Keyword คือ คำ วลี หรือรูปประโยคที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตใช้ค้นหาอะไรบางอย่างบน Search Engine เช่น รองเท้ากีฬา, รองเท้ากีฬาราคาถูก, ที่พักเกาะช้าง, ที่พักติดทะเล, โน๊ตบุ๊คมือสอง หรือจองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น Keyword จึงเป็นเหมือนกลุ่มคำที่ผู้บริโภคใช้งานเพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่ถ้าหากมองในมุมของผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจแล้ว Keyword เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ไว้เชื่อมโยงผู้บริโภคให้เข้ามายังเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page ของตัวธุรกิจ มันจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะส่งผลโดยตรงต่อการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์นั่นเอง
โดยเฉพาะการทำโฆษณา Google Ads (ไม่ว่าจะเป็น Google Search หรือ Google Display Network) ที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องคัดเลือก Keyword ให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อทำให้เว็บไซต์หรือโฆษณาของคุณไปปรากฏกับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ตัว Ads ถูกคลิกมากยิ่งขึ้นแล้ว มันยังเป็นการช่วยคัดกรองคนที่จะเข้ามายังเว็บไซต์ ให้มีแต่คนที่สนใจแบรนด์ สินค้า หรือบริการของเราจริง ๆ อีกด้วย โดยจะมีขั้นตอนและวิธีการคัดเลือก Keyword Google Ads อะไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยครับ
1.เลือกใช้ Keyword ที่เจาะจงถึงตัวสินค้าหรือบริการ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือก Keyword ที่ง่ายที่สุดนั้น ก็คือการใช้คำที่เจาะจงถึงตัวสินค้าและบริการไปเลย เพราะในธุรกิจบางประเภท ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก็มักเลือกใช้ชื่อของสินค้าหรือชื่อรุ่นในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการไปตรง ๆ เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ Fb รุ่น S650, รองเท้า Nike ACG Air Deschutz, น็อตสแตนเลสหัวเหลี่ยมเกลียวเบอร์ 10 หรือ รถเช่าพัทยา เป็นต้น
วิธีนี้เป็นวิธีที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน แต่ก็ใช่ว่าจะใช้งานได้กับธุรกิจทุกประเภท คุณจำเป็นต้องทำการศึกษาและทำความเข้าใจในตัวสินค้าบริการของคุณเสียก่อน ว่ามันมีกลไกการค้นหาบน Search Engine อย่างไร หากวางกลยุทธ์ได้ไม่ดี เลือกใช้งาน Keyword ผิด มันก็อาจสร้างผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกับความต้องการของตัวธุรกิจคุณก็เป็นได้
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ควรเลือกใช้ชื่อรุ่นหรือคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของตัวธุรกิจจริง ๆ
- พยายามหลีกเลี่ยง Keyword ที่กว้างจนเกินไป
- สามารถเพิ่มชื่อสถานที่เข้าไปใน Keyword ได้ในธุรกิจบางประเภท เช่น เช่ารถพัทยา, ร้านขายแบตเตอรี่รามคำแหง หรือ ร้านปิ้งย่างเกาหลีบางนา เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่สนใจให้เข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการกันมากขึ้น
2.เลือกใช้ Keyword ตามหมวดหมู่หรือประเภทของตัวสินค้าบริการ
วิธีนี้จะเป็นการเลือกใช้งาน Keyword ตามหมวดหมู่หรือตามประเภทของตัวสินค้าบริการ มีหลักการทำงานง่าย ๆ คือการใช้คำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์เราให้มากที่สุด เช่น กระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าเดินป่า ,รองเท้าวิ่ง, รองเท้าแตะ, เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ หรือรถมือสอง เป็นต้น
โดยวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากจากหลากหลายธุรกิจ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะใช้ Keyword ประเภทนี้ค้นหาสิ่งที่ต้องการเสมอ และมันยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะพาเว็บไซต์ของตัวธุรกิจไปแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นได้อย่างเหมาะสม แต่ในขณะเดียวกันราคาในการประมูล Keyword ประเภทนี้ก็อาจจะค่อนข้างแพง เนื่องจากมีคู่แข่งเยอะ มีการแข่งขันสูง จนอาจต้องพึ่งพากลยุทธ์อื่น ๆ เข้ามาช่วย
คำแนะนำเพิ่มเติม
- สามารถเพิ่มคำที่เฉพาะเจาะจงลงไป เพื่อให้ตัว Keyword ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการมากขึ้น เช่น กระเป๋าเดินทางราคาถูก, รองเท้าวิ่งผู้ชาย หรือ รถกระบะมือสอง เป็นต้น
- พยายามใช้คำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการที่อยู่ในเว็บไซต์จริง ๆ หากผู้บริโภคที่คลิกเข้ามาพบว่าในเว็บไซต์ไม่มีสิ่งที่พวกเขาต้องการ ผู้บริโภคก็จะกดปิดและออกจากเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณไม่มีคุณภาพก็เป็นได้
3.เลือกใช้ Keyword ที่เป็นชื่อของแบรนด์โดยตรง
เมื่อผู้บริโภคเริ่มรู้จักหรือเริ่มได้ยินชื่อเสียงของธุรกิจเรา ก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาอาจจะนำชื่อของตัวแบรนด์ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมบน Google การเลือกใช้ Keyword ที่เป็นชื่อของแบรนด์โดยตรง เป็นเหมือนตัวช่วยเสริมที่จะทำให้ลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้าค้นหาเราเจอง่ายขึ้น เพราะบ่อยครั้งที่หลายธุรกิจทำแคมเปญสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
แต่พอมีคนเอาชื่อแบรนด์หรือแคมเปญที่เราจัดไปเสริชบน Google กลับหาอะไรที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ไม่เจอ มันก็คงเป็นอะไรที่แย่และเสียโอกาสเป็นอย่างมาก ดังนั้นแบรนด์ใหญ่ ๆ ทั่วโลกจึงนิยมเลือกใช้วิธีนี้ เพื่อให้เว็บไซต์ของพวกเขาขึ้นอันดับหนึ่งบนหน้าแรกอยู่ตลอดนั่นเอง
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ในทางตรงกันข้ามคู่แข่งของธุรกิจคุณก็อาจเลือกใช้ชื่อแบรนด์ของคุณมาเป็น Keyword ก็เป็นได้ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะทำให้ลูกค้าที่ใช้ชื่อแบรนด์คุณในการค้นหา เจอแบรนด์ของคู่แข่งด้วย ถือเป็นเทคนิคน่าสนใจที่คุณเองก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน
- ในขณะเดียวกันการเลือกใช้ชื่อแบรนด์ของเรามาเป็น Keyword ก็เป็นการป้องกันไม่ให้แบรนด์อื่นมาฉกฉวยโอกาสที่ควรจะได้ไปจากเรา
4.ใช้ Keyword Planner เข้ามาช่วยเลือก
Keyword Planner คือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนเจ้าของธุรกิจที่ต้องการวิเคราะห์ Keyword เพื่อทำแคมเปญโฆษณาบน Google Ads เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประมวลผลได้ว่า Keyword ไหนสอดคล้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ อีกทั้งยังเช็กได้ด้วยว่า Keyword Google Ads ที่เราจะใช้งานนั้นมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ มีคนประมูลเยอะไหม และคู่แข่งของเราได้ตั้งราคาไว้ประมาณไหน ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปประยุกต์ใช้วางแผนสร้างโฆษณาได้อย่างฟรี ๆ ถือเป็นเครื่องมือคุณภาพที่หลายธุรกิจต่างเลือกใช้
คำแนะนำเพิ่มเติม
- เราสามารถใช้งาน Keyword Planner มาเป็นตัวช่วยในการค้นหาไอเดียใหม่ ๆ เพื่อทำคอนเทนต์ให้ตัวเว็บไซต์ติดอันดับได้
- Keyword Planner จะช่วยให้ตัวธุรกิจวางแผนค่าใช้จ่ายและกำหนดงบประมาณในการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.เลือกจากความสนใจของผู้บริโภคโดยใช้ Google Trend อ้างอิง
Google Trend เป็นเว็บไซต์ของ Google ที่ให้บริการตรวจสอบความนิยมของ Keyword ในช่วงเวลาและพื้นที่ที่กำหนด เครื่องมือนี้จะช่วยให้ธุรกิจที่ทำรับทำ Google Ads สามารถศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย ว่าพวกเขากำลังสนใจและทำการค้นหาอะไรบน Google บ้าง ซึ่งเราก็สามารถนำเอาข้อมูลที่ได้ตรงนี้ ไปวางแผนและประยุกต์ใช้เพื่อทำโฆษณาในอนาคต การเลือก Keyword ด้วยวิธีนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมที่ธุรกิจมากมายต่างเลือกใช้
คำแนะนำเพิ่มเติม
- สามารถใช้ Google News ควบคู่ไปกับ Google Trend ได้ เพราะ Google News เป็นบริการรวบรวมข่าวสารและบทความต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ที่เราสามารถนำมาใช้อ้างอิงในการสร้างคอนเทนต์และวิเคราะห์ Keyword เบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Google Trend สามารถเจาะจงพื้นที่และช่วงเวลาในการตรวจสอบความนิยมของ Keyword ได้ตามที่เราต้องการ ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถเลือกเขตประเทศ และช่วงเวลาเพื่อตรวจเช็กย้อนหลังได้อย่างง่ายดาย
ทำไม Keyword ถึงมีความสำคัญกับการทำธุรกิจในปัจจุบัน
อย่างที่ทราบกันดีว่า Google Ads คือ การทำโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Search Engine ที่มีประสิทธิภาพและมีความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะบน Google เว็บไซต์ Search Engine ยอดนิยมที่ผู้บริโภคมักใช้งานเพื่อค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ (จากสถิติในปี 2021 มีคนไทยใช้งานเว็บไซต์ Google สูงถึง 556 ล้านครั้ง!) นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจพาแบรนด์ของตัวเองไปอยู่บนโลกออนไลน์กันมากขึ้น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
และด้วยเหตุนี้เองการคัดเลือก Keyword เพื่อใช้ในการทำโฆษณาจึงถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้าม การใช้ Keyword ที่ถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยคัดกรองคนที่จะเข้ามายังเว็บไซต์ของเราได้ในระดับหนึ่ง เพราะมีโอกาสสูงที่คนเหล่านี้จะเป็นคนที่สนใจสินค้าหรือบริการของเราจริง ๆ ซึ่งนั่นเองก็จะทำให้ตัวธุรกิจสามารถต่อยอดให้เกิดกิจกรรมการซื้อขายขึ้นได้ในอนาคต
หากคุณต้องการที่ปรึกษาการรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก