Cotactic ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและการรับทำเว็บไซต์ WordPress เชื่อว่าเทคโนโลยีการสร้างโลกเสมือนของ Metaverse นั้น จะส่งผลให้การทำ Content Marketing ในอนาคต ต้องเกิดการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะการที่ผู้บริโภคมีช่องทางการเข้าถึงเนื้อหาที่เพิ่มมากขึ้น มันก็อาจจะทำให้พวกเขาเลือกสื่อที่จะเสพมากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นทุกธุรกิจจึงต้องคิดและวางแผนให้รอบคอบเสมอ ว่าเนื้อหาที่แบรนด์สร้างนั้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด และมันสามารถใช้งานบนโลกเสมือนได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
วันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำ 3 เทรนด์คอนเทนต์ในยุค Metaverse ให้ผู้ประกอบการที่สนใจได้รู้จักกันครับ ว่าเนื้อหาแบบไหนที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานจริงได้ในการทำธุรกิจ
Content ที่เกี่ยวข้องกับ Pop Culture จะครองโลกออนไลน์
ป๊อปคัลเจอร์ (Pop Culture) หรือ วัฒนธรรมป๊อป คือวัฒนธรรมใด ๆ ก็ตามที่คนในยุคนั้นให้ความนิยม ซึ่งมันก็ไม่ได้ถูกเจาะจงไปที่ความบันเทิงหรือแฟชั่นเพียงอย่างเดียว มันยังรวมไปถึงทัศนคติ แนวคิด ค่านิยม หรือความเชื่อ ที่สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒธรรมนี้ได้ หากผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมนิยมสนใจจริง ๆ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ ที่ตัววัฒนธรรมป๊อปดูเป็นรูปธรรมและสามารถสร้างรายได้ได้มากที่สุด เพราะเนื้อหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคชอบเสพกัน ก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนประกอบของป๊อปคัลเจอร์แทบทั้งสิ้น
ซึ่งในยุค Metaverse เทคโนโลยีโลกเสมือนจะเข้ามาขยายขอบเขตการทำงานของวัฒนธรรมป๊อป ให้มีมิติและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับป๊อปคัลเจอร์ จะกลายเป็นเนื้อหาหลักที่ผู้บริโภคให้ความสนใจบนโลกออนไลน์ ดังนั้นหากธุรกิจไหนต้องการดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค การสร้างเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับกระแสของวัฒนธรรมป๊อป ณ ตอนนั้น จึงอาจเป็นเรื่องจำเป็นที่ตัวธุรกิจไม่ควรมองข้าม
ข้อดีของการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Pop Culture
- ผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายจะให้ความสนใจในทันที การสร้างคอนเทนต์ที่หยุดให้ผู้บริโภคอ่านได้ในทันทีที่ผ่านมาเห็น ถือเป็นคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากเราสามารถเลือกหยิบองค์ประกอบบางอย่างจากป๊อปคัลเจอร์ มาผสมผสานเข้ากับสื่อที่เราสร้างได้อย่างลงตัว เราก็จะมีคอนเทนต์ดี ๆ ไว้เรียกลูกค้าและต่อยอดกลยุทธ์อื่น ๆ ได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว
- ได้ใจผู้บริโภครุ่นใหม่ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่อยู่บนโซเชียลมีเดียและโลกออนไลน์ ล้วนเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่แทบทั้งสิ้น (GenY, GenZ) ซึ่งในขณะเดียวกันกลุ่มคนเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในวัฒนธรรมป๊อปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากตัวแบรนด์สามารถใช้งานป๊อปคัลเจอร์ได้อย่างสร้างสรรค์ ก็มีโอกาสที่จะดึงดูดความสนใจจากคนกลุ่มนี้ได้มากเป็นพิเศษนั่นเอง
- แบรนด์จะมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ อย่างที่ทราบกันดีว่ากระแสนิยมของผู้บริโภคในสังคมมักผ่านไปไวอย่างรวดเร็ว เทรนด์หลายอย่างเกิดขึ้นและดับไปในช่วงเวลาไม่นาน แต่ไม่ใช่กับวัฒนธรรมป๊อปที่กระแสของมันแทบจะยืนยาวข้ามยุคข้ามสมัยเลยทีเดียว ดังนั้นหากตัวแบรนด์ใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ภาพลักษณ์แบรนด์ก็จะดูทันสมัยไม่ตกยุค พร้อมอยู่ในกระแสและได้รับความสนใจตลอดเวลา
- ต่อยอดเนื้อหาได้หลากหลาย วัฒนธรรมป๊อปเป็นอีกหนึ่งเนื้อหาที่สามารถหยิบจับไปใช้งานได้อย่างอิสระ มันค่อนข้างยืดหยุ่นพร้อมปรับแต่งได้ตลอดเวลา ทั้งยังให้ความรู้สึกสดใหม่ เหมาะสมในทุกยุคสมัย สามารถรีไซเคิลไอเดียนำกลับมาเล่าซ้ำได้ไม่มีเบื่อ ทำให้เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์น่าใช้งานที่หาอะไรมาเปรียบได้ยากจริง ๆ
Content จากการ Live Streaming จะเข้าถึงผู้คนได้มากที่สุด
Live Streaming (ไลฟ์สตรีมมิ่ง) คือ การถ่ายทอดสดภาพและเสียงบนอินเทอร์เน็ต ผ่านระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ให้ผู้ชมสามารถรับชมได้อย่างอิสระผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่รองรับการทำงานของแพลตฟอร์มนั้น ๆ โดยการไลฟ์สตรีมมิ่งในปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลการทำงานที่พร้อมตอบโจทย์การทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี ด้วยการลงทุนที่น้อยแต่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มหาศาล ก็ทำให้การสตรีมมิ่งเริ่มเข้ามามีบทบาทแทนที่สื่อหลักในยุคก่อนอย่างมีนัยยะ
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการ Live Streaming เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ซึ่งพอเราก้าวเข้าสู่ยุค Metaverse การไลฟ์สดหรือการไลฟ์สตรีมมิ่ง จะมีลูกเล่นและประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า อาทิเช่น
- สร้างโลกเสมือนที่ทุกคนอาจเข้ามามีส่วนร่วมได้ ผู้ใช้งานที่ต้องการไลฟ์สตรีมมิ่งบน Metaverse อาจจะสามารถสร้างโลกหรือสถานที่เสมือนจริงขึ้นมา แล้วเปิดให้ผู้รับชมเข้ามามีส่วนร่วมและสร้างปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะช่วยยกระดับการสื่อสารจากแค่ตัวหนังสือ เป็นการพูดคุยสื่อสารกันได้โดยตรง สิ่งนี้จะช่วยยกระดับการไลฟ์สตรีมมิ่ง ให้มีมิติการทำงานที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับกิจกรรมและเนื้อหาของการไลฟ์
- จะมีขอบเขตที่กว้างมากขึ้น หากพูดถึงกิจกรรมที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตนิยมดูผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่งแล้ว เราอาจจะนึกถึงการไลฟ์สดขายของหรือการสตรีมมิ่งเล่นเกมทั่วไป แต่ในอนาคต Metaverse จะช่วยให้การไลฟ์สตรีมมิ่งต่อยอดไปสู่กิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น สตรีมมิ่งมินิคอนเสิร์ต ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาชมไลฟ์และสร้างปฏิสัมพันธ์กับตัวศิลปินได้บนโลกเสมือน เป็นต้น
- เป็นมิตรกับการสร้างสรรค์เนื้อหาในเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้น การไลฟ์สตรีมมิ่งบนโลกเสมือนจะเอื้ออำนวยให้ผู้ใช้งาน สามารถออกแบบเนื้อหาในเชิงธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น เพราะโครงสร้างการทำงานของ Metaverse จะมุ่งเน้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมและสามารถสื่อสารกันได้อย่างอิสระ จากจุดเด่นนี้เองการไลฟ์สดขายของจะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แบรนด์จะสามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้โดยตรง จนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ แม้จะอยู่ในโลกเสมือนก็ตาม
การ Live Streaming ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจ สามารถนำไปใช้งานได้จริงทั้งในปัจจุบันและบน Metaverse เพราะมันเป็นเหมือนช่องทางที่แบรนด์จะสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง ทั้งยังต่อยอดกลยุทธ์การตลาดได้อย่างอิสระ เหมาะสมกับยุคสมัยและตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นที่สุด
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคการ Live Facebook ได้ ที่นี่
Content จาก Influencer จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
อย่างที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ นั่นจึงทำให้เราเริ่มเห็นคอนเทนต์จากอินฟลูเอนเซอร์บนแพลตฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้น จากจุดนี้เองจึงสามารถคาดเดาได้ว่า ในยุคของ Metaverse คอนเทนต์จากคนดังบนโลกออนไลน์จะกลายเป็นเนื้อหาหลัก ๆ ที่ผู้บริโภคและผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเลือกเสพก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเนื้อหาที่คนกลุ่มนี้สร้างมีความเข้าถึงง่ายและตอบโจทย์ในแง่ของความบันเทิงมากกว่า ตัวธุรกิจที่ต้องการทำ Content Marketing บนโลกเสมือน อาจต้องพึ่งพากลุ่มคนเหล่านี้เพื่อให้แคมเปญประสบความสำเร็จ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Influencer Marketing ได้ ที่นี่
โดยคอนเทนต์ที่มาจากอินฟลูเอนเซอร์ จะมีจุดเด่นและข้อดีมากมายที่ตัวธุรกิจสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ยกตัวอย่างเช่น
- เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายกว่า ด้วยความที่อินฟลูเอนเซอร์นั้นมีทัศนคติและความคิดเห็นใกล้เคียงกับกลุ่มผู้ติดตาม นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่า ทำให้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ดูน่าเชื่อถือ สามารถสร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการ อินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์มีแนวโน้มสร้างความรู้สึกที่จับต้องได้มากกว่าคนที่มีชื่อเสียงจากสื่อกระแสหลัก มันทำให้ผู้ที่ได้รับชมคอนเทนต์รู้สึกเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้ง่าย ไม่ไกลตัว ไม่รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดหรือถูกโฆษณาชวนเชื่อใด ๆ
- วัดและประเมินผลได้ง่าย ด้วยความที่คอนเทนต์ของอินฟลูเอนเซอร์อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ การวัดและประเมินผลเบื้องต้นจึงทำได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น ยอดการเข้าถึง ยอดการมีส่วนร่วม ความคิดเห็น ยอดแชร์ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวประเมินผลเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ว่ากลยุทธ์ที่ทำอยู่มีทิศทางเป็นเช่นไร การปรับแก้ไขจึงเป็นเรื่องง่าย สามารถจัดการได้ทันทีหรือเก็บข้อมูลเพื่อใช้กับแคมเปญต่อ ๆ ไปก็ทำได้
หากธุรกิจคุณต้องการที่ปรึกษา ต้องการทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้แก่ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://bit.ly/cotactic
ขอบคุณข้อมูลจาก