เคยไหมที่ต้องตัดสินใจซื้อสินค้าที่อาจจะไม่ได้จำเป็นกับเรามากขนาดนั้น เพียงเพราะเห็นป้าย Flash Sale (แฟลชเซลล์) เพราะนอกจากสินค้าจะต้องมี ‘คุณภาพ’ แล้ว อีกปัจจัยที่ทำให้เราเสียเงินซื้อได้ง่าย ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องของ ‘ราคาที่ถูกกว่า’ แล้วถ้าหากมี ‘เวลา’ มาจำกัดการตัดสินใจซื้อของคุณล่ะ? ไม่แปลกเลยหากคุณจะกดสินค้านั้นลงตะกร้าและจ่ายเงินอย่างง่ายดาย รู้ตัวอีกทีก็มีพัสดุมาส่งถึงหน้าบ้านแล้ว นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เหล่า E-Marketplace ใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada หรือแพลตฟอร์มที่น่าจับตามองในตอนนี้อย่าง TikTok Shop นิยมใช้กลยุทธ์นี้ในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้งาน แถมยังเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าในแพลตฟอร์มได้อีกด้วย วันนี้ Cotactic เราเป็น Digital Marketing Agency จะพามาทำความรู้จักกับกลยุทธ์การขายสินค้าแบบ Flash Sale ให้มากขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณกัน
Flash Sale คืออะไร
Flash Sale คือหนึ่งในกลยุทธ์ในการขายสินค้าที่นิยมใช้กับร้านค้าออนไลน์ ด้วยการออกโปรโมชันสินค้าราคาพิเศษให้กับลูกค้า โดยกำหนดช่วงเวลาในการซื้อขายในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อเร่งให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าเร็วที่สุด ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาในการจัดโปรโมชันเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึก Fear of Missing out (FOMO) หรืออาการไม่อยากพลาดช่วงเวลาหรือโอกาสบางอย่างไป เมื่ออารมณ
การทำ Flash Sale ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างไร?
การลดราคาแบบ Flash Sale อาจจะเป็นการลดราคามากกว่าการลดราคาตามปกติ หรือบางร้านอาจจะหั่นราคาเท่าทุนเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจสินค้าทำให้หลายธุรกิจอาจจะยังลังเล หรือไม่กล้ากระโดดเข้ามาเล่นในสนาม Flash Sale นี้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง การทำการตลาดโดยใช้การลดราคาแบบรุนแรงนี้ ก็มีข้อดีในการขายสินค้าในระยะยาวที่เราควรคำนึงถึง
กระจายสินค้าออกไปได้อย่างรวดเร็ว
หากสินค้าบาง SKU ของคุณมีจำนวนมาก และต้องการขายออกไปในเวลาที่รวดเร็ว Flash Sale ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการขายที่เหมาะที่สุด เพราะสินค้าราคาถูกมีโอกาสช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ามากกว่า 1 ชิ้น
จูงใจลูกค้าด้วยราคา มากกว่าตัวเลือกที่หลากหลาย
สินค้าบาง SKU ที่มีจำนวนเหลือน้อย หรือเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจน้อยกว่าสินค้าชิ้นอื่น การขายราคาที่ถูกลงในเวลาที่จำกัด จะช่วยทำให้ลูกค้าหันมาสนใจสินค้าชิ้นนั้น ๆ ได้ โดยเฉพาะสินค้าประเภท เสื้อผ้า รองเท้า ที่มีสี ไซซ์เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า แม้สีอาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ถ้าราคาถูกกว่า ก็อาจจะกดลงตะกร้าได้ง่าย ๆ
ทำให้สินค้าใหม่เป็นที่รู้จักมากขึ้น
เวลาเรามีสินค้าใหม่ออกมาสิ่งหนึ่งที่ต้องการคืออยากให้ลูกค้าได้ซื้อไปลองใช้ การใช้กลยุทธ์นี้ในการลดราคาจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ถึงแม้ลูกค้าจะยังไม่ซื้อในตอนนี้ แต่เมื่อเห็นราคาที่ดึงดูดใจ ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะกดเข้ามาดูสินค้าของเรามากขึ้น
เพิ่มโอกาสในการหาลูกค้าใหม่
ลูกค้าบางกลุ่มต้องการของคุณภาพดีที่สุด แม้จะต้องจ่ายแพงแค่ไหนก็ตาม แต่ก็มีลูกค้าอีกจำนวนมากที่ต้องการของมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม โดยที่ไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์เดิม ๆ ที่เคยซื้อ และเปิดใจกับสินค้าจากแบรนด์ใหม่ ๆ ช่วงเวลาในการจัด Flash Sale นี้ อาจเป็นโอกาสที่ทำให้ลูกค้าใหม่ได้เข้ามาทำความรู้จักกับสินค้าและแบรนด์ของคุณมากขึ้น และอาจเทิร์นกลับมาเป็นลูกค้าของคุณในระยะยาว
ดึงลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ
หากสินค้าของคุณได้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าแล้ว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าในราคาปกติได้อีก และอาจจะเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ว่าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ แถมราคาถูกกว่าปกติอีกด้วย
เพิ่มโอกาสเป็นร้านค้าแนะนำบน E-Marketplace
ในกรณีที่คุณขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-Marketplace เช่น Lazada หรือ Shopee การที่ร้านค้า หรือสินค้าของคุณมีลูกค้ามาซื้อสินค้าจำนวนมาก จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือจากจำนวนสินค้าที่ขาย ได้ที่แสดงผลอยู่บนแอปพลิเคชัน เมื่อคุณมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า และจัดส่งได้ตรงตามเกณฑ์ของแอปฯ ร้านค้าของคุณก็มีสิทธิ์ได้รับเครื่องหมาย ‘ร้านค้าแนะนำ’ หรือถูกดึงไปแสดงผลในหน้าสินค้าแนะนำของแอปฯ เหล่านี้อีกด้วย
Flash Sale ควรทำช่วงไหน
การลดราคา นับว่าเป็น Online Marketing อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนการสร้างโอกาสให้กับลูกค้าใหม่ ๆ ให้กล้าลองสินค้าของเราในราคาที่ถูกลง และเป็นการรักษาลูกค้าเก่าให้ได้ของเราในราคาที่ถูกกว่าปกติ แต่ข้อควรระวังในการลดราคา คือการรักษาความถี่ไม่ให้มากจนเกินไป จนลูกค้ารู้สึกว่าเราลดราคาตลอดทั้งปี เมื่อเราลดราคาบ่อย ๆ ลูกค้าจะเริ่มจับทางได้แล้วว่า เดี๋ยวสิ้นเดือนสินค้าชิ้นนี้ก็จะลดราคาอีก ทำให้ร้านค้าอาจจะสูญเสียกำไรไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นการเลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อรักษาความถี่จึงเป็นเรื่องสำคัญ
Double Day Campaign
เมื่อคุณต้องการซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง คุณมักจะนึกถึง Double Day หรือที่ทุกคนคุ้นเคยกับแคมเปญอย่าง 8.8 / 9.9 / 10.10 ก่อนเสมอ เพราะร้านค้าและเหล่าแพลตฟอร์ม E-Marketplace ต่างแจกส่วนลดค่าจัดส่ง และส่วนลดค่าสินค้า ให้ลูกค้าได้ใช้งานกันอย่างเพลิดเพลิน Double Day Campaign จึงเป็นวันที่ลูกค้าตั้งใจเข้ามาซื้อสินค้าลดราคาโดยเฉพาะ เป็นโอกาสที่ดีที่ธุรกิจของคุณควรจะกระโดดเข้ามาเล่นในแคมเปญนี้
Mid-Year Campaign
ช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม เป็นอีกช่วงของปีที่เหมาะกับการเคลียร์สต็อกสินค้า ยิ่งถ้าหากคุณเป็นธุรกิจที่ขาย Seasonal Product ยิ่งเหมาะแก่การเคลียร์สินค้าในช่วงฤดูร้อน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขายสินค้าคอลเลคชันฤดูหนาวในช่วงสิ้นปี
End of Year Campaign
ปลายเดือนพฤศจิกายน – มกราคม เป็นช่วงที่คึกคักที่สุดของปี เพราะเป็นช่วงที่ใครหลาย ๆ คนกำลังมองหาของขวัญให้ตัวเองและคนใกล้ชิด ทำให้เหล่าบรรดาร้านค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ต่างพากันลดราคาสินค้าสู้กันอย่างดุเดือด เหมือนเป็น Mega Sales Campaign ของปีเลยก็ว่าได้ แถมลูกค้าก็ตั้งตารอคอยช่วงเวลานี้ของปีเพื่อจะได้ซื้อสินค้าคุณภาพในราคาถูก
ขั้นตอนและทริคในการทำ Flash Sale มีอะไรบ้าง?
การทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ Flash Sale นั้น อาจดูเหมือนแค่การลดราคาทั่วไป แต่หากคุณมีทริคในการเลือกสินค้า และการตั้งราคาอีกสักหน่อยก็อาจจะช่วยให้เร่งยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้
เลือกสินค้าดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
การเลือกสินค้ามาจัดโปรโมชัน Flash Sale นั้น แม้จะเป็นการเลือกสินค้าที่ต้องการระบายจากสต็อก หรือสินค้าที่เหลือจำนวนน้อยชิ้น แต่อย่าลืมที่จะสร้าง Value ให้กับสินค้าชิ้นนั้น ๆ ยิ่งเป็นสินค้าใหม่ที่ต้องการนำมา Flash Sale ควรจะต้องใส่รายละเอียดให้ครบถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ได้มากที่สุด
สื่อสารกับลูกค้าว่าจะมีการจัด Flash Sale
การสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ว่าจะมีการจัดโปรโมชันเป็นสิ่งสำคัญมาก สามารถสื่อสารได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การใส่แบนเนอร์บนหน้าเว็บไซต์ โปรโมตบน Social Media การซื้อโฆษณา บรอดแคสต์ข้อความผ่านทาง LINE หรือแม้แต่การไลฟ์แจ้งโปรโมชันซึ่งเป็นที่นิยมในแพลตฟอร์ม E-Marketplace ในขณะนี้ โดยการสื่อสารกับลูกค้า ควรทำล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนถึงวันแคมเปญ
กำหนดระยะเวลา Flash Sale ให้เหมาะสม
อย่างที่เราเริ่มเข้าใจกันแล้วว่ากลยุทธ์ในการขายรูปแบบ Flash Sale จะต้องเน้นที่ราคาถูกและมีเวลาจำกัด ดังนั้นช่วงเวลาในการทำ Flash Sale ไม่ควรนานเกินไป นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่เร่งด่วนในการซื้อ อาจส่งผลถึงภาพลักษณ์แบรนด์ในเชิงที่ว่า อย่างไรแบรนด์นี้ก็ลดราคาตลอดอยู่แล้ว จะเดินไปซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นส่วนใหญ่เวลาทำ Flash Sale ควรจะอยู่ในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง มากสุดไม่ควรเกิน 6 ชั่วโมง หรือถ้ามีสินค้าในสต็อกเหลืออยู่เยอะมาก ก็อาจจะขยายเวลาให้นานขึ้นเป็น 1-3 เป็นต้น
เตรียมระบบและทีมงานให้พร้อมต่อการสั่งซื้อจำนวนมาก
ช่วงเวลา Flash Sale สิ่งหนึ่งที่ลูกค้ากังวลคือกลัวจ่ายเงินไม่ทัน ระบบที่ใช้ในการขาย และระบบในการจ่ายเงิน (Payment Gateway) จึงสำคัญเป็นอย่างมาก หากมีปัญหาขัดข้องในช่วงเวลานี้อาจทำให้คุณเสียลูกค้าไป รวมไปถึงทีมงานแอดมินในการตอบคำถาม และทีมงานแพ็กสินค้าที่รองรับการสั่งซื้อที่มากกว่าปกติ
Flash Sale ต้อง Flash จริง
เมื่อจบแคมเปญ Flash Sale แล้วจะต้องปรับราคาขึ้นมาเป็นราคาปกติทันที เพื่อให้ลูกค้าได้เรียนรู้ว่าถ้าพลาดโอกาสในรอบนี้ไปแล้ว หากทางร้านมีการจัด Flash Sale อีก ควรรีบตัดสินใจซื้อทันที และลูกค้าที่มีโอกาสได้ซื้อไปแล้วจะรู้สึกภูมิใจว่าตนเองได้รับสินค้าในราคาที่ถูกกว่าปกติ จนอาจเกิดการบอกต่อให้คนใกล้ชิดได้รับโอกาสนั้นอีกด้วย
ตัวอย่างแบรนด์ดังที่ใช้ Flash Sale มาช่วยกระตุ้นยอดขาย
ปัจจุบันการทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ Flash Sale นั้น กลายเป็นโปรโมชันที่ร้านค้าออนไลน์นำมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองกันอย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าแทบจะเป็นวัฒนธรรมการซื้อของออนไลน์กันไปแล้ว ขอหยิบยก 3 แบรนด์ดังที่ใช้ Flash Sale มาช่วยกระตุ้นยอดขาย มาให้ได้ลองศึกษากัน
Maybelline กับการขายลิปสติก 500 แท่งภายในเวลา 1 ชั่วโมง (2014)
Maybelline ได้เริ่มต้นทำ e-Commerce ในไทยตั้งแต่ปี 2014 และเป็นแบรนด์แรกที่ทดลองธุรกิจ Mobile Commerce โดยการใช้ LINE Flash Sale ที่ได้รับความร่วมมือระหว่าง aCommerce และ LINE (Naver Corperation) ซึ่งผลตอบรับออกมาดีเกินคาด ภายใน 1 ชั่วโมง Maybelline มียอดขายปลีกลิปสติก 500 แท่ง โดยมีข้อมูลสรุปออกมาว่า LINE Flash Sales ใช้เวลาปิดการขายเร็วที่สุดที่ 4 นาที เฉลี่ยการใช้เวลาซื้อสินค้าต่อการสั่งซื้ออยู่ที่ 20 วินาที โดยมีผู้ใช้งานอยู่ที่ 20,000 คนในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือว่าเยอะมากในช่วงปี 2014 ช่วงที่คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นชินกับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์
Unilever จับมือกับ Shopee ปล่อย Shopee Games แจกส่วนลดสินค้าในแคมเปญ Shopee 8.8 Crazy Flash Sale (2021)
แคมเปญ Shopee 8.8 Crazy Flash Saleในปี 2021 บริษัท Unilever โชว์ความสำเร็จกับการเป็นเจ้าแห่ง Gamification บนโลก ECommerce ด้วยการเทคโอเวอร์เกมบน Shopee Games ไม่ว่าจะเป็น Shopee Farm, Shopee Candy, Shopee Pets, Daily Prizes, และเกมอื่น ๆ ให้ลูกค้าได้เข้าไปเล่นเกมเพื่อรับโค้ดส่วนลดที่สามารถซื้อสินค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Vaseline, Dove , Tresemme , Sunsilk, Lux , และ Clear ซึ่งเป็นสินค้าที่ร่วมแคมเปญ Shopee 8.8 Crazy Flash Sale โดยมีส่วนลดสูงสุด 50% ช่วยสร้างความสนุกและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้ช้อปสินค้าในราคาสุดคุ้มภายในวันที่จัดแคมเปญ
Singer ใช้ Data ในการหาจังหวะออกโปรโมชันเพิ่มยอดขาย 200.04% (2022)
เมื่อช่วงต้นปี 2022 แบรนด์ดังอย่าง Singer ได้นำวัน Lazada Birthday มาเล่าให้เข้ากับ Context ใหม่ ๆ โดยการออกแคมเปญ Pre- Lazada Birthday Sales ออกดีลเด็ด ลดราคาสินค้าหนักพอ ๆ กับช่วง Lazada Birthday Sales ทำให้ลูกค้าไม่ต้องรอไปจนถึงแคมเปญ แถมแบรนด์ยังโดดเด่น แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ต่างพากันเข้าร่วมแคมเปญ Lazada Birthday โดย Singer ได้จัด Flash Sale ราคาพิเศษนี้ทั้งในแอปฯ Lazada และ Shopee ซึ่งหลังจบแคมเปญ Singer มียอดขายรายเดือนเพิ่มขึ้นถึง 200.04% และมีอัตราการคลิกเข้าชมสินค้า (CTR) อยู่ที่ 189.83% ช่วยเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์ให้กับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลานั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
สรุป
การลดราคาสินค้าแบบ Flash Sale ถึงแม้จะเป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้ความกล้า ต้นทุน และสูญเสียกำไรจากการขายสินค้าไปบ้าง แต่ก็ยังมีข้อดีและประโยชน์ในการใช้กลยุทธ์นี้ในระยะยาวมากมายที่เราควรนำกลับมาพิจารณา สิ่งที่คุณได้รับกลับมาอาจมีมูลค่ามากกว่ากำไรที่คุณเสียไป ธุรกิจที่สนใจการทำการตลาดรูปแบบนี้ สามารถใช้ Data มาพิจารณาควบคู่ไปด้วย เช่น ลดราคาต่ำสุดได้เท่าไหร่ลูกค้าจึงจะสนใจ หรือแม้แต่ช่วงเวลาไหนที่แบรนด์มีลูกค้าเข้ามาซื้อมากที่สุด ก็สามารถนำมาใช้ในการตั้งเวลาแคมเปญ Flash Sale ให้กับธุรกิจของคุณได้
ต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้าน Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic