กลยุทธ์การตลาด หรือ Marketing Strategy คือขั้นตอนหรือกระบวนการคิดที่ผ่านการวิเคราะห์ออกมาเป็นแบบแผนอย่างมีชั้นเชิง ว่าตัวธุรกิจต้องทำอย่างไรถึงจะบรรลุเป้าหมายทางการตลาดที่ตั้งไว้ ซึ่งในปัจจุบันการวางแผนกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมกับตัวธุรกิจมีหลากหลายขั้นตอนด้วยกัน โดยจะมีวิธีการ วางแผนกลยุทธ์การตลาด อย่างไรบ้างนั้น Cotactic บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นมาให้ผู้ประกอบการทุกท่านได้ลองศึกษากันแล้วครับ
7 วิธี วางแผนกลยุทธ์การตลาด มีขั้นตอนการวางแผนอะไรบ้าง?
สำหรับขั้นตอน วิธีการวางแผนกลยุทธ์การตลาด ที่จะช่วยทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ จะมีขั้นตอนสำคัญอยู่ทั้งหมด 7 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
1.ตั้งเป้าหมายในการทำการตลาด
อันดับแรกก่อนที่เราจะสร้างกลยุทธ์การตลาดขึ้นมาใช้งานนั้น เราจำเป็นต้องมีเป้าหมายทางการตลาดที่ชัดเจนก่อน ว่าตัวธุรกิจต้องการทำการตลาดไปเพื่ออะไร เช่น
- ต้องการเพิ่มยอดขาย รายได้ หรือผลกำไร
- ต้องการสร้าง Brand Awareness หรือ สร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์
- ต้องการสร้าง Traffic ให้กับตัวเว็บไซต์ของตัวธุรกิจ
- ต้องการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย
- ต้องการหาลูกค้าใหม่ให้กับตัวธุรกิจ
เพราะการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้กลยุทธ์ของเราทำงานได้อย่างเหมาะสมและสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ตรงต่อความต้องการ ทำให้เรารู้ว่าต้องวางแผนแบบไหน ต้องดำเนินการอย่างไรถึงจะพาธุรกิจเดินทางไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ โดยเป้าหมายที่เราวางก็ควรเป็นเป้าหมายที่ดีและเหมาะสมกับตัวธุรกิจ คุณอาจเริ่มต้นโดยการลิสต์สิ่งที่ตัวธุรกิจต้องการออกมา จากนั้นก็นำมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับทรัพยากรที่เรามี ว่าธุรกิจของเรามีศักยภาพพอที่จะทำตามเป้าหมายได้ไหม ซึ่งถ้าเป้าหมายทางการตลาดของคุณชัดเจนและสามารถทำได้จริง มันก็จะช่วยให้ขั้นตอนต่อ ๆ ไปง่ายขึ้นครับ
2.วิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจ
อีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องทำการวิเคราะห์และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยก็คือ ภาพรวมของตัวธุรกิจว่าเรามีจุดเด่นจุดแข็งอะไร มีจุดยืนหรือสถานะแบบไหน โอกาสและอุปสรรคที่เราต้องเจอมีอะไรบ้าง รวมถึงการทำความรู้จักตลาดเบื้องต้นว่าธุรกิจเรามีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน พวกเขามีจุดเด่นอย่างไร และต้องทำยังไงเราถึงจะแตกต่าง สิ่งเหล่านี้คือคำถามที่ผู้ประกอบการหรือทีมการตลาดต้องตอบให้ได้ เพราะยิ่งคุณเข้าใจและรู้จักตัวธุรกิจของคุณดีมากเท่าไหร่ การวางแผนกลยุทธ์การตลาดก็จะทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น
3.ทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมาย
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร คุณก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวธุรกิจว่าคุณกำลังขายสินค้าหรือบริการให้กับใคร พวกเขาเป็นคนกลุ่มไหน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร มีพฤติกรรมหรือความสนใจแบบใด และที่สำคัญที่สุดคือต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าหาพวกเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ หากคุณรู้จักหรือมีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายในมือ กลยุทธ์การตลาดที่เราสร้างก็จะมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น เราจะรู้ได้อย่างทันทีว่าต้องใช้ช่องทางอะไรในการสื่อสาร ต้องใช้ Message แบบไหนถึงจะได้ผล ต้องใช้กลยุทธ์แบบใดถึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ
4.กำหนดช่องทางในการสื่อสาร
ลำดับถัดมาคือการเลือกช่องทางในสื่อสาร ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เพราะช่องทางที่เราเลือกนั้น คือช่องทางที่เราจะใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านกลยุทธ์การตลาดที่เรากำลังสร้าง มันจึงควรเป็นช่องทางที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมของพวกเขา เช่น Social Media, Email, Search Engine หรือโฆษณาบน Youtube เป็นต้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มต่างก็มีช่องทางที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ถ้าเราศึกษากลุ่มเป้าหมายมาดี รู้จักลูกค้าของตัวธุรกิจอย่างทะลุปรุโปร่ง คุณก็จะทราบได้อย่างทันทีว่าจะใช้ช่องทางไหนในการสื่อสารบ้าง
5.เลือกใช้กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์
หลังจากทำการวิเคราะห์ภาพรวมของตัวธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และช่องทางในการสื่อสารไปแล้ว ลำดับถัดมาที่เราต้องทำก็คือการเลือกกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีกลยุทธ์การตลาดมากมายที่เราสามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น
- SEO
- Content Marketing
- Influencer Marketing
- Personalized Marketing
- Email Marketing
- Video Marketing
- Inbound Marketing
- Outbound Marketing
โดยในแต่ละธุรกิจก็จะมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป แต่หลัก ๆ แล้วเกณฑ์สำคัญที่เรานำมาใช้เลือกกลยุทธ์นั้นก็คือ กลุ่มเป้าหมาย เพราะถ้าคุณเลือกใช้กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง มันก็จะช่วยดึงดูดให้พวกเขาหันมาสนใจและมีส่วนร่วมกับแคมเปญการตลาดของคุณมากยิ่งขึ้น
6.วางแผนงบประมาณ
งบประมาณในการทำการตลาดก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ตัวธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะการทำการตลาดหรือการทำโฆษณามีค่าใช้จ่ายตามมาเสมอ กลยุทธ์ที่เราเลือกใช้จะสามารถทำงานได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่เรามีทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงควรวางแผนกลยุทธ์การตลาดควบคู่ไปกับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้กลยุทธ์ที่เราสร้างสามารถใช้งานได้จริงและตอบโจทย์กับความต้องการของตัวธุรกิจมากที่สุด
7.กำหนด KPI หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพ
KPI หรือ Key Performance Indicator หมายถึงตัวชี้วัดความสำเร็จของงานโดยเทียบวัดผลจากมาตรฐานหรือเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ การกำหนด KPI จะช่วยให้ตัวธุรกิจรู้ว่าเราต้องทำอะไรและมีอะไรที่เราต้องได้มาหลังจากดำเนินกลยุทธ์ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเพราะมันจะช่วยให้เราเห็นภาพรวม ว่ากลยุทธ์ที่ใช้เดินทางมาถึงจุดไหนแล้ว เราเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้หรือยัง และตัวกลยุทธ์มีอะไรที่ต้องปรับปรุงบ้าง
หลังจาก “วางแผนกลยุทธ์การตลาด” และได้ข้อมูลมาทั้งหมดแล้ว เราต้องอย่าลืมวางกำหนดการหรือวางไทม์ไลน์การดำเนินงานให้เรียบร้อย ว่าต้องทำอะไรบ้างหรือจะต้องโฟกัสอะไรก่อนเป็นอันดับแรก และอะไรที่ควรโฟกัสไว้ที่หลัง เพื่อให้ผู้ประกอบการและทีมการตลาด จะได้มีการจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดจะช่วยทำให้การทำงานนั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเป็นระบบมากที่สุดนั่นเอง
หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณข้อมูลจาก