Gen Y คืออะไร?
กลุ่มคน Gen Y คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2524-2543 (ค.ศ 1981-2000) อยู่ในช่วงอายุประมาณ 22-40 ปี พวกเขาเติบโตมาในช่วงรอยต่อของยุค Analog และยุค Digital ทำให้มีพฤติกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนคนรุ่นไหน มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล ทั้งยังคุ้นชินและเข้าใจในเทคโนโลยีร่วมสมัยเป็นที่สุด โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้นับเป็นกลุ่มคนที่กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในยุคปัจจุบัน พวกเขาถือเป็นคนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาวที่มีกำลังซื้อสูง มีอิทธิพลต่อตลาด ทำให้เริ่มเป็นที่จับตามองจากธุรกิจหรือแบรนด์ต่าง ๆ อย่างมีนัยยะ
ดังนั้นวันนี้ Cotactic จึงอยากพาผู้ประกอบการทุกท่าน ไปรู้จักกับ 4 ไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นของคน Generation Y กันครับ ว่าพวกเขามีพฤติกรรมอะไรบ้างที่น่าสนใจ และต้องใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์แบบไหนถึงจะเข้าหาพวกเขาได้ดีที่สุด ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยครับ
4 นิสัยและ Lifestyle ของคน Gen Y
1.คน Gen Y เชี่ยวชาญเทคโนโลยี ติดโซเชียลมีเดีย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคสมัยที่คน Gen Y เติบโตขึ้นมานั้น เป็นช่วงปีที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ถูกพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการมาถึงของอินเทอร์เน็ต แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน สิ่งเหล่านี้ล้วนเปลี่ยนโฉมโลกไปจากเดิม ด้วยการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้คนกลุ่มนี้คุ้นชินกับเทคโนโลยีมากกว่าคนรุ่นอื่น พวกเขาสามารถเริ่มใช้งานอุปกรณ์ล้ำสมัยต่าง ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น ปรับตัวใช้ชีวิตให้เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีอะไรติดขัด
จากจุดเด่นนี้เอง ก็ทำให้คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมความเคยชินที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อนหน้า คือพวกเขาส่วนมากจะเสพติดเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมีเดีย อินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของพวกเขา คน Gen Y จะไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นหากขาดสิ่งเหล่านี้ไป เพราะความสะดวกสบายที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในชีวิตประจำวันของคนรุ่นนี้ไปแล้ว
แนวทางหรือกลยุทธ์ที่สอดคล้อง
จำไว้ว่าโลกออนไลน์ไม่ใช่โลกใบที่สองของพวกเขา แต่มันคือโลกใบเดียวกันกับที่พวกเขาอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นอีกด้านของความเป็นจริง คน Gen Y พึงพอใจที่จะเข้าถึงและพร้อมเปิดรับทุกอย่างจากโลกดิจิทัล ดังนั้นกิจกรรมต่าง ๆ ทางการตลาดที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์จึงได้ผลกับคนรุ่นนี้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
- Content Marketing การทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์หรือมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถชักจูงให้คนรุ่นนี้หันมาสนใจแบรนด์ได้ โดยเราอาจมุ่งเน้นสร้างคอนเทนต์ที่สามารถแก้ไขปัญหาพร้อมเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตของพวกเขา ซึ่งจะสามารถต่อยอดในการหาลูกค้า หรือทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายได้เป็นอย่างดีในอนาคต
- Live Streaming เทรนด์การไลฟ์สตรีมมิ่งหรือการไลฟ์สดได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตรุ่นใหม่ ซึ่งคน Gen Y ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ชื่นชอบเสพคอนเทนต์ในลักษณะนี้ ดังนั้นสำหรับการทำการตลาดบนโลกออนไลน์แล้ว การไลฟ์สตรีมมิ่งถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่สามารถต่อยอดการทำงานในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.เป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงออก มีอิสระทางความคิด
คนกลุ่มนี้มีอิสระทางความคิดค่อนข้างสูง เพราะพวกเขาเติบโตขึ้นมาในยุคสมัยที่ทุกอย่างรอบตัวกำลังพัฒนาเปลี่ยนผ่าน ความเป็นไปได้มากมายเกิดขึ้นให้พวกเขาเห็นเป็นปกติ ทัศนคติของพวกเขาจึงค่อนข้างเปิดกว้าง มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้พวกเขาไม่เหมือนคนรุ่นไหน โดยความเป็นตัวเองของพวกเขาก็ไม่ได้ถูกตีกรอบแน่นจนต่อยอดอะไรไม่ได้ กลับกันเสียอีก คนกลุ่มนี้มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับแนวคิดหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าสังคมโลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทางใด คนรุ่นนี้ก็พร้อมจะอยู่กับช่วงเวลานั้น ๆ ได้อย่างกลมกลืน พวกเขาสามารถสร้างจุดยืนให้กับชีวิตและอยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่มีปัญหา
แนวทางหรือกลยุทธ์ที่สอดคล้อง
ด้วยความที่มีอิสระทางความคิดสูง พวกเขาจึงมีทัศนคติที่ซื่อตรงกับความต้องการของตัวเอง หากพวกเขาไม่เห็นด้วยก็คือไม่เห็นด้วย หากพวกเขาชอบก็คือชอบ หากพวกเขาปฏิเสธก็คือปฏิเสธ ดังนั้นสำหรับตัวธุรกิจที่ต้องการเข้าหาคนกลุ่มนี้ สารที่ใช้ควรเป็นอะไรที่ ซื่อตรง จริงใจ ไม่หมกเม็ด พวกเขาชื่นชอบข้อเท็จจริงมากกว่าโฆษณากล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีเหตุผล ส่วนในด้านของกลยุทธ์นั้นต้องไม่มีการโน้มน้าวหรือการชี้นำที่มากเกินไป ต้องไม่มีเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์อะไรมาบังคับให้ยุ่งยาก ตัวแบรนด์ต้องมีภาพลักษณ์ที่เป็นสากล ไม่ขัดต่อความคิด ความเชื่อ หรือไลฟ์สไตล์ที่พวกเขาเป็น โดยสามารถใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้มาส่งเสริมการทำการตลาดได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
- Video Marketing การใช้คลิปวิดีโอมาเป็นตัวกลางในการพูดคุยระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค จะทำให้คนที่ดูเห็นภาพรวมของสารที่เราจะสื่อได้มากกว่าตัวอักษรเพียงอย่างเดียว มันจะช่วยเติมเต็มพฤติกรรมของคน Gen Y ที่ชอบข้อเท็จจริงได้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาจะเห็นภาพจริง ๆ ของสินค้าบริการที่แบรนด์นำเสนอ คลิปวิดีโอจะทำให้พวกเขารู้สึกเข้าถึงได้ จับต้องได้ ไม่มีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้น ทั้งยังสอดคล้องต่อยุคสมัย ใช้งานต่อยอดในการหาลูกค้าหรือเป้าหมายอื่น ๆ ได้ตามสะดวก
- Influencer Marketing คน Gen Y คุ้นเคยกับเหล่าอินฟลูฯที่มีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ตมากกว่าดาราหรือคนดังในวงการบันเทิง พวกเขามักติดตามคนที่มีไลฟ์สไตล์หรือความคิดที่ใกล้เคียงกับตัวตนของพวกเขา การทำการตลาดด้วยกลยุทธ์นี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภค Gen Y ได้เป็นอย่างดี พวกเขาจะรู้สึกจับต้องสินค้าหรือบริการได้ ทั้งยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ และช่วยโน้มน้าวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่ตัวแบรนด์ต้องการ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เนื้อหา ก็เป็นหัวใจสำคัญของทุกกลยุทธ์ที่จำเป็นต้องคำนึงถึง เพราะคนกลุ่มนี้มีความอิสระทางความคิดสูง หากไม่ใช่คอนเทนต์ที่พวกเขาสนใจ สารที่เราส่งไปก็อาจถูกปัดตกไปได้อย่างง่ายดาย
3.ใช้สินค้าบริการตาม “ความพึงพอใจ”
ไม่ว่าคน Gen Y คิดจะทำอะไร พวกเขามักจะยึด ความพึงพอใจ มาเป็นหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเลือกซื้อสินค้าหรือการใช้บริการอะไรสักอย่าง คน Gen Y จะให้ความสำคัญกับคุณภาพหรือความรู้สึกมาก่อนชื่อเสียงของแบรนด์ พวกเขาจะไม่สนว่าแบรนด์นั้นจะมีชื่อเสียงมากน้อยแค่ไหน ไม่สนว่าราคาของสินค้าบริการจะแพงเกินไปหรือไม่ ถ้ามันตอบโจทย์การใช้งานและช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไปอุดหนุนใช้บริการ นอกจากนั้นแล้วพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพวกเขาเอง ก็ยังยึดความพึงพอใจนี้เป็นบรรทัดฐานหลัก กิจกรรมที่พวกเขาทำก็คือสิ่งที่พวกเขาชอบ คน Gen Y ให้ความสำคัญกับความสุข หากสิ่งที่พวกเขาทำไม่สามารถเติมเต็มความต้องการให้กับพวกเขาได้ พวกเขาจะไม่ทำเด็ดขาด นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้คน Gen Y แตกต่างจากคนรุ่นก่อนหน้ามากกว่าที่คิด
แนวทางหรือกลยุทธ์ที่สอดคล้อง
การทำการตลาดกับคน Gen Y นั้น ตัวธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการสื่อสารมากเป็นพิเศษ เพราะคนกลุ่มนี้มักจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อพอสมควร พวกเขาจะใช้เวลาในการเลือกสรรสินค้าบริการ หาข้อมูล หารีวิวเปรียบเทียบ ศึกษาข้อดีข้อเสีย เป้าหมายก็เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวพวกเขาเอง ดังนั้นการสื่อสารที่ถูกออกแบบมาดีจะช่วยให้ตัวธุรกิจเข้าถึงคน Gen Y ได้ง่ายขึ้น ช่วยลดระยะห่างระหว่างตัวแบรนด์กับผู้บริโภคกลุ่มนี้ลง และสามารถส่งข้อมูลพร้อมสร้างการรับรู้ได้อย่างถูกจุดประสงค์
โดยอาจจะใช้วิธีสื่อสารที่เน้นไปที่การสร้าง อารมณ์ร่วม ใช้ประโยคสื่อสารให้พวกเขารู้ว่าสินค้าบริการของแบรนด์ดีอย่างไร เลือกใช้แล้วจะได้อะไร แตกต่างกับแบรนด์อื่นตรงไหน ยกตัวอย่างเช่น
- ทั้ง 2 แคปชั่นที่อยู่บนแบนเนอร์นั้น ถูกเขียนด้วยรูปประโยคที่ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าใจถึงปัญหาของผู้บริโภค พร้อมกับหยิบยื่นแนวทางการแก้ปัญหาที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีสินค้าหรือบริการของแบรนด์เป็นองค์ประกอบหลัก ผู้อ่านจะรู้ได้อย่างทันทีว่าสินค้าบริการจะตอบสนองความพึงพอใจพวกเขาได้หรือไม่
- การใช้คำจะเน้นไปในเชิงของการปลุกเร้าให้น่าสนใจ ชักชวนโน้มน้าวให้เกิดการตั้งคำถาม ก่อนที่จะโฆษณาสินค้าบริการของตัวแบรนด์ให้ผู้อ่านได้รับรู้ สำหรับคน Gen Y แล้ว นี่เป็นประโยคที่ชวนคล้อยตามเป็นอย่างมาก
การสื่อสารในลักษณะนี้จะทำให้ความพึงพอใจที่พวกเขาตามหาดูเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ฟังหรืออ่านแล้วเห็นภาพชัดเจนว่ามันใช่สิ่งที่ต้องการหรือไม่ ซึ่งหากตัวแบรนด์ทำได้อย่างถูกต้อง ก็จะสามารถหาลูกค้าใหม่เพิ่มจากคนกลุ่มนี้ได้อย่างมหาศาล นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางการประยุกต์ใช้งานที่ต่อยอดได้ไม่รู้จบ
4.ทุกอย่างต้องสะดวกรวดเร็ว เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน
คน Gen Y ใช้ชีวิตอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนผ่านจาก Analog มาเป็น Digital พวกเขารู้ดีว่าความล่าช้าและความลำบากแบบ Analog เป็นเช่นไร เมื่อพวกเขาได้รู้จักและสัมผัสความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ มันก็ยากที่จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ได้อีก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มาตรฐานการใช้ชีวิตของพวกเขาต้องมีความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ต้องมีความสะดวกรวดเร็วทันใจ พร้อมรองรับทุกความต้องการได้อย่างไม่มีปัญหาตามมา ดังนั้นหากธุรกิจไหนอยากได้รับความสนใจจากคน Gen Y มากขึ้น ก็ควรเริ่มต้นจากการพัฒนาตัวแบรนด์ ให้ก้าวทันเทคโนโลยีจนเหมาะสมกับยุคสมัยก่อนเป็นอันดับแรก
แนวทางหรือกลยุทธ์ที่สอดคล้อง
โซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยยกระดับตัวธุรกิจให้เหมาะสมกับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี เพราะมันจะช่วยสร้างทางเลือกในการใช้บริการจากลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมคน Gen Y ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ชอบความสะดวกสบายรวดเร็วไม่ซับซ้อน ทั้งยังช่วยส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ดี ๆ ให้แก่แบรนด์ในทางอ้อมได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- การมีเพจบน Facebook หากแบรนด์มีหน้าเพจบน Facebook คน Gen Y ที่ชื่นชอบการหาข้อมูลก่อนใช้บริการก็จะสามารถทำความรู้จักแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย พวกเขาสามารถสำรวจราคาสินค้า พิจารณาข้อเสนอโปรโมชั่น หรือเปรียบเทียบดูรีวิวเก่า ๆ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้กระบวนการตัดสินใจซื้อของพวกเขาทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น นับเป็นเทคนิคหาลูกค้าดี ๆ ที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต
- มีช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่หลากหลาย เป็นที่รู้กันดีว่าช่องการสื่อสารของตัวแบรนด์ยิ่งมีหลายหลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งคนกลุ่มนี้จะรู้สึกสบายใจ หากตัวแบรนด์มีช่องทางการติดต่อที่คลอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม มันช่วยแสดงให้เห็นว่าตัวธุรกิจพร้อมรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าพวกเขาจะเข้ามาหาด้วยแอปพลิเคชั่นอะไรก็ตาม
- ใช้งานแพลตฟอร์ม E-Commerce ควบคู่ แพลตฟอร์ม E-Commerce ถูกออกแบบมาให้พร้อมรองรับการซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์โดยเฉพาะ ดังนั้นสำหรับผู้บริโภคบางคนแล้ว การใช้บริการผ่านระบบเหล่านี้ย่อมสะดวกกว่าระบบอื่นเป็นไหน ๆ ดังนั้นการที่แบรนด์จะเริ่มหันมาใช้งาน E-Commerce ควบคู่ไปด้วยก็นับว่าเป็นความคิดที่ดี เพราะมันจะช่วยส่งเสริมกิจกรรมการซื้อขายให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมของคน Gen Y ได้อย่างลงตัวนั่นเอง
หากธุรกิจคุณต้องการที่ปรึกษา ต้องการทีมงานมืออาชีพด้านการรับทำเว็บไซต์ WordPress และการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้แก่ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://bit.ly/cotactic
ขอบคุณข้อมูลจาก