ทำ Backlink คือ การวางลิงก์ในเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อเชื่อมกลับเข้ามายังเว็บไซต์ของเรา มีจุดประสงค์เพื่อให้ Google ได้รู้ว่าเว็บไซต์ของเราได้รับการยอมรับจากเว็บอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเว็บไซต์ของเราได้คะแนนจัดอันดับ SEO จากทาง Google มากขึ้น โดยการทำ Backlink นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
- Natural Editorial Link เป็น Backlink แบบ Organic ที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณา เกิดจากคอนเทนต์ในเว็บไซต์เรามีคุณภาพ มีประโยชน์ และไม่มีใครนอกจากเราที่เขียนได้ จึงมีเว็บไซต์อื่นอ้างอิงเนื้อหาของเราแล้วทำการเชื่อมลิงก์กลับมาให้
- Manual Links Building เป็น Backlink ที่เราสร้างขึ้นเอง โดยการนำบทความหรือคอนเทนต์ไปใส่ไว้ในเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อที่จะได้วางลิงค์ให้เชื่อมกลับมายังเว็บไซต์ของเรา ซึ่งเว็บไซต์ที่จะนำคอนเทนต์ไปลงนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เรากล่าวถึงและต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อสูงถึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- Non-Editorial Links เป็น Backlink ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์โดยตรง เช่น ลิงก์รีวิว เว็บไซต์สำหรับทำ PR หรือฟอรัมที่เปิดให้ทุกคนเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น เป็นต้น
Backlink นั้นถือเป็นหนึ่งในการทำ Link building ที่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้น ทำให้ตัวเว็บผ่านเกณฑ์ E-A-T Factor (หลักเกณฑ์ในการสร้างเนื้อหาอย่างมีคุณภาพ) อีกทั้งยังช่วยให้หน้า Target Page ของเราติดหน้าแรกของ Google ได้อย่างง่ายดาย และนอกจากประเภทของ Backlink ที่คนทำ SEO ควรรู้แล้ว คุณยังต้องทำความเข้าใจในลักษณะของลิงค์แต่ละแบบอีกด้วย ว่ามีความแตกต่างและมีขั้นตอนในการใช้งานอย่างไร ถึงจะสร้างประสิทธิภาพให้กับการทำงานมากที่สุด
ลักษณะของลิงค์ทั้ง 6 แบบ ที่คน ทำ Backlink ควรรู้
1.Exact-match Link
Exact-match Link เป็น Text link ที่มีลักษณะเป็นคำตรงตัวกับ Keyword ในหน้าของ Landing page ที่เราใส่ไว้ เช่น
โดยจะเห็นได้ว่าคำที่เรานำมาใช้ใส่ลิงค์นั้นจะเป็นคำคำเดียวกับ Keyword ที่เราใช้ในหน้า Landing page ลิงค์ลักษณะนี้จะให้ค่าคะแนน SEO เยอะที่สุด ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกของ Google เป็นรูปแบบลิงค์ที่เราแนะนำให้ใช้มากที่สุดครับ
2.Partial-match Link
Partial-match Link เป็น Text link ที่มีลักษณะเป็นวลีหรือรูปประโยคที่มี Main keyword ของหน้า Landing page ที่เราใส่ไว้ผสมอยู่ เช่น
ลิงค์ลักษณะนี้ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เราแนะนำให้ใช้รองลงมาจาก Exact-match Link เพราะในบางคอนเทนต์เราอาจเลือกใช้ลิงค์แบบนี้แทน เพื่อพาผู้ใช้งานไปเยี่ยมชมหน้าเว็บที่เราอยากให้ไป แม้จะเป็นคอนเทนต์เก่า ๆ หรือมีเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ตาม
3.Branded Link
Branded Link คือ Text link ที่เป็นชื่อของแบรนด์หรือชื่อโดเมนของเว็บไซต์โดยตรง ซึ่งการใช้ลิงค์ในลักษณะนี้มักจะเชื่อมไปยังหน้าโฮมเพจของธุรกิจคุณ อาจใช้เพื่อเชื่อมไปยังคอนเทนต์หรือหน้าเพจอื่น ๆ ได้ตามต้องการ แต่ถ้าจะให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็ควรจะลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่เป็นชื่อเดียวกับคำใน Text link ครับ เช่น
4.Naked Link
Naked Link เป็นลิงค์ในลักษณะที่เราใส่ URL ลงไปเลยตรง ๆ ไม่ต้องแทรกลิงค์ผ่าน Text แต่อย่างใด แม้ลิงค์ลักษณะนี้จะใช้งานง่ายแต่มันกลับไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่นัก เพราะการใส่ทั้ง URL ลงไปในเนื้อหาหรือคอนเทนต์จะทำให้บทความดูไม่สวยงามขาดความเป็นมืออาชีพ และ Google ยังให้ค่าคะแนนในการทำ SEO น้อยกว่าลิงค์ในลักษณะอื่นอีกด้วย ดังนั้นการใช้งาน Naked Link จึงมักมาในรูปแบบของการสอดแทรกเครดิตหรือต้องการอ้างอิงไปยังเว็บใดเว็บหนึ่งมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น
- https://www.cotactic.com/our-services/seo/
- https://contentshifu.com/pillar/seo-guide
- https://www.truemoney.com/mrt-ticket/
- https://krungthai.com/th/content/personal/paotang/how-to-register
5.Generic Link
Generic Link เป็น Text link ที่มาในลักษณะของคำกระตุ้นที่ทำให้คนอ่านอยากคลิก อยากกดเข้าไปอ่านต่อ ยกตัวอย่างเช่น
- คลิกที่นี่
- ดูเพิ่มเติม
- คลิกเลย!
- Click here
- อ่านเพิ่มเติม
- อ่านต่อ
ลิงค์ลักษณะนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังแทรก URL ได้ทุกเว็บตามแต่ที่เราต้องการ เราจะสามารถเห็นลิงค์แบบนี้ได้ในเกือบทุกเว็บไซต์ เป็นอีกหนึ่งลักษณะของลิงค์ที่ได้รับความนิยมและถูกใช้งานมากในปัจจุบัน
6.Images Link
Images Link เป็นลักษณะของลิงค์ที่แทรกและทำงานกับรูปภาพ อาจเป็นได้ทั้งการแทรกลิงค์เข้าไปที่ภาพโดยตรงหรือจะวางลิงค์ในส่วนของ Description ใต้ภาพก็ทำได้เช่นกัน เช่น
จำไว้ว่า Google ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปริมาณหรือจำนวนลิงค์ที่อยู่ในหน้าเว็บ แต่ Google ให้ความสำคัญกับลิงค์ที่ถูกกดต่างหาก ดังนั้นหากคุณอยากให้การทำ Backlink ของคุณมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้งานลักษณะลิงค์ให้เหมาะสมกับเนื้อหาหรือตัวเว็บไซต์ ก็จะช่วยดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายคลิกลิงค์ของคุณกันมากขึ้น และอย่าลืมให้ความสำคัญกับคุณภาพของตัวคอนเทนต์ด้วย เพราะถ้าคอนเทนต์ที่คุณสร้างไม่ดีหรือไม่น่าสนใจ ลิงค์ที่คุณนำไปใส่ไว้ก็จะไม่มีคนกดและจะไร้ประโยชน์ในที่สุดครับ
หากคุณต้องการที่ปรึกษาการรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก