click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อเราเริ่มยิงแอด เราก็จำเป็นที่จะต้องรู้ผลลัพธ์ของสิ่งที่เราทำไป ฉะนั้นในบทความนี้ Cotactic จึงได้รวบรวม 6 Google Ads Metrics พื้นฐาน มาให้ทุกคนได้อ่านและลองศึกษากันดูครับ   

                             

Google Adwords คือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากในยุคปัจจุบัน เพราะมันถือเป็นการซื้อโฆษณาแบบดิจิทัลที่จะแสดงเว็บไซต์ของตัวธุรกิจให้ผู้บริโภคเห็น เมื่อมีการค้นหา Keyword ที่เรากำหนดไว้บน Search Engine ทำให้ตัวธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทันที เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ชัดเจน และสามารถวัดผลผ่านตัวชี้วัดต่าง ๆ ได้   ฉะนั้นสำหรับเจ้าของธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้นยิงแอดอาจจะมีความสับสนว่า Metrics มากมายที่ได้มานั้นมีตัวไหนจำเป็นและสำคัญบ้าง ดังนั้นเรามาดูกันที่ตัวแรกเลย!

1.Impr. (Impression) 

Impression คือจำนวนครั้งที่โฆษณาของเราถูกแสดงบนหน้าผลการค้นหา ยิ่งค่านี้สูงมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่ามีคนเห็นโฆษณามากเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญ เพราะมันจะทำให้เราได้รู้ว่า แอดที่ยิงออกไปนั้นถูกกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ และ Keyword ที่เราใช้มีความเหมาะสมมากแค่ไหน โดยในปัจจุบันทาง Google ก็ได้เพิ่ม Metrics ที่เกี่ยวข้องกับ Impressions ขึ้นมาอีก 2 ตัวคือ

 

  • Impr. abs. top ตัวชี้วัดที่แสดงเปอร์เซ็นต์เมื่อโฆษณาของเราอยู่อันดับที่ 1 บนหน้าค้นหา
  • Impr. top ตัวชี้วัดที่แสดงเปอร์เซนต์เมื่อโฆษณาของเราอยู่อันดับต้น ๆ บนหน้าค้นหา (เหนือกว่า Organic Search ทั่วไป)

Google Ads Metrics Impression

 

2.Click

Click คือ จำนวนครั้งที่มีคนคลิกโฆษณาของเราเพื่อเข้าสู่ Landing page หรือหน้าเว็บไซต์ของตัวธุรกิจที่เรากำหนดไว้ ยิ่งค่านี้สูงมากเท่าไหร่ก็หมายความว่า โฆษณาที่เรายิงออกไปดึงดูดคนได้มากเท่านั้น โดยมันอาจจะเกิดจากการที่เรายิงโฆษณาได้ถูกกลุ่มเป้าหมาย หรือมีการทำ Copywriting ที่น่าสนใจจนตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ใช้งาน Search Engine ตัวชี้วัดนี้ถือเป็น Google Ads Metrics พื้นฐานที่ตรงตัวไม่มีอะไรซับซ้อน ค่านี้มีความสัมพันธ์กับค่า Impression อย่างมีนัยยะ เพราะยิ่งตัว Ads มีคนเห็นมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่คนจะคลิกเข้ามาดูมากเท่านั้น

 

3.CTR (Click through rate)

Click Through Rate หรือ CTR คือ จำนวนคลิกต่อจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกเห็น ตัวชี้วัดนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากค่ายิ่งสูงมากเท่าไหร่ นั่นก็หมายความว่า Ads ของคุณถูกคลิกเข้ามาดูทุกครั้งที่มีคนผ่านมาเห็น ทำให้เราทราบได้อย่างทันทีว่าตัวแคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพมากน้อยขนาดไหน ซึ่งหากค่านี้ต่ำนั่นก็แสดงว่าตัว Ads ยังคงดึงดูดความสนใจผู้ใช้งานได้ไม่ดีพอ อาจต้องมีการแก้ไขในส่วน Copywriting เพิ่มเติม ถึงจะทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

CTR Click through rate

 

4.CPC (Cost per click)

Cost per click หรือ CPC คือค่าเฉลี่ยที่แสดงถึงราคาที่ต้องจ่ายต่อ 1 คลิกโฆษณา ถือเป็นตัวชี้วัดที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะตัวธุรกิจสามารถใช้งานค่านี้ในการคำนวณต้นทุน เพื่อคาดคะเนงบประมาณที่จะถูกใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาได้ โดยทาง Google Ads จะคิดราคา CPC ในรูปแบบของการประมูล Keyword หากแบรนด์ไหนให้ราคาในการประมูลสูงสุด โฆษณาของพวกเขาก็จะได้อันดับ Ad Rank ที่สูงขึ้น ทำให้ตัวเว็บไซต์มีโอกาสถูกเห็นและถูกคลิกมากกว่านั่นเอง

 

5.CPM (Cost per impression)

Cost per impression หรือ CPM คือค่าเฉลี่ยที่แสดงถึงราคาที่ต้องจ่ายเมื่อโฆษณาแสดงผลครบ 1,000 ครั้ง (Impression) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่นำไปใช้ในการคำนวณค่าใช้จ่ายและงบประมาณในการโฆษณา ว่าตัวแบรนด์ต้องเสียเงินเท่าไหร่หากต้องการให้ Ads เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก

อ่าน 4 เทคนิคปั้นโฆษณา Google Ads เพิ่มเติมได้ที่นี่!

 

Google Ads Metrics CPM (Cost per impression)

 

6.Quality Score

Quality Score คือคะแนนคุณภาพของตัวโฆษณาที่ถูกคิดจากค่า CTR, ความเกี่ยวข้องของตัวโฆษณากับ Keyword, คุณภาพของตัวเว็บไซต์ (Landing page) และประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (User Experience) โดยตัวคะแนนจะมีตั้งแต่ 1-10 ซึ่งถ้าต้องการให้ตัว Ads อยู่ในอันดับที่ดีก็ต้องมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7-10 ขึ้นไป Quality Score จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยดันให้โฆษณาของเราอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น เพราะตัว Google นั้นเป็น Search Engine ที่ต้องการให้ผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลได้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด และถูกต้องมากที่สุดนั่นเอง

 

จะเห็นได้ว่าตัวชี้วัดแต่ละอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถนำมาใช้งานต่อยอดได้ทั้งหมด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแคมเปญของเราจะต้องการ Google Ads Metrics ทุกอันเสมอไป เพราะบางอย่างก็ไม่เกี่ยวข้องและไม่จำเป็นต้องใช้ ดังนั้นการพิจารณาว่าตัวชี้วัดไหนสำคัญและจำเป็น คงต้องหันกลับมาดูว่าเป้าหมายหลักของแคมเปญนั้นคืออะไร ต้องการรายงานตัวไหนมาช่วยปรับปรุงโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ และพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของตัวธุรกิจมากที่สุด

——————————————————————–

 

หากคุณต้องการที่ปรึกษาบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

 

——————————————————————–

ขอบคุณข้อมูลจาก

บทความที่เกี่ยวข้อง

RMF Model

RFM Model คืออะไร? ทำไมการแบ่งกลุ่มลูกค้าถึงสำคัญ

Personal Branding

Personal Branding คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับธุรกิจ

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้