สำหรับการทำการตลาดบนโลกออนไลน์แล้ว กลยุทธ์ที่ใช้นั้นจะแตกต่างจากการทำการตลาดในยุคก่อนพอสมควร โดยเฉพาะกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำ E-commerce คือ ต้องอาศัยความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคในระดับหนึ่ง ถึงจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและประสบความสำเร็จ วันนี้ Cotactic Digital Marketing Agency จึงขออาสาพาผู้ประกอบการทุกท่าน ไปรู้จักกับเทคนิคหาลูกค้าและเพิ่มยอดขายสำหรับการทำอีคอมเมิร์ซกันครับ ว่าจะมีอะไรที่พร้อมนำไปประยุกต์ใช้ได้บ้าง มาดูกันเลยครับ
ความน่าเชื่อถือคือทุกสิ่ง! เสริมความมั่นใจ E-commerce ด้วย Video Marketing
ความน่าเชื่อถือของร้านค้าหรือแบรนด์นั้นนับว่าปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกซื้ออะไรสักอย่างบนอินเทอร์เน็ต เพราะผู้บริโภคเชื่อว่าหากเลือกซื้อสินค้ากับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือหรือเป็นแบรนด์ใหญ่ พวกเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกโกงและได้รับสินค้าบริการที่มีคุณภาพเหมาะสมกับเม็ดเงินที่เสียไป ดังนั้นหากคุณพึ่งเริ่มต้นทำ E-commerce การสร้างความน่าเชื่อถือจนได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคจึงเป็นก้าวแรกที่เราต้องตีโจทย์ให้แตก
ดังนั้นกลยุทธ์การทำ Video Marketing จึงเป็นเทคนิคสำคัญที่จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะการทำ Video Content นั้นจะช่วยให้แบรนด์ สามารถสื่อสารด้วยผ่านภาพและเสียงที่ดูจับต้องได้ ทำให้ผู้บริโภคได้เห็นว่าสินค้าที่เขาสนใจนั้นมีอยู่จริง มีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์การใช้งานแบบไหน คุ้มค่ากับการสั่งซื้อหรือไม่ อีกทั้งยังทำให้แบรนด์ดูมีตัวตนเป็นรูปธรรม ดูน่าเชื่อถือไม่หลอกลวง ซึ่งหากคุณสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ด้วยวิธีนี้ นั่นหมายความว่าการหาลูกค้าให้กับธุรกิจในอนาคตจะเป็นเรื่องที่ง่ายในทันที
โดยนอกจากการทำ Video Marketing แล้ว ยังมีอีกหลากหลายกลยุทธ์ที่สามารถเสริมความมั่นใจให้แก่ตัวธุรกิจคุณได้อีก ยกตัวอย่างเช่น
-
Content Marketing
การสื่อสารด้วยเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพให้กับแบรนด์ เป็นกลยุทธ์ที่ลงมือทำได้ง่าย ประหยัดทั้งงบประมาณ ประหยัดทั้งเวลา เหมาะแก่การทำควบคู่ไปกับ Video Content หรือเนื้อหาประเภทอื่น เพื่อช่วยส่งเสริมให้เนื้อหาที่แบรนด์ปล่อยออกมามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
-
Influencer Marketing
การสื่อสารผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์มักได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากอยู่เสมอ ซึ่งก็นับเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างการรับรู้เป็นวงกว้างให้แก่แบรนด์ได้เป็นอย่างดี สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสมหากตัวธุรกิจมีทรัพยากรที่มากพอจะลงทุน
-
Viral Marketing
การสร้างกระแสบนโลกออนไลน์เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คนในด้านความรู้สึก จนเกิดเป็นการพูดถึง การบอกต่อ หรือการแชร์ นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น สามารถประยุกต์ใช้เพื่อการทำอีคอมเมิร์ซได้เป็นอย่างดีในแง่ของการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ โดยอาจนำมาเพื่อโปรโมทกระตุ้นยอดขาย ผ่านโปรโมชั่นหรือส่วนลดประจำเดือน เป็นต้น
เลือกแพลตฟอร์ม E-commerce ได้ถูกก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
นอกจากชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของแบรนด์แล้ว ตัวแพลตฟอร์มเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าแพลตฟอร์มสำหรับการทำอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันนี้ มีให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้เลือกใช้งานกันอย่างมากมาย กิจกรรมการซื้อขายสินค้าบริการบนอินเทอร์เน็ตนั้นจึงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่บนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งอีกต่อไป ซึ่งสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าทางเลือกที่ดีที่สุดของการทำอีคอมเมิร์ซนั้น คือการพาแบรนด์ไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์มให้ได้นั่นเอง แต่การจะทำจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องอาศัยการวางแผนการจัดการมากกว่าที่เราคิด เพราะในแต่ละแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซก็มีลักษณะการทำงาน จุดเด่น และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป
การศึกษาและทำความเข้าใจจุดเด่นของแต่ละแพลตฟอร์มจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกแบรนด์ไม่ควรมองข้าม หากธุรกิจคุณพึ่งเริ่มต้นทำอีคอมเมิร์ซแนะนำว่าให้โฟกัสไปที่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งก่อนเป็นอันดับแรก เพราะการศึกษาตลาด ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคบนเว็บไซต์นั้น ๆ จะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการหว่านแหลงไปทำทุกแพลตฟอร์มพร้อม ๆ กัน พอธุรกิจคุณเริ่มเข้าที่ มีกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ชัดเจน มีฐานลูกค้าที่มากและมั่นคงพอ การขยับไปใช้แพลตฟอร์มอื่นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
โดยคำแนะนำเริ่มต้นในการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมนั้นก็มีหลักการคร่าว ๆ ดังนี้
-
ศึกษากลุ่มเป้าหมาย
พฤติกรรม ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย(ลูกค้า)เป็นเรื่องสำคัญที่เราจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์ก่อนเป็นอันดับแรก หากเรารู้ว่าลูกค้าของเราอยู่ในแพลตฟอร์มไหนมากกว่ากัน มีพฤติกรรมการใช้งานที่สอดคล้องต่อแพลตฟอร์มไหนมากกว่ากัน เราก็อาจใช้ข้อมูลนี้เป็นเกณฑ์ในการเลือกใช้งานแพลตฟอร์มได้
-
ศึกษาระบบการทำงานหลังบ้าน
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันต่างก็มีการพัฒนาระบบการทำงานหลังบ้านที่ให้ความสะดวกต่อผู้ใช้งานที่โดดเด่นและแตกต่างกันไป กล่าวได้ว่าสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้ขายแล้ว ระบบหลังบ้านนี้จะส่งผลต่อการทำธุรกิจมากกว่าที่คิด เพราะการวางกลยุทธ์ การทำแคมเปญ หรือการทำการตลาดออนไลน์บางอย่าง อาจต้องพึ่งพาระบบการทำงานตรงนี้อย่างขาดไม่ได้ ฉะนั้นการศึกษาระบบการทำงานของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ทะลุปรุโปร่ง ก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม
-
จำนวนผู้ใช้งาน
ในแต่ละแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้น ก็มียอดผู้ใช้งานที่มากน้อยแตกต่างกันไป การที่เราจะยึดเอาจำนวนผู้ใช้งานตรงนี้มาเป็นหลักเกณฑ์การตัดสินใจก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะยิ่งจำนวนผู้ใช้งานเยอะเท่าไหร่ นั่นก็เท่ากับว่าเรามีสิทธิ์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากเท่านั้น แต่จะเจาะจงยึดเพียงแค่ตัวเลขของผู้ใช้งานอย่างเดียวคงไม่ได้ มันยังมีเรื่องของจำนวนผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณอีก ว่าบนแพลตฟอร์มนั้นมีกลุ่มเป้าหมายของคุณมากน้อยขนาดไหน อย่าลืมว่าข้อมูลตรงนี้เป็นส่วนสำคัญที่ต้องวิเคราะห์ให้ละเอียดอย่างถี่ถ้วน เพราะมันส่งผลถึงการทำงานในระยะยาวมากกว่าที่คิดไว้
ใช้ Social Media มาสนับสนุน E-commerce
การใช้ Social Media เพื่อส่งเสริมการทำอีคอมเมิร์ซก็เป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมที่หลายแบรนด์เริ่มประยุกต์ใช้งานกันมากขึ้น เพราะสื่อสังคมออนไลน์นั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักที่ตัวธุรกิจจะ สามารถเข้าหาผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นหมายความว่าเราสามารถใช้ประโยชน์ตรงนี้ในการผลักดันกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงไปถึงการทำอีคอมเมิร์ซได้ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
อีกทั้งระบบเบื้องหลังของแพลตฟอร์ม Social Media หลายแห่งก็เริ่มที่จะรองรับการทำงานตรงนี้กันมากขึ้น ส่งผลให้ขอบเขตการวางแผนกลยุทธ์ขยายขอบเขตให้กว้างไปมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าซึ่งการเชื่อมโยง Social Media เข้ากับการทำอีคอมเมิร์ซนั้นก็สร้างผลประโยชน์ได้มหาศาล ยกตัวอย่างเช่น
-
สร้างน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์
เป็นปกติของผู้บริโภคที่พวกเขาจะค้นหาข้อมูลของสินค้าบริการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นช่องทางหลักของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวบนเพจ ข้อมูลการใช้งานหรือราคาส่วนลดตามโพสต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาสามารถมักใช้สิ่งที่เจอมาประกอบการตัดสินใจซื้อเสมอ หากคุณมีการปรับแต่งช่องทางเหล่านี้ให้ทันสมัย มีการอัปเดตโพส แคปชั่น หรือสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
-
โปรโมทหรือสร้างโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สื่อสังคมออนไลน์เป็นอีกช่องทางที่เราสามารถนำมาใช้งานเพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถทำโฆษณาหรือบอกต่อโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่าง ๆ ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ สร้างเนื้อหาคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นความอยากซื้ออยากใช้ แล้วเชื่อมต่อลิงค์ไปยังแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายได้อย่างง่ายดาย เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เรามักเห็นได้บ่อยในปัจจุบัน
-
สื่อสารกับลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคที่เปี่ยมประสิทธิภาพช่องทางหนึ่ง ตัวธุรกิจอาจใช้ข้อดีตรงนี้ในการส่งสารถึงลูกค้าในแง่ของการส่งเสริมการขาย การหาลูกค้าใหม่ หรือแม้กระทั่งการปิดดีลซื้อขายต่าง ๆ จนสามารถประยุกต์ใช้งานให้เข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ได้ นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามเลย
จะเห็นได้ว่าเทคนิคเกือบทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Digital Marketing ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ แนวคิด หรือเครื่องมือใช้งาน เพราะในยุคปัจจุบันนี้โลกออนไลน์ได้เริ่มหลอมรวมระบบและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงถึงกันได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งกลยุทธ์ของการตลาดออนไลน์ได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงออกแบบกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการทำ E-commerce ได้ตามความเหมาะสม ดังนั้นความรู้พื้นฐานของการทำ Online Marketing จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการทำ E-commerce หรือไม่ก็ตาม
หากคุณอยากได้ที่ปรึกษา หรือต้องการทีมงานมืออาชีพด้านการรับทำเว็บไซต์ WordPress เพื่อการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้แก่ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://bit.ly/cotacti
ขอบคุณข้อมูลจาก