ตั้งแต่รูปแบบการค้าขายเปลี่ยนมาเป็นออนไลน์มากขึ้น ทุก ๆ แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อได้ด้วยอินเทอร์เน็ตดูเป็นสิ่งที่นักการตลาดและผู้ประกอบการแทบทุกรายต่างเลือกใช้งานมากที่สุด และก็คงหนีไม่พ้นช่องทางทำเงินอย่าง Facebook, Line หรือ TikTok ที่เหล่านักธุรกิจก็ต้องคอยอัปเดตความรู้ต่าง ๆ อาทิ วิธีลง โฆษณา facebook เป็นต้น สำหรับบทความนี้เราจะมาเจาะลึกรูปแบบโฆษณาแบบต่าง ๆ ที่ปรากฎบน Facebook ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณหาลูกค้าใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น แถมยังใช้เรียก Engagement ดึงลูกค้าเก่าให้หันกลับมาใช้บริการได้ดีทีเดียว
Facebook Ads คือ การโฆษณาบนหน้าฟีดของ Facebook ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถโปรโมทสินค้าหรือบริการในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าหรือบริการ เพิ่มยอดขาย และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น
รูปแบบโฆษณา Facebook
ประเภทโฆษณา Facebook
1. Image Ads
รูปแบบนี้นิยมใช้กันแพร่หลายที่สุด ออกแบบง่ายที่สุด รวดเร็วที่สุด และยังเป็นวิธีที่นักการตลาดออนไลน์มือใหม่ใช้งานมากที่สุด สามารถสร้างแผนโฆษณาได้ภายในไม่กี่คลิก
โฆษณาผ่านรูปภาพอาจดูเป็นวิธีที่ง่าย แต่ไม่ได้หมายความต้องเป็นโฆษณาที่ดูน่าเบื่อเสมอไป ขึ้นอยู่กับการออกแบบ การวางดีไซน์ และการเชียนคำบนแบนเนอร์ที่ชวนดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้อยากเข้ามาซื้อมากยิ่งขึ้น
-
ตัวอย่าง Image Ads
นอกจากนี้ไฟล์รูปภาพที่จะใช้ยิงแอดก็ถือว่ามีส่วนสำคัณเช่นกัน หากเซฟไฟล์มาผิดนามสกุลล่ะก็จะอัปขึ้น Facebook ไม่ได้ ตัวอย่างสกุลไฟล์รูปภาพที่อัปขึ้น Facebook ได้มีดังนี้ แต่ไฟล์ที่แนะนำมากที่สุดคือ JPG และ PNG
และอีกส่วนที่ขาดไม่ได้เลยคือขนาดของรูปภาพที่ต้องพอดีกับกรอบของ Facebook แบบเป๊ะ ๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีส่วนที่ขาดหายหรือเกินออกไปได้ โดยขนาดของรูปภาพที่อัปโหลดจะต้องมีขนาด 1080 x 1080 Pixels ขนาดของไฟล์สูงสุดไม่เกิน 30 MB หรือหากอยากโพสต์รูปภาพให้หลากหลายมากขึ้นหรือเป็นอัลบั้มสามารถดูตามรูปภาพด้านล่างได้เลย
2. Video Ads
โฆษณาประเภทนี้จะเพิ่มความหลากหลายหรือลูกเล่นได้มากกว่ารูปภาพธรรมดา เนื่องจากสามารถเอาไปใส่ในหน้า News Feed หรือ Stories ก็ได้ มักใช้ในการโปรโมทแนะนำสินค้า สอนวิธีการใช้งาน หรือรวมรีวิวได้หลากหลายซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจผู้ชมได้ดีกว่าแบบรูปภาพ
ขนาดของคลิปที่อัปโหลดมีขนาดไม่ต่างจากแบบรูปภาพ คือ 1080 x 1080 Pixels ทั้งนี้ทาง Meta (aka Facebook) ยังกล่าวอีกด้วยว่าหากอยากให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุดความยาวของคลิปควรอยู่ที่ 15 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแบรนด์ว่าอยากให้ผู้ชมทำอะไร และต้องมีข้อความส่งถึงที่ชัดเจนและเรียบง่ายที่สุดเพื่อให้ผู้ชมมีปฏิกิริยาตอบกลับมา เช่น ดูเพื่อซื้อ / สั่ง / จองสินค้า เป็นต้น เป็นการตกใจผู้ชม ค้นหาลูกค้าใหม่ได้ไม่ยากเลย
ยิ่งไปกว่านั้นการทำโฆษณาแบบวิดีโอยังไม่ได้หยุดอยู่เพียงตัวคลิปแบบยาว ๆ เพียงอย่างเดียวแต่สามารถสร้างวิดีโอแบบ GIF ได้ด้วย และยังมีข้อดีตรงที่ระยะเวลาการเล่นคลิปได้ไม่เกิน 30 วินาที และต้องมี Framerate ราว ๆ 5 เฟรม / วินาทีหรือช้ากว่านั้น จะทำให้คลิปแบบ GIF อัดแน่นไปด้วยสาระล้วน ๆ ส่งข้อความพุ่งตรงถึงลูกค้าได้โดยตรง เนื้อ ๆ เน้น ๆ ไม่มีน้ำ
-
ตัวอย่าง Video Ads
โดยประเภทไฟล์ที่แนะนำคือ MP4, MOV และ GIF ขนาดสัดส่วน 1:1 สำหรับ Desktop หรือมือถือและ 4:5 สำหรับมือถือเท่านั้น
3. Carousel Ads
คือโฆษณาที่เป็นช่องใส่รูปภาพหรือคลิปวิดีโอขนาดเล็กติด ๆ กันไม่เกิน 10 รูปคล้ายแคตาล็อก ผู้ชมสามารถเลื่อนผ่านซ้ายขวาได้บนหน้าจอมือถือหรือด้วยการกดปุ่มลูกศรบนคอมพิวเตอร์
Carousel สามารถรองรับทั้งความต้องการและประเภทของธุรกิจได้หลากหลาย และช่วยเพิ่มยอด Engagement ได้เป็นอย่างดี อาทิ
- สามารถแสดงตัวอย่างภาพสินค้าได้มากถึง 10 รูปและลิงก์ไปยังหน้า Landing Page ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ชมมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นและยังช่วยเพิ่มค่า CTR (Clickthrough Rate) ได้ดีอีกด้วย
- ใช้เน้นย้ำฟังก์ชั่นที่หลากหลายของสินค้าเพียงตัวเดียว สามารถโชว์ฟังก์ชั่น ข้อดี-เสียของสินค้า รายละเอียดได้ดีกว่าภาพนิ่งหรือวิดีโอ
- Storytelling ด้วยการใช้รูปภาพ / วิดีโอตัดแบ่งเป็นช่องใช้ในการเล่าเรื่องสินค้า / บริการ หรือประวัติของแบรนด์คุณ หน้าตาจะคล้ายการอ่านหนังสือการ์ตูนหรือนิยายออนไลน์
- ช่วยอธิบายกระบวนการทำงาน หากเป็นแบรนด์ที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานจะต้องมีการสร้าง Brand Awareness และ Engagement ดังนั้นความเข้าใจของลูกค้าที่มีต่อการทำงานของแบรนด์ไปทีละขั้นตอนจึงสำคัญ ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกไว้วางใจที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากแบรนด์คุณได้
- มีไว้เพื่อขายแพ็กเกจการบริการ ถ้าธุรกิจของคุณเน้นหนักไปที่การบริการ การใช้ภาพหรือวิดีโอแสดงข้อดีหรือผลประโยชน์ของลูกค้าที่จะได้เมื่อเข้าใช้บริการจะช่วยทำให้เห็นภาพชัดขึ้น รู้สึกปลอดภัยที่จะใช้บริการ
สำหรับแบรนด์ไหนที่ต้องการ หาลูกค้าใหม่ โฆษณาแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่ช่วยนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์ได้ครับ
-
ตัวอย่าง Carousel Ads
ขนาดความกว้าง x ยาวของสื่อคือ 600 x 600 Pixels (ต่ำสุดอยู่ที่ 254 X 133 Pixels สำหรับหน้า Home ของ Messenger) และ 1080 X 1080 Pixels สำหรับวิดีโอ จำนวนการ์ดน้อยที่สุดคือ 2 ขนาดสัดส่วนอยู่ที่ 1:1 และขนาดรูปสูงสุดอยู่ที่ 30 MB – 4GB (วิดีโอ) ไฟล์ที่รองรับ JPG, PNG,MP4 และ MOV
4. Collection Ads
โฆษณาตัวนี้จะค่อนข้างพิเศษเล็กน้อยเพราะจะปรากฎเฉพาะบนมือถือเท่านั้น สามารถแสดงรูปภาพหรือวิดีโอได้ 5 รูปโดยผู้ชมสามารถคลิกซื้อสินค้า / บริการได้ ซึ่ง Collection Ads ประกอบไปด้วยรูปหน้าปกสินค้าตามด้วยรูปภาพ / วิดีโอแสดงสินค้าไล่ตามลงมาด้านล่าง
Collection Ads สามารถใช้ในการ
- ช่วยให้ผู้ชมสามารถค้นหาสินค้าได้เร็วขึ้น เพราะมีแคตาล็อกที่จับคู่สินค้ากับรูปภาพและวิดีโอไว้ให้แล้วทำให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น
- ช่วยให้การดูโฆษณาบนมือถือง่ายขึ้นไปอีก เนื่องจากผู้ชมที่คลิกเข้าโฆษณาสามารถกดดูสินค้าเพิ่มเติมหรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าของคุณได้แบบเต็มจอ
- กระตุ้นให้ผู้ชมสนใจซื้อสินค้าบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณ
- แสดงแคตาล็อกสินค้าของคุณ รวมถึงรูปภาพสินค้า / บริการเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์และกระตุ้นการซื้อได้ดี
-
ตัวอย่าง Collection Ads
ขนาดของสื่อคือ 1080 x1080 Pixels ประเภทไฟล์ JPG, PNG, MP4, MOV และ GIF ความยาววิดีโอสูงสุด 15 วินาที
5. Instant Experience
โฆษณาตัวนี้ไม่ค่อยคุ้นมากนักแต่หลายคนอาจจะเคยเผลอกดชมเข้ามาแล้วบ้าง Instant Experience คือโฆษณาแบบที่จะแสดงผลเต็มหน้าจอเมื่อคุณกดเข้าไปชมสินค้าบนมือถือ ซึ่งส่วนมากแล้วโฆษณาแบบนี้มีจุดประสงค์เอาไว้ดังนี้
- จับความสนใจของผู้ชม เพราะตามชื่อของมันเลยครับ Instant Experience จะโหลดโฆษณามาแบบทันทีทันใด และขยายภาพโฆษณาให้กว้างที่สุดจนเต็มหน้าจอ รองรับได้หลายรูปแบบทั้งโฆษณาแบบภาพ, Carousel, Collection และคลิปวิดีโอ
- เป็น Storyteller ชั้นดี เนื่องจากมีเทมเพลตให้เลือกหลากหลายหรือจะสร้างขึ้นมาเองก็ได้ สามารถสร้างจุดดึงดูดได้ด้วยคำอธิบาย องค์ประกอบศิลป์ ปุ่มกด และลิงก์
- เน้นย้ำสินค้า / บริการของคุณ ด้วยการสร้างประสบการณ์การรับรู้ผ่านการแสดงตัวอย่างสินค้า / บริการ ซึ่งจะช่วยสร้าง Engagement ของผู้ชมให้เข้าถึงแบรนด์คุณได้ง่ายขึ้น
- ช่วยเพิ่มคอนเทนต์ให้โฆษณาของคุณ
-
ตัวอย่าง Instant Experience
ขนาดสัดส่วนที่แนะนำ 9:16 ถึง 16:9 ขนาดไฟล์สูงสุดอยู่ที่ 4GB ความยาวสูงสุด 240 นาที (4 ชั่วโมง) และภายใน Instant Experience ผู้ชมสามารถรับชมคลิปวิดีโอ เลื่อนดูรูปผ่านหน้า Carousel และดูสินค้าผ่านแค็ตตาล็อก ซึ่งส่วนมากแล้วโฆษณาจะไปปรากฎอยู่ใน Facebook News Feed, Facebook Stories, Instagram Feed, Instagram Stories บนมือถือ รับรองว่าเพิ่มประสบการณ์ให้ผู้ชมได้อย่างเต็มที่ ดึงดูดหาลูกค้าใหม่ได้ไม่มีสะดุด

ที่มา : affde.com
6. Lead Ads
เป้าหมายของโฆษณ/นี้คือดึงดูดให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลลงบนฟอร์มของ Facebook และแบรนด์จะทำการติดต่อกลับอีกทีเพื่อเสนอโปรโมชั่นหรือขายสินค้าต่าง ๆ ลักษณะเทมเพลตจะไม่แตกต่างจากแบบแรก ๆ เลย เพราะสามารถใส่เป็นรูปภาพหรือวิดีโอได้ แต่แตกต่างตรงลักษณะการทำงานภายในเท่านั้นคือ เมื่อผู้ชมคลิกเข้าโฆษณา Facebook จะพาคุณเข้าไปยังฟอร์มที่ตั้งไว้ให้กรอกข้อมูลให้ครบ แล้วกดยืนยัน หลังจากที่ได้ส่งข้อมูลไปเรียบร้อยแล้วระบบจะบันทึกไม่ให้คุณได้เห็นโฆษณาตัวนั้นอีกต่อไป
และด้วยความสะดวกของโฆษณาที่ไม่ต้องการรบกวนคุณมากเกินไป Lead Ads ถูกออกแบบมาเพื่อใช้บนมือถือเท่านั้น คอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นการทำ โฆษณา facebook ประเภทนี้ควรมีความแม่นยำสูง ตรงประเด็น ต้องการจะสื่อให้ผู้ใช้งานทำอะไร และจะได้อะไรหลังกรอกข้อมูลไปเรียบร้อยแล้ว
-
ตัวอย่าง Lead Ads
ขนาดสำหรับรูปภาพควรใช้ 1200 x 628 Pixels หรือจะใช้ขนาดอื่นก็ได้ ย้อนกลับไปดูตามรูปด้านบนได้เลย พร้อมใส่ Headline & Description อธิบายครบถ้วน มีปุ่ม CTA กระตุ้นให้ผู้ใช้งานกดเข้ากรอกข้อมูล
7. Dynamic Ads
เพิ่มความเป็น Personalize ไปอีกขั้น! เพราะ Dynamic Ads มีตัวเลือกช่วยโปรโมทสินค้าของคุณให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถึง 2 วิธี วิธีแรกจะช่วยคุณโปรโมทสินค้าให้ตรงตามกลุ่มผู้ใช้งานเป้าหมายที่มีความสนใจตรงกับสินค้าตัวนี้มากที่สุด และอีกวิธีคือเป็นโฆษณากระตุ้น Board Audiences ที่เคยเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์หรือมีความสนใจตรงกับสินค้าของคุณแล้วแต่ไม่ได้ซื้อโฆษณาตัวนี้ก็จะช่วยได้
ซึ่งประโยชน์ของ Dynamic Ads มีดังนี้
- Retargeting ช่วย Retarget คนที่เคยเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์หรือแอปฯ ของคุณแต่ไม่ได้ซื้อ เพื่อกระตุ้นเตือนให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำ
- Personalized เพราะระบบจะส่งคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องให้อัตโนมัติโดยอิงจากพลฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้งาน
- เปิดใช้งานได้ตลอดเวลา โฆษณานี้เป็นแคมเปญอัตโนมัติที่ช่วยโปรโมทและเพิ่มประสิทธิภาพรายการสินค้าทั้งหมดโดยไม่ต้องพึ่งพานักการตลาดมาตั้งค่าการโฆษณาอยู่ตลอด
- ช่วยค้นหาลูกค้าใหม่ คอยเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ที่มีความสนใจเหมือนกันและตรงกับสินค้าของคุณอยู่ตลอด แม้ว่าผู้ใช้งานเหล่านั้นจะไม่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เลยก็ตาม
-
ตัวอย่าง Dynamic Ads
การทำ Dynamic Ads สามารถจัดเทมเพลตได้หลายรูปแบบ และขนาดของรูปภาพที่แนะนำคือ ไม่ต่ำกว่า 500 x 500 Pixels รองรับไฟล์ JPG และ PNG
8. Messenger Ads
ช่องกล่องข้อความคือจุดสำคัญจุดหนึ่งของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ผู้คนมักใช้ในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นและเป็นแอปพลิเคชันที่ต้องผ่านตาอยู่ตลอดพอ ๆ กับแอปหลัก Facebook เนื่องจาก Facebook Messenger Ads สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากกว่า 1.3 พันล้านคนที่ใช้ Messenger อยู่ตลอดทุกเดือน ผู้ใช้งานจะเห็นโฆษณาในแถบช่องแชท มาพร้อมปุ่ม CTA เมื่อคุณกดเข้าไปก็จะมีรายละเอียดของสินค้า / บริการอยู่ข้างใน หรือลิงก์ไปที่ Landing Page ของคุณเอง
เหตุผลว่าทำไม Messenger Ads ถึงดีต่อธุรกิจคุณ และช่วยคุณหาลูกค้าใหม่ได้ยังไง
- สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้เร็วกว่าโฆษณาแบบอื่น กว่า 73% ของลูกค้าอยากคุยกับทีม Sales ผ่าน Live Chat มากกว่าอีเมลและกว่า 56% ต้องการที่จะพิมพ์คุยกันมากกว่าที่จะโทรหาฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และลูกค้าหลายคนคงไม่อยากรอนานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันเพียงเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตอบแชท ยกเว้นแต่ว่าคุณจะทำโฆษณาบนช่องแชทเพื่อให้ลูกค้าทักเข้ามาเลย ดังนั้น Messenger Ads จึงตอบโจทย์ในเรื่องของการติดต่อได้ดีกว่า
- สามารถ Personalized โฆษณาเข้าถึงผู้คนได้ง่าย เนื่องจากโฆษณาตัวนี้สามารถปรับเปลี่ยนข้อความให้เป็นแบบ Personalize และลงโฆษณาบนช่องแชทของผู้ใช้งานที่มีความสนใจในแบรนด์หรือสินค้าใกล้เคียงของคุณได้โดยตรง และเพื่อความเป็นส่วนตัว Messenger Ads จะไม่สามารถส่งโฆษณาถึงคนที่ไม่ได้สนใจในสินค้า / บริการของคุณอย่างแน่นอนครับ
- สามารถกำหนด Local Targeting ได้ดีกว่า เพราะมีฟีเจอร์ Local Awareness ที่สามารถเลือก Local Audience แบบเจาะจงได้ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้สร้าง Engagement ได้อย่างมหาศาล เมื่อใดก็ตามที่โฆษณาแบบ Localized ได้ปล่อยออกมาแล้ว คุณก็สามารถยื่นข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าที่อยู่ในเขตพื้นที่ดูแลของสาขาย่อยของแบรนด์คุณได้
- เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่อยากพูดคุยโดยตรงกับทีม Sales เพราะโฆษณาแบบอื่นอาจยื่นข้อเสนอให้ลูกค้าซื้อสินค้า / บริการในตอนนั้นเลยจะทำให้ลูกค้าขาดการประเมินและการคิดอย่างรอบคอบก่อนซื้อ รวมถึงไม่เข้าใจในตัวสินค้านั้นอย่างชัดเจน แต่โฆษณาแบบ Messenger ลูกค้าจะได้โต้ตอบกับทีม Sales จริง ๆ ทำให้ทีมสามารถประเมินวความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าและยื่นข้อเสนอที่เหมาะสมให้ได้
-
ตัวอย่าง Messenger Ads
ขนาดรูปที่แนะนำคือ 1200 x 628 Pixels ขนาดเล็กที่สุดไม่ต่ำกว่า 254 x 133 Pixels สัดส่วนที่แนำนำอยู่ที่ 9:16 ถึง 16:9 แต่จะถูกตัดออกเหลือเพียง 1.9:1
9. Stories Ads
หากอยากได้โฆษณาที่ใหญ่เต็มหน้าจอ เห็นสินค้าได้ถนัดขึ้น และเป็นภาพเคลื่อนไหวที่เห็นสัดส่วนสินค้าได้ชัดเจน แนะนำโฆษณาแบบ Stories ที่ตอบโจทย์ทุกข้อที่กล่าวมา เพราะโฆษณาตัวนี้จะปรากฎคั่นกลางระหว่าง Organic Stories ทั่วไป สามารถเข้าถึงได้ทั้งบน Facebook และ Instagram ใช้สำหรับเพิ่ม Reach ในแคมเปญของคุณ เนื่องจากตัวโฆษณาสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากถึง 500 ล้านคนทั่วโลก!
ทำไม Stories Ads ถึงเหมาะสำหรับโฆษณาเพื่อธุรกิจ
- Stories ช่วยเพิ่มความสนใจของลูกค้าได้ วิธีที่จะทำให้แบรนด์คุณและสินค้าของคุณถูกพบเห็นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นความสำคัญจึงตกเป็นเรื่องของการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงความสนใจลูกค้าและต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าในตอนนั้นพอดี ฉะนั้น Stories Ads จึงเป็นสื่อกลางที่เหมาะที่สุดในการสร้าง Engagement กับแบรนด์ผ่านวิดีโอสั้นที่น่าสนใจ
- ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าเกิด Action กับแบรนด์ กว่า 58% ของผู้ใช้งานที่ได้ดูโฆษณาผ่าน Stories บอกว่าได้เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า / บริการผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์ และกว่า 31% ได้เข้าไปเยี่ยมชมหน้าเพจที่มีรายการสินค้าให้เลือก
- สามารถนำเสนอเรื่องราวได้รวดเร็ว ดูเป็นจริง และมีประโยชน์ เพราะความสนใจในสิ่งต่าง ๆ ของคนเรามีน้อย กว่า 52% ของผู้ใช้งานที่เห็นโฆษณาผ่าน Stories บอกว่าอยากเห็นโฆษณาที่รวดเร็ว ดูแล้วเข้าใจง่าย แนะนำผลิตภัณฑ์แบบตรง ๆ และมากถึง 46% อยากให้แบรนด์มีคอนเทนต์ที่พูดถึงทิปและคำแนะนำเล็กน้อย
-
ตัวอย่าง Stories Ads
ระยะเวลา Instagram Stories แบบรูปภาพสูงสุดอยู่ที่ 5 วินาทีและวิดีโออยู่ที่ 60 วินาที Facebook Stories 6 วินาที – 15 วินาที ขนาดไฟล์ได้ตั้งแต่ 30 MB – 4GB รองรับไฟล์ JPG, PNG, MP4 และ MOV ขนาดรูป 1080 x 1920 Pixels
10. AR Ads (Augmented Reality Ads)
เรียกได้ว่าเป็นโฆษณาที่มาใหม่ล่าสุดในช่วงเวลาไล่เลี่ยก่อนเปิดตัวรีแบรนด์ของบริษัท Meta (aka Facebook) ที่นำเทคโนโลยีจาก Metaverse เข้ามาผสมผสานวงการโฆษณาให้ล้ำยิ่งขึ้น AR Ads จะมีฟีเจอร์ที่เป็นฟิลเตอร์หรือแอนิเมชั่นที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนจริง ๆ ซึ่งลูกค้าสามารถทดลองสินค้าผ่านการใช้งานเทคโนโลยีตัวนี้ได้ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ผลิตเครื่องสำอาง คุณก็สามารถใช้โฆษณาตัวนี้แมทช์ผิวของคุณกับเครื่องสำอางจำลองที่ทางแบรนด์ได้สร้างไว้ให้ เหมือนเป็นการทดลองสินค้าโดยที่ตัวคุณไม่ต้องไปถึงหน้าร้าน ช่วยเพิ่มระดับการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ดี และผู้ใช้งานยังสามารถแชร์คอนเทนต์เหล่านั้นลงบน Stories ได้ทั้ง Facebook และ Instagram ช่วยดึงดูดหาลูกค้าหน้าใหม่ที่อยากทดลองโฆษณาแบบใหม่นี้เข้ามาด้วย คุณสามารถเข้าไปทดลองสร้างโฆษณาแบบใหม่นี้ได้ที่ Spark AR Hub
นอกจากนี้ตัวโฆษณายังมีการเพิ่มปุ่ม CTA กระตุ้นให้ผู้ใช้งานเข้าเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์หรือสินค้า / บริการของคุณได้โดยตรงอีกด้วย
และเนื่องจากโฆษณาตัวนี้ค่อนข้างใหม่ผลการวิเคราะห์การโฆษณาจึงต้องใช้ Metrics for Augmented Reality Ads เป็นตัวช่วยคำนวณซึ่งจะมีค่าที่จำเป็นอย่าง Instant Experience view Time และ Effect Shares
-
ตัวอย่าง AR Ads
ส่วนของระยะเวลาและเทมเพลตของ AR Ads จะใช้รูปแบบเดียวกับ Stories Ads ขนาดไฟล์จำกัดที่ 4 MB.
ที่มา: Facebook
และนี่คือ 10 รูปแบบ โฆษณา facebook ที่นักธุรกิจออนไลน์มือใหม่ มือเก๋าต้องไม่พลาด เพราะหากคุณรู้จักการใช้เครื่องเหล่านี้เป็นอย่างดีรับรองได้เลยว่าการหาลูกค้าใหม่จะไม่ยากอย่างที่คิด แถมยังมีลูกเล่นให้ผู้ใช้งานเข้ามาร่วมสนุกกันได้อย่าง AR Ads ที่รับรองได้ว่าจะช่วยเพิ่ม Engagement ให้คุณได้อย่างลงตัว ถือเป็นการตลาดแบบบอกต่อไปโดยปริยาย
——————————————————————–
ร่วมงานกับทีม Cotactic Media บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress และเป็นหนึ่งในบริษัทโฆษณาออนไลน์ชั้นนำ อาทิ รับทำโฆษณา Facebook ฯลฯ ที่จะช่วยให้คุณตอบโจทย์การหาลูกค้าให้คุณได้ตามเป้าหมายแบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness หรือ Lead Generation ก็ทำได้หมด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญกับทีม Cotactic เพื่อให้เราเป็น Collaborative Marketing Partner ทำงานเป็นทีมร่วมกันกับคุณ
——————————————————————–
ติดต่อ
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://line.me/R/ti/p/@cotactic
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://web.facebook.com/business/help/1263626780415224?id=802745156580214&_rdc=1&_rdr