กับ ธุรกรรมทางการเงิน
Metaverse กับการทำธุรกรรมทางการเงินกำลังเข้าใกล้กันมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้คนใช้เงินสดในการแลกเปลี่ยนสินค้าน้อยลง เรานิยมใช้การโอนเงินกันเสียเป็นส่วนใหญ่ และแทบไม่มีร้านค้าไหนอีกแล้วที่มีตัวเลือกในการชำระเงินให้ลูกค้าเพียงตัวเลือกเดียว นอกจากการลงทุนในหุ้น กองทุน หรือพันธบัตรรัฐบาล ก็เริ่มมีตัวเลือกการลงทุนในรูปแบบอื่นเข้ามามากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการลงทุนในโลกของ Metaverse
นักลงทุนหลายคนอาจเกิดข้อข้องใจมากมาย เพราะการลงทุนในรูปแบบใหม่นั้น ก็มีความเสี่ยงหลายปัจจัยไม่ต่างจากการลงทุนในรูปแบบเดิม ๆ แต่การทำธุรกรรมหรือการลงทุนแบบ Metaverse นั้นมีข้อดีอย่างหนึ่งคือ ทุกการเคลื่อนไหวของเราจะสามารถตรวจสอบได้ และข้อมูลการลงทุนจะไม่สูญหายไปไหน สมมุติว่าคุณได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยการซื้อที่ดินจำนวนมากในเกม คิดเป็นมูลค่าหลายล้านบาท แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ผู้สร้างเกมนั้นก็ยกเลิกการทำธุรกิจไปดื้อ ๆ นั่นหมายความว่าคุณจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์หรือไม่? คำตอบคือ คุณไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน เพราะในโลกของ NFT และ Blockchain สิ่งที่เราเป็นเจ้าของจะคงอยู่ตลอดไป คุณสามารถโยกสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด ย้ายไปอยู่ในเกมใหม่ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากโลก Metaverse อาศัยอยู่บน Blockchain เดียวกัน
ความคุ้มค่าของการลงทุนใน Metaverse
หากเทคโนโลยีของ Metaverse ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และทุกสิ่งในโลกของจินตนาการสามารถเกิดขึ้นได้จริง เมื่อโลกถูกเชื่อมเข้าหากันเพื่อให้รอยต่อของอุปสรรคลดน้อยลง คุณจะประหยัดทั้งทรัพยากรและเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ ไปได้มากเลยทีเดียว หากมีวิสัยทัศน์ในการลงทุนที่กว้างและมองเห็นภาพในระยะยาวแล้ว การเลือกลงทุนใน Metaverse บอกเลยว่ามีแต่คุ้มกับคุ้ม