หลายคนอาจจะทราบดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันมีไฟล์ภาพหลายรูปแบบ ซึ่งที่พบเจอได้บ่อยครั้งนอกจากไฟล์ jpeg นั้นก็คือ ไฟล์ webp ที่ได้จากการดาวน์โหลดภาพจากบนอินเทอร์เน็ต ในบทความนี้ Cotactic บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress จะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า และไขข้อสงสัยถึงความแตกต่าง ข้อดี หรือข้อเสียระหว่างไฟล์ชนิดนี้กับชนิดอื่น ๆ
ไฟล์ WebP คือ อะไร
ไฟล์ WebP คือ ไฟล์มาตรฐานที่ Google กำหนดขึ้นในช่วงปี 2010 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานและพฤติกรรมการดาวน์โหลดรูปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันสามารถรองรับการทำงานได้แทบทุกเบราว์เซอร์ และไฟล์ webp ยังได้รับความนิยมสูง เนื่องจากไฟล์ชนิดนี้จะช่วยให้ขนาดไฟล์เล็กลง แต่คงคุณภาพของรูปได้อย่างดีเยี่ยม โดยเล็กกว่า ไฟล์ jpeg กว่า 25-34% และเล็กกว่าไฟล์ png กว่า 22% โดยตามปกติ นามสกุลไฟล์ดังกล่าวจะปรากฏในรูปแบบ เช่น photo.webp sunflower.webp
ประเภทของไฟล์ webp
แม้ว่านามสกุลไฟล์ที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตาจะต่อท้ายด้วย .webp แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเภทไฟล์ดังกล่าวยังแบบได้ 2 ชนิด ดังนี้
-
webp – Lossless
คุณสมบัติพิเศษของไฟล์ webp ชนิดนี้คือ เป็นภาพโปร่งแสงคล้ายกับ png มีขนาดใหญ่กว่าไฟล์เดิม 22% แต่ 22% ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวยังขนาดเล็กกว่า png
-
webp – Lossy
เป็นไฟล์ที่บันทึกแบบ RGB สำหรับจะนำไปใช้กับสื่อแสดงภาพ ซึ่งแม้ว่าจะต้องนำไปแสดงผลในจอขนาดใหญ่ แต่คุณภาพของไฟล์กลับเล็กลงกว่า png ถึง 3 เท่า
ข้อดีของไฟล์ webp
-
ขนาดเล็ก แต่คุณภาพไฟล์ดี
ดังที่กล่าวมาในข้างต้น ไฟล์ webp คือ ไฟล์ที่มีขนาดเล็ก โดย Google จะบีบอัดให้ขนาดเล็กลง แต่คุณภาพยังคงดีเยี่ยม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกในการดาวน์โหลดภาพได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดพื้นที่การเก็บข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น
-
มีผลต่อคะแนน SEO
หากเว็บไซต์ใช้รูปแบบภาพไฟล์ webp จะช่วยทำให้หน้าเว็บไซต์โหลดอย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มอันดับในการค้นหา รวมถึงมีส่วนช่วยในการทำให้หน้าติดอันดับ Google
-
ช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเมื่อไฟล์มีขนาดเล็ก ย่อมทำให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สะดวกต่อผู้ใช้งาน เนื่องจากในปัจจุบัน การทำงานของหน้าเว็บไซต์หรือการโหลดหน้ามีผลต่อการตัดสินใจใช้งานเว็บไซต์นั้น ๆ หากโหลดช้าหรือไม่ทันใจ ผู้ใช้งานอาจออกจากเว็บไซต์ และใช้บริการของเจ้าอื่นแทน
ข้อเสียของไฟล์ webp
-
คุณภาพดี แต่ไม่เทียบเท่าสกุลไฟล์อื่น
แม้ว่าคุณภาพไฟล์ที่ใช้จะดีเยี่ยม แต่อาจดีไม่เทียบเท่าสกุลไฟล์อื่น ๆ หากต้องการภาพที่ความชัดเจนและคุณภาพสูงสุด ดังนั้น ในกรณีนี้อาจขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้จัดทำเว็บไซต์ในการเลือกนามสกุลไฟล์
-
ไม่ตอบโจทย์การใช้งานออฟไลน์
Google และทีมพัฒนาออกแบบและปรับให้ไฟล์ webp ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ดังจะเห็นได้จากการดาวน์โหลดภาพบนอินเทอร์เน็ตแล้วส่วนใหญ่เป็นนามสกุลไฟล์ webp ดังนั้น นามสกุลไฟล์ชนิดนี้จึงเหมาะสมสำหรับการใช้งานแบบออนไลน์เพียงเท่านั้น
หลังจากเห็นถึงข้อดีและข้อเสียของไฟล์ชนิดนี้ในเบื้องต้น หลายๆ คน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ทำเว็บไซต์สำนักข่าว ผู้รับทำ SEO หรือองค์กร เจ้าของเว็บไซต์ขนาดใหญ่จึงนิยมใช้ไฟล์ webp บนเว็บไซต์ของตนเอง
วิธีแปลงไฟล์ webp ง่าย ๆ ทำได้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ หากใครที่ดาวน์โหลดภาพจากอินเทอร์เน็ตและพบว่าเป็นไฟล์ webp ซึ่งไม่สะดวกต่อการใช้งาน ก็สามารถแปลงไฟล์ง่ายๆ ดังนี้
การแปลงไฟล์ผ่านเว็บไซต์
การแปลงไฟล์ผ่านเว็บไซต์สามารถทำได้ง่ายๆ ทั้งในกรณีแปลงไฟล์อื่นเป็น webp หรือแปลง webp กลับเป็นไฟล์อื่น เพียงเลือกเข้าเว็บไซต์ เช่น convertio.co, freeconvert, xconvert จากนั้นทำตามขั้นตอน ดังนี้
- กดรูปแบบไฟล์ที่ต้องการแปลง
- อัปโหลดรูปที่ต้องการแปลง กดแปลงไฟล์
- กดดาวน์โหลดภาพนามสกุลไฟล์ที่ต้องการได้ทันที
การแปลงไฟล์ผ่าน Adobe Photoshop
ปัจจุบัน Adobe Photoshop ประกาศรองรับสกุลไฟล์ webp แล้ว ดังนั้น หากใครที่มี Adobe Photoshop สามารถแแปลงไฟล์ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- เลือกเปิดภาพไฟล์ webp ที่ต้องการแปลง
- กด Save As (บันทึกเป็น) โดยเปลี่ยนเมนู Format (รูปแบบ) ให้เป็นนามสกุลไฟล์ที่ต้องการ
- กด Save ก็จะได้ภาพนามสกุลไฟล์ใหม่ที่ต้องการ
สรุป
หากใครที่ต้องการลดขนาดไฟล์ เพิ่มความเร็วของการโหลดหน้าเว็บ รวมถึงเพิ่มอันดับคะแนน SEO การเลือกใช้ไฟล์ webp ที่มีขนาดไฟล์เล็ก แต่คงคุณภาพดี อาจลองปรับเปลี่ยนหรือเลือกใช้เป็นไฟล์ webp แทน ทั้งนี้ อาจจะต้องศึกษาถึงข้อจกัดหรือข้อเสียเพิ่มเติม เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวก
——————————————————————–
หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก